การทำความสะอาดหลังจากใช้งานกล้องถ่ายวิดีโอใต้น้ำ/ใกล้น้ำ
-
ทำความสะอาดกล้องถ่ายวิดีโอด้วยน้ำหลังจากใช้งานแล้วภายใน 60 นาทีทุกครั้ง และห้ามเปิดฝาปิดช่องใส่แบตเตอรี่/แผ่นบันทึกข้อมูล/ขั้วต่อจนกว่าจะทำความสะอาดเสร็จ เม็ดทรายหรือน้ำอาจเข้าไปในบริเวณที่มองไม่เห็นได้ หากไม่ได้ล้างทำความสะอาด ประสิทธิภาพในการกันน้ำอาจลดลง
-
รินน้ำบริสุทธิ์ลงในภาชนะที่สะอาด แล้วแช่กล้องถ่ายวิดีโอทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นเขย่ากล้องถ่ายวิดีโอเบาๆ และกดปุ่มแต่ละปุ่มในขณะที่ยังอยู่ในน้ำ เพื่อกำจัดเกลือ, เม็ดทราย หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นที่อาจติดอยู่บริเวณรอบๆ ปุ่มกด
-
หลังจากล้างทำความสะอาดแล้ว ให้เช็ดหยดน้ำออกด้วยผ้านุ่มๆ ปล่อยกล้องถ่ายวิดีโอทิ้งไว้จนแห้งสนิทเอง ในบริเวณที่ร่มและมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ห้ามเป่าแห้งโดยใช้เครื่องเป่าผม เพราะมีโอกาสที่จะทำให้ตัวกล้องเสียรูปและ/หรือทำให้ประสิทธิภาพในการกันน้ำลดลง
-
ใช้ผ้าแห้งนุ่มๆ เช็ดหยดน้ำหรือฝุ่นบนฝาปิดช่องใส่แบตเตอรี่/แผ่นบันทึกข้อมูล/ขั้วต่อ
-
กล้องถ่ายวิดีโอถูกออกแบบให้มีการระบายน้ำออกได้ โดยน้ำจะระบายออกจากช่องเปิดที่อยู่บริเวณปุ่มซูมและปุ่มอื่นๆ หลังจากยกขึ้นจากน้ำแล้ว ให้วางกล้องถ่ายวิดีโอลงบนผ้าแห้งสักครู่เพื่อให้น้ำระบายออก
-
อาจมีฟองอากาศปรากฏขึ้นเมื่อวางกล้องถ่ายวิดีโอลงในน้ำ ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดปกติแต่อย่างใด
-
ตัวกล้องถ่ายวิดีโออาจมีการเปลี่ยนสีไปได้ หากสัมผัสกับครีมกันแดดหรือน้ำมันทาผิวสำหรับอาบแดด หากกล้องถ่ายวิดีโอสัมผัสกับครีมกันแดดหรือน้ำมันทาผิวสำหรับอาบแดด ให้เช็ดทำความสะอาดออกโดยเร็ว
-
อย่าปล่อยให้ตัวกล้องถ่ายวิดีโอมีน้ำทะเลอยู่ภายในในหรือที่พื้นผิว เพราะอาจทำให้เกิดสนิมหรือเกิดการเปลี่ยนสีได้ และอาจทำให้ประสิทธิภาพในการกันน้ำลดลง
-
เม็ดทรายที่เป็นโลหะอาจเกาะติดกับขอบด้านข้างของจอภาพ LCD หากมีเม็ดทรายที่เป็นโลหะเกาะติดกับกล้องถ่ายวิดีโอ ให้เช็ดออกเบาๆ ด้วยผ้านุ่มๆ เพื่อไม่ให้ตัวกล้องถ่ายวิดีโอหรือจอภาพ LCD เกิดรอยขีดข่วน
-
เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกันน้ำ ขอแนะนำให้นำกล้องถ่ายวิดีโอของท่านไปยังร้านตัวแทนจำหน่ายหรือร้านบริการซ่อมที่ได้รับการรับรองปีละครั้ง เพื่อทำการเปลี่ยนปะเก็นซีลกันรั่วของฝาปิดช่องใส่แบตเตอรี่/แผ่นบันทึกข้อมูล/ขั้วต่อ (มีค่าใช้จ่าย)