การเริ่มต้นใช้งาน
- การใช้คู่มือช่วยเหลือ
- การใช้รีโมทคอนโทรล
- ค้นหาด้วยเสียง
- การทำให้ทีวีอัพเดทอยู่เสมอ
- การแนะนำ Android TV™
- การทำงานพื้นฐาน
- คุณสมบัติการเข้าถึง
- เว็บไซต์ช่วยเหลือ
การใช้คู่มือช่วยเหลือ
คู่มือช่วยเหลือนี้อธิบายวิธีการใช้งานทีวีเครื่องนี้ ท่านยังสามารถดู คู่มือการตั้งค่า สำหรับคำอธิบายเกี่ยวกับการติดตั้งทีวี และ คู่มืออ้างอิง สำหรับคำอธิบาย ข้อมูลจำเพาะของชิ้นส่วน และตัวยึดผนังของทีวีเครื่องนี้ได้
ในคู่มือช่วยเหลือนี้ ท่านสามารถอ่านข้อมูลที่ต้องการตามลำดับหรือค้นหาข้อมูลโดยตรงได้ ในการค้นหา เลือก ที่ด้านบนของหน้าจอ
แบบคู่มือช่วยเหลือ
มีคู่มือช่วยเหลือสำหรับทีวีของท่านสองแบบ: คู่มือช่วยเหลือในเครื่องและคู่มือช่วยเหลือออนไลน์ ในการดูคู่มือช่วยเหลือออนไลน์ ทีวีของท่านต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ในการเปลี่ยนระหว่างแบบในเครื่องกับแบบออนไลน์ ใช้ปุ่มเปลี่ยน (A) ที่ด้านบนของหน้าจอ ท่านสามารถตรวจสอบว่ากำลังแสดงคู่มือช่วยเหลือแบบใดได้โดยการดูชื่อที่ด้านบนของหน้าจอ
- เชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต
- เลือก (A) เพื่อเปลี่ยนแบบคู่มือช่วยเหลือ
หมายเหตุ
- เพื่อใช้งานคุณสมบัติล่าสุดที่อธิบายไว้ในคู่มือช่วยเหลือ ท่านอาจจำเป็นต้อง ปรับปรุงซอฟต์แวร์ของ TV สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงซอฟต์แวร์ โปรดดูที่หน้า การปรับปรุงซอฟต์แวร์
- ชื่อของการตั้งค่าใน Help Guide อาจแตกต่างจากที่แสดงในทีวีขึ้นอยู่กับวันที่วางจำหน่ายทีวีหรือรุ่น/ประเทศ/ภูมิภาคของคุณ
- ภาพและภาพประกอบที่ใช้ในคู่มือช่วยเหลืออาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นทีวีของท่าน
- การออกแบบและข้อมูลจำเพาะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
คำแนะนำ
- หากต้องการตรวจสอบว่าทีวีของท่านมีหนึ่งในฟังก์ชั่นที่อธิบายไว้ในคู่มือช่วยเหลือหรือไม่ ให้ดูคู่มือการใช้งานหรือแค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์ Sony
- คู่มือช่วยเหลือนี้ถูกเขียนขึ้นสำหรับทุกท้องที่/ประเทศ คำอธิบายบางส่วนในคู่มือช่วยเหลือนี้ไม่สามารถใช้ได้ในบางท้องที่และประเทศ
การใช้รีโมทคอนโทรล
คุณสามารถใช้งานคุณสมบัติของทีวีหลายรายการได้โดยใช้ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) / (ซ้าย) / (ขวา) และ (Enter)
รูปทรงและปุ่มของรีโมทคอนโทรลจะแตกต่างกันไปตามรุ่น/ประเทศ/ภูมิภาคของคุณ
รีโมทคอนโทรลที่มีอยู่จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรุ่นของท่าน สำหรับคำอธิบายของปุ่มต่าง ๆ ของรีโมทคอนโทรล ให้ดูที่ คู่มืออ้างอิง
- ใช้ปุ่ม (ขึ้น), (ลง), (ซ้าย) และ (ขวา) เพื่อ “เลือก” ไปยังรายการที่ต้องการ
- กดที่ กึ่งกลาง ของปุ่ม (Enter) เพื่อเลือกรายการที่กำลังอยู่ในการเลือก
การกลับไปยังหน้าจอก่อนหน้านี้
กดปุ่ม BACK
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลอื่นๆ โปรดดูหัวข้อที่เกี่ยวข้องด้านล่าง หรือ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
ค้นหาด้วยเสียง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รีโมทคอนโทรลที่สนับสนุนการค้นหาด้วยเสียงมีปุ่ม (ไมโครโฟน) และไมโครโฟนในตัว ท่านสามารถค้นหาเนื้อหาต่าง ๆ ได้ด้วยการพูดลงในไมโครโฟน
- กดปุ่ม (ไมโครโฟน)
ไฟ LED บนรีโมทคอนโทรลจะสว่างขึ้น - พูดลงในไมโครโฟน
อาจมีตัวอย่างคำพูดแสดงบนหน้าจอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น
เมื่อท่านไม่สามารถค้นหาโดยใช้เสียงของท่าน
ลงทะเบียนรีโมทสั่งงานด้วยเสียงที่มีปุ่ม (ไมโครโฟน) ไปยัง TV อีกครั้งโดยการกดปุ่ม HOME และเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่ารีโมทคอนโทรลแผงสัมผัส]/[รีโมทสั่งงานด้วยเสียง]
คุณคุณมีรีโมทคอนโทรลแผงสัมผัส ให้ลงทะเบียนอุปกรณ์ไปยัง TV อีกครั้ง
การตั้งค่าที่ปรากฏจะต่างกันไปตามรุ่นของคุณ
หมายเหตุ
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจำเป็นสำหรับการใช้งานการค้นหาด้วยเสียง
- ชนิดของรีโมทคอนโทรลที่ให้มาพร้อมกับทีวีจะแตกต่างกันไป และรีโมทคอนโทรลแบบมีไมโครโฟนในเครื่องจะมีในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ รีโมทคอนโทรลเสริมสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ภูมิภาค/ประเทศ
การทำให้ทีวีอัพเดทอยู่เสมอ
ทีวีจะรับข้อมูลอย่างเช่น คู่มือ ผังรายการ หรือซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดมา (เมื่อเปิดใช้งาน [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ] เอาไว้) ขณะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย เพื่อให้ทีวีของท่านได้รับการอัพเดท เราแนะนำให้ท่านปิดทีวีตามปกติโดยใช้ปุ่มเปิดปิดบนรีโมทคอนโทรลหรือทีวี
การแนะนำ Android TV™
- การแสดงภาพในหน้าจอขนาดเล็ก
- การติดตั้งแอปจาก Google Play Store
- การย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
- การดูสื่ออินเตอร์เน็ต
- การเพลิดเพลินไปกับแอพพลิเคชั่นและบริการวิดีโอสตรีมที่ปลอดภัย (ความปลอดภัยและข้อจำกัด)
การแสดงภาพในหน้าจอขนาดเล็ก
ท่านสามารถแสดงภาพที่ท่านกำลังรับชม (รายการ ทีวี หรือเนื้อหาจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ HDMI) เป็นหน้าจอขนาดเล็กที่มุมหนึ่งได้
ตำแหน่งของหน้าจอขนาดเล็กจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ TV ของท่าน
หมายเหตุ
- คุณไม่สามารถใช้ [การแสดงผลหลายแหล่งพร้อมกัน] บน TV ที่มีชื่อรุ่นลงท้ายด้วยอักษร “C”
การแสดงภาพเป็นหน้าจอขนาดเล็ก
- กดปุ่ม ACTION MENU ขณะรับชมรายการ ทีวี หรือเนื้อหาจากอุปกรณ์ HDMI จากนั้นเลือก [การแสดงผลหลายแหล่งพร้อมกัน]
ภาพปัจจุบันจะแสดงเป็นหน้าจอขนาดเล็กที่มุมหนึ่ง
หมายเหตุ
- หน้าจอขนาดเล็กจะแสดงที่ด้านบนของแอพพลิเคชั่นล่าสุดที่ใช้ อย่างไรก็ตาม แอพพลิเคชั่นที่แสดงอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับสภาวะบางประการ
- การทำงานต่างๆ เช่น การเปลี่ยนช่อง จะถูกปิดใช้งานในขณะที่รับชมด้วยหน้าจอขนาดเล็ก
- รายการ ทีวี, ช่องต่อเข้า เช่น อุปกรณ์ HDMI , แอพพลิเคชั่นที่เล่นภาพยนตร์ หรือบางแอพพลิเคชั่นที่เล่นภาพหรือเพลง ไม่สามารถแสดงพร้อมกันได้
- ตำแหน่งของหน้าจอขนาดเล็กจะถูกปรับโดยอัตโนมัติ ท่านไม่สามารถตั้งค่าด้วยตนเองได้
การปิดหน้าจอขนาดเล็กหรือการกลับไปแสดงแบบเต็มจอ
- กดปุ่ม HOME เพื่อแสดงโฮมเมนู
ข้อความสำหรับหน้าจอขนาดเล็กจะปรากฏที่ด้านบนของหน้าจอ - ในข้อความการแสดงผลหน้าจอขนาดเล็ก ให้เลือก [เปิด]
- ใช้ปุ่มใต้หน้าจอขนาดเล็กเพื่อปิดหน้าจอขนาดเล็กหรือกลับไปที่แบบเต็มหน้าจอ
ภาพด้่านล่างเป็นเพียงภาพตัวแทนและอาจแตกต่างจากหน้าจอจริง
การติดตั้งแอปจาก Google Play Store
ท่านสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นจาก Google Play Store มายังทีวี เช่นเดียวกับในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้
หมายเหตุ
- ท่านสามารถติดตั้งแอปได้เฉพาะที่รองรับกับ TV เท่านั้น ซึ่งอาจแตกต่างจากแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต
- ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและบัญชี Google ในการติดตั้งแอพพลิเคชั่นจาก Google Play Store
คำแนะนำ
- หากท่านไม่มีบัญชี Google หรือต้องการสร้างบัญชีร่วม ให้สร้างบัญชีใหม่โดยการเข้าถึงเว็บไซต์ต่อไปนี้
https://accounts.google.com/signup https://accounts.google.com/signup
เว็บไซต์ข้างต้นอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน นอกจากนี้ยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ สำหรับรายละเอียด ให้ดูที่โฮมเพจ Google - เราแนะนำให้ท่านสร้างบัญชี Google บนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือ
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู จากนั้นเลือก Google Play Store จากรายการแอป
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS คุณสามารถกดปุ่ม APPS เพื่อให้แสดงรายการแอปได้ - เลือกแอปที่จะติดตั้ง
หลังจากการดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่นจะติดตั้งและเพิ่มโดยอัตโนมัติ ไอคอนของแอพพลิเคชั่นจะปรากฏในรายการแอพที่ติดตั้งแล้ว ทำให้ท่านสามารถเข้าใช้งานได้
เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นที่ต้องเสียเงิน
Google Play Store มีทั้งแอพพลิเคชั่นฟรีและแอพพลิเคชั่นที่ต้องเสียเงิน การซื้อแอพพลิเคชั่นที่ต้องเสียเงิน จำเป็นต้องใช้รหัสบัตรของขวัญ Google Play หรือข้อมูลบัตรเครดิต ท่านสามารถซื้อบัตรของขวัญ Google Play ได้จากผู้ค้าปลีกต่างๆ
การลบแอพพลิเคชั่น
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู เลือก Google Play Store จากรายการแอป แล้วเลือก แอปของฉัน
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS คุณสามารถกดปุ่ม APPS เพื่อให้แสดงรายการแอปได้ - เลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการลบ และจากนั้นถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่น
การย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถย้ายแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดมาไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เพื่อเพิ่มพื้นที่ที่สามารถใช้งานในทีวีได้
หมายเหตุ
- เมื่อท่านฟอร์แมตอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกไว้ในอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB จะถูกลบออก สำรองข้อมูลที่สำคัญของท่านก่อนการฟอร์แมต
- การดำเนินการตามขั้นตอนนี้จะฟอร์แมตอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เพื่อการใช้งานกับทีวีโดยเฉพาะ ดังนั้น ท่านอาจไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB กับคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ได้
- บางแอพพลิเคชั่นไม่สามารถย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ได้
- เชื่อมต่ออุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เข้ากับทีวี
- กดปุ่ม HOME เลือก [การตั้งค่า] — [ที่เก็บข้อมูลและการรีเซ็ต] — อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่ต้องการ
- ฟอร์แมตเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายใน
- เมื่อสิ้นสุดการฟอร์แมต กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [แอป]
- เลือกแอพพลิเคชั่นที่ท่านต้องการย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
- เลือกอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB จากการเก็บข้อมูลที่ใช้ แอพพลิเคชั่นจะถูกย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
คำแนะนำ
- ทำตามขั้นตอนที่ 4 ถึง 6 อีกครั้งเพื่อย้ายแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
การนำอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ออก
- กดปุ่ม HOME เลือก [การตั้งค่า] — [ที่เก็บข้อมูลและการรีเซ็ต] — อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่ต้องการ จากนั้นเลือกตัวเลือกเพื่อนำออก
หมายเหตุ
- อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ใช้สำหรับการบันทึกแอพพลิเคชั่นเท่านั้น การใช้งานอุปกรณ์้เก็บข้อมูล USB เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ท่านต้องฟอร์แมตอุปกรณ์อีกครั้ง
- หากท่านลบแอพพลิเคชั่นในอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB โดยใช้คอมพิวเตอร์ ท่านจะไม่สามารถเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นจากทีวีได้
- หากท่านนำอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ออกจากทีวี ท่านจะไม่สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ถูกย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ได้
- ท่านไม่สามารถกำหนดให้อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เป็นตำแหน่งติดตั้งของแอพพลิเคชั่นได้ ติดตั้งแอพพลิเคชั่นบนทีวีตามปกติก่อน จากนั้นจึงย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
การดูสื่ออินเตอร์เน็ต
ท่านสามารถใช้บริการวิดีโอสตรีม เช่น YouTube™ และ Netflix เพื่อดูเนื้อหาในอินเตอร์เน็ตได้ บริการที่สามารถใช้งานได้จะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับประเทศและท้องที่ของท่าน ท่านสามารถใช้บริการเหล่านี้ได้โดยการเลือกสัญลักษณ์ของบริการเหล่านี้ในโฮมเมนู
หมายเหตุ
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจำเป็นสำหรับการดูเนื้อหาในอินเตอร์เน็ต
การเพลิดเพลินไปกับแอพพลิเคชั่นและบริการวิดีโอสตรีมที่ปลอดภัย (ความปลอดภัยและข้อจำกัด)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถแน่ใจในการใช้งานที่ปลอดภัยของทีวีได้โดยการตั้งค่าการจำกัดการติดตั้งบนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ดาวน์โหลดมาจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก หรือการจำกัดอายุบน รายการ และวิดีโอ
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — จากนั้นเลือกตัวเลือกต่างๆ เช่น [ความปลอดภัยและข้อจำกัด] หรือ [ควบคุมระดับสิทธิการเล่น (การออกอากาศ)]
หมายเหตุ
- หากท่านเปลี่ยนการตั้งค่า [ความปลอดภัยและข้อจำกัด] อุปกรณ์และข้อมูลส่วนตัวของท่านจะเสี่ยงต่อการโจมตีโดย แอพพลิเคชั่นที่ไม่รู้จักจากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ Play Storeมากยิ่งขึ้น ท่านยินยอมที่จะรับผิดชอบแต่ผู้เดียวหากเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์หรือการสูญหายของข้อมูลของท่านอันอาจเป็นผลมาจากการใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้
คำแนะนำ
- อาจสามารถใช้การจำกัดแยกอื่นๆ ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูที่ช่วยเหลือของแอปนั้น
การทำงานพื้นฐาน
- โฮมเมนู
- การใช้ “แถบเนื้อหา” (DISCOVER)
- การใช้ เมนูการดำเนินงาน
- การเลือกสัญญาณเข้า
- วิธีที่ทำให้ไฟ illumination LED สว่างขึ้น
โฮมเมนู
หน้าจอที่แสดงเมื่อคุณกดปุ่ม HOME บนรีโมทคอนโทรลเรียกว่าโฮมเมนู จากโฮมเมนู ท่านสามารถค้นหาเนื้อหาและเลือกเนื้อหา แอปและการตั้งค่าที่แนะนำ
การค้นหา การแจ้งเตือน ช่องสัญญาณเข้า ตัวตั้งเวลา และการตั้งค่า (A)
แอป (B)
แสดงแอป โปรด ของท่าน
- หากท่านเลือก [แอป] รายการแอปที่ติดตั้งไว้จะปรากฏขึ้น
- เลือก [เพิ่มแอปไปยังรายการโปรด] เพื่อเพิ่มแอปลงใน รายการโปรด
- หากคุณเลือกแอปที่เพิ่มเข้ามาแล้วกดปุ่ม (Enter) ค้างไว้บนรีโมทคอนโทรล คุณสามารถเปลี่ยนลำดับการจัดเสียงหรือลบ รายการโปรดได้
- หากเลือกแอปทีวีคุณสามารถรับชมรายการทีวีหรือป้อนข้อมูลได้
เล่นต่อ (C)
แสดงสิ่งที่คุณสามารถดูต่อไปได้ขึ้นอยู่กับเนื้อหา
หมายเหตุ
- หากไม่มีเนื้อหาที่สามารถใช้งานได้ ระบบจะไม่แสดง [เล่นต่อ]
ช่อง (D)
แถวด้านล่าง แอป (B) เรียกว่า “ช่อง” ที่นี่คุณสามารถรับชมเนื้อหาที่แนะนำจากบริการวิดิโอสตรีมมิ่งได้
คำแนะนำ
- ประวัติของช่องล่าสุดที่รับชับจะแสดงอยู่ใน [ทีวี]
- คุณสามารถเพิ่มเนื้อหาลงใน เล่นต่อ โดยเลือกเนื้อหาบนช่องใดก็ได้และกดปุ่มค้างไว้ (Enter) บนรีโมทคอนโทรล
- คุณสามารถย้ายบางช่องได้ใน “ช่อง (D)” ซึ่งอยู่ในโฮมเมนู ใช้ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) เพื่อเลื่อนโฟกัสไปยังไอคอนรูปวงกลมของแถวที่คุณต้องการย้าย และกดปุ่ม (ซ้าย) (หรือ (ขวา) ขึ้นอยู่กับภาษาที่ใช้แสดงผลของ TV) เพื่อให้สามารถเลื่อนแถวขึ้นหรือลงโดยกดปุ่ม (ขึ้น) / (ลง)
กำหนดค่าช่อง (E)
[กำหนดค่าช่อง] ใช้เพื่อแสดงหรือซ่อนเนื้อหาในช่อง
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลอื่นๆ ให้ดูที่ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
การใช้ “แถบเนื้อหา” (DISCOVER)
ท่านสามารถใช้ “แถบเนื้อหา” เพื่อค้นหาเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น รายการทีวี และวิดีโอบนอินเตอร์เน็ต เนื้อหาที่แสดงใน “แถบเนื้อหา” จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
- กดปุ่ม DISCOVER
“แถบเนื้อหา” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ - เลือกโฟกัสขึ้นหรือลงเพื่อเลือกประเภทที่ต้องการ
- เลื่อนโฟกัสไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเลือกรายการที่ต้องการ
- กดปุ่ม (Enter) เพิ่มเปิดใช้รายการที่เลือก
การเปลี่ยนการตั้งค่าของฟังก์ชั่นนี้
- กดปุ่ม DISCOVER
“แถบเนื้อหา” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ - เลื่อนโฟกัสลงไปยังประเภท [การตั้งค่า]
- เลือกรายการที่ต้องการเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่า
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [แสดง/ซ่อนหมวดหมู่]
- เลือกประเภทเนื้อหาที่จะแสดงใน DISCOVER ท่านไม่สามารถซ่อน [การตั้งค่า]
ท่านสามารถซ่อน [ได้รับความนิยมสูงสุด] ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นทีวีของท่าน - [เรียงลำดับหมวดหมู่ใหม่]
- เลือกประเภทเนื้อหาเพื่อจัดลำดับใหม่
- [เพิ่มช่องไปยังรายการโปรด]
- เพิ่ม ช่องโปรด ของท่านไปยัง DISCOVER
- [เพิ่มหมวดหมู่ตามประเภท]
- เพิ่มหมวดเพื่อสร้างประเภทเนื้อหาของท่านเอง
- [เพิ่มหมวดหมู่ตามคำสำคัญ]
- เพิ่มคำสำคัญเพื่อสร้างประเภทเนื้อหาของท่านเอง
- [ขนาดการแสดงผล]
- เลือกขนาดการแสดงของเมนู
หมายเหตุ
- บางตัวเลือกอาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศของท่าน
การใช้ เมนูการดำเนินงาน
ด้วยการกดปุ่ม ACTION MENU เมนูจะปรากฏขึ้นและท่านจะสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบันที่แสดงอยู่บนหน้าจอ เช่น การปรับภาพ, การปรับเสียง, การปรับระดับเสียงสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ (เช่น หูฟัง) และการตั้งค่าการแสดงผล/เสียง รายการต่างๆ ในเมนูจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหน้าจอที่เลือกไว้
- กดปุ่ม ACTION MENU
- เลื่อนโฟกัสไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเลือกประเภทที่ต้องการ
- เลือกโฟกัสขึ้นหรือลงเพื่อเลือกรายการที่ต้องการ
- กดปุ่ม (Enter) เพิ่มเปิดใช้รายการที่เลือก
การเลือกสัญญาณเข้า
หากต้องการใช้อุปกรณ์ต่างๆ (เช่น เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD) ที่เชื่อมต่อกับทีวี หรือดูทีวีหลังจากใช้งานอุปกรณ์แล้ว คุณจะต้องสลับช่องสัญญาณเข้า
- กดปุ่ม (เลือกสัญญาณเข้า) ซ้ำๆ เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
คำแนะนำ
- หากต้องการเปลี่ยนคำสั่งหรือซ่อนรายการที่แสดงอยู่ ให้กดปุ่ม (Enter) บนรีโมทคอนโทรลค้างไว้ขณะเลือกรายการนั้น และ [ย้าย] และ [ซ่อน] จะปรากฏ หากคุณเลือก [ย้าย] ให้ใช้ (ซ้าย) / (ขวา) บนรีโมทคอนโทรลเพื่อย้ายรายการไปยังตำแหน่งที่ต้องการจากนั้นกดปุ่ม (Enter) บนรีโมทคอนโทรล
- ท่านสามารถเปลี่ยนเป็นการออกอากาศทางทีวีได้โดยการกดปุ่ม TV บนรีโมทคอนโทรล
การเปลี่ยนจากโฮมเมนู
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือกแหล่งสัญญาณเข้าจาก [อินพุต]
วิธีที่ทำให้ไฟ illumination LED สว่างขึ้น
สีบาง สี จะปรากฏที่กึ่งกลางด้าน ล่าง ของทีวีเพื่อระบุกิจกรรมหรือสถานะที่แน่ชัด
สีขาว “สว่าง” หรือ “กะพริบ” |
|
สีฟ้าเขียว “กะพริบ” |
|
สีอำพัน “สว่าง” |
|
สีชมพู “สว่าง” |
|
คุณสมบัติการเข้าถึง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
TV เครื่องนี้มีคุณสมบัติในด้าน [การเข้าถึง] ฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียงพูดสำหรับข้อความบนหน้าจอ การซูมเพื่อให้สามารถอ่านข้อความได้ง่ายขึ้น และคำบรรยายใต้ภาพ
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การเข้าถึง] เพื่อกำหนดค่าคุณสมบัติอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้
คำแนะนำ
- การใช้การแปลงข้อความเป็นเสียงพูดตามคู่มือช่วยเหลือ ให้ดูคู่มือช่วยเหลือในเว็บไซต์ช่วยเหลือ Sony โดยใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน
http://www.sony-asia.com/support/
http://www.sony-asia.com/support/
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
สำหรับข้อมูลล่าสุดและคู่มือช่วยเหลือออนไลน์ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ช่วยเหลือ Sony :
http://www.sony-asia.com/support/
http://www.sony-asia.com/support/
การรับชมทีวี
- การรับชมรายการ ทีวี
- การรับชมในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- การรับชมทีวีสองหน้าจอ
การรับชมรายการ ทีวี
- การใช้ผัง รายการ
- การปรับการตั้งค่าช่อง
- การใช้บริการทีวีที่ออกอากาศแบบอินเตอร์แอคทีฟ
- การทำความเข้าใจไอคอนต่างๆ บนแถบข้อมูล
การใช้ผัง รายการ
ท่านสามารถค้นหารายการที่ชื่นชอบของท่านได้อย่างรวดเร็ว
- กดปุ่ม GUIDE เพื่อแสดง ผังรายการ แบบดิจิตอล
- เลือก รายการ ที่จะรับชม
รายละเอียดของ รายการ จะปรากฏขึ้น - เลือก [รับชม] เพื่อรับชม รายการ
การเปลี่ยน ผัง รายการ
ท่านสามารถเปลี่ยน ผัง รายการเป็น [การเลือกของทีวี] หรือ [Guide ประเภท] ได้ บางตัวเลือกอาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศของท่าน นอกจากนี้คุณสามารถสลับไปยังคู่มือ ผังรายการ เพื่อดู [รายชื่อที่บันทึกไว้] (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น) หรือ [รายการตั้งเวลา] ได้
- เลื่อนโฟกัสไปยังรายการซ้ายสุด จากนั้นเลื่อนไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อเปิดเมนู
- เลือกผังรายการหรือ รายการ ที่ต้องการ
การใช้ฟังก์ชั่นเสริม
- ขณะที่ ผังรายการ แสดงอยู่ กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือกรายการที่ต้องการ
การปรับการตั้งค่าช่อง
- การรับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอล
- การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
การรับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอล
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [ดิจิตอลจูนนิ่ง] — [ปรับช่องอัตโนมัติแบบดิจิตอล]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อปรับจูนช่องดิจิตอลทั้งหมดที่มีและจัดเก็บการตั้งค่าไว้ในทีวี
การเปลี่ยนช่วงการปรับจูน
เลือก [ปกติ] หรือ [เต็ม] ใน [ช่วงการปรับช่องอัตโนมัติ]
- [ปกติ]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ภายในท้องที่/ประเทศของท่าน
- [เต็ม]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ไม่ว่าจะเป็นท้องที่/ประเทศใด
คำแนะนำ
- คุณสามารถปรับจูนทีวีใหม่ได้โดยการเรียกใช้ [ปรับช่องอัตโนมัติแบบดิจิตอล] หลังจากย้ายไปยังที่พักอาศัยใหม่ เปลี่ยนผู้ให้บริการ หรือเพื่อค้นหาช่องที่เพิ่งเปิดใหม่
การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถแยกประเภทการแสดงช่องตามลำดับที่ท่านต้องการได้
สำหรับช่องสัญญาณดิจิตอล
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [ดิจิตอลจูนนิ่ง] — [ปรับรายการโปรแกรม]
- เลือก รายการ ที่ท่านต้องการย้ายไปยังตำแหน่งใหม่
- เลือกตำแหน่งใหม่ที่ต้องการย้ายรายการที่เลือกไว้
สำหรับ ช่องสัญญาณ อนาล็อก
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [เรียงลำดับช่อง]
- เลือก รายการ ที่ท่านต้องการย้ายไปยังตำแหน่งใหม่
- เลือกตำแหน่งใหม่ที่ต้องการย้ายรายการที่เลือกไว้
หมายเหตุ
- ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้อาจแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน
การใช้บริการทีวีที่ออกอากาศแบบอินเตอร์แอคทีฟ
การแสดงข้อมูลตัวอักษร
ท่านสามารถดูข้อมูลตัวอักษรและข้อมูลภาพกราฟฟิกที่เป็นตัวอักษร ซึ่งรวมไปถึงข่าวในประเทศ, ข้อมูลสภาพอากาศ และผังรายการทีวี ท่านสามารถค้นดูข้อมูลที่ท่านสนใจ และเลือกข้อมูลที่ท่านต้ิองการแสดงโดยการใส่หมายเลข
- กดปุ่ม (อักษร) เพื่อแสดงข้อมูลตัวอักษร
ข้อมูลเกี่ยวกับบริการข้อมูลตัวอักษรดิจิตอล
บริการข้อมูลตัวอักษรดิจิตอลนำเสนอเนื้อหาที่ประกอบไปด้วยภาพกราฟฟิกและภาพถ่ายอย่างเรียบเนียน มีคุณสมบัติหลายรายการที่สามารถใช้งานได้ เช่น การเชื่อมโยงหน้าและการนำทางที่ใช้งานง่าย บริการนี้มีให้บริการโดยสถานีออกอากาศจำนวนมาก (คุณสมบัตินี้จะสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ)
ข้อมูลเกี่ยวกับบริการอินเตอร์แอคทีฟแอพพลิเคชั่นแบบดิจิตอล
บริการอินเตอร์แอคทีฟแอพพลิเคชั่นนำเสนอข้อความและภาพกราฟฟิกดิจิตอลคุณภาพสูง พร้อมทั้งตัวเลือกขั้นสูงต่างๆ บริการนี้มีให้บริการโดยสถานีออกอากาศหลายราย (คุณสมบัตินี้จะสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ)
หมายเหตุ
- บริการแบบอินเตอร์แอคทีฟจะสามารถใช้งานได้หากมีให้บริการจากสถานีออกอากาศ
- ฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้และเนื้อหาบนหน้าจอจะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับสถานีออกอากาศ
- หากเลือกคำบรรยายใต้ภาพและคุณเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นข้อมูลตัวอักษรดิจิตอลผ่านปุ่ม (อักษร) คำบรรยายใต้ภาพอาจหยุดแสดงในบางสถานการณ์ เมื่อท่านออกจากแอพพลิเคชั่นข้อมูลตัวอักษรดิจิตอล หน้าจอคำบรรยายใต้ภาพจะแสดงขึ้นอีกครั้งโดยอัตโนมัติ
การทำความเข้าใจไอคอนต่างๆ บนแถบข้อมูล
เมื่อเปลี่ยนช่อง แถบข้อมูลจะปรากฏขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆ ไอคอนต่อไปนี้อาจปรากฏขึ้นในแถบข้อมูล
การรับชมในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- การทำความเข้าใจพื้นฐานของทีวี 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- การเตรียมแว่นตาสามมิติของท่าน (รุ่น 3D เท่านั้น)
- การรับชมทีวีในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
การทำความเข้าใจพื้นฐานของทีวี 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ]
ระยะในการรับชมภาพ 3D ที่แนะนำ
หากระยะห่างในการรับชมภาพไม่เหมาะสม ภาพอาจปรากฏเป็นภาพซ้อน นั่งห่างจากทีวีอย่างน้อย 3 เท่าของความสูงของหน้าจอ เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด เราแนะนำให้ท่านนั่งที่ด้านหน้าของทีวีโดยตรง
คำแนะนำ
- แว่นตาสามมิติมีสองแบบ: พาสซีฟและแอคทีฟ ให้ดูข้อมูลจำเพาะใน คู่มืออ้างอิง เพื่อดูว่าทีวีเครื่องนี้รองรับแว่นตาสามมิติแบบใด
ช่วงการรับส่งสัญญาณระหว่างทีวี และ แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟจะสื่อสารกับทีวีเพื่อแสดงภาพในรูปแบบสามมิติ
ตำแหน่งการรับชมที่เหมาะสมของท่านควรจะอยู่ภายในระยะที่เหมาะสม โปรดดูแผนภาพต่อไปนี้ ระยะห่างในการทำงานจะขึ้นอยู่กับสิ่งกีดขวาง (บุคคล, โลหะ, กำแพง ฯลฯ) และ/หรือการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า
- มุมมองด้านบน
- 120°
- 1-6 ม. (3-20 ฟุต)
- มุมมองด้านข้าง
- 45°
- 1-6 ม. (3-20 ฟุต)
- 30°
หมายเหตุ
- องศาในการรับชมและระยะห่างที่แนะนำอาจแตกต่างไปจากนี้โดยขึ้นอยู่กับตำแหน่งของทีวีและสภาพภายในห้อง
การดูแลรักษาแว่นตาของท่าน
- ใช้ผ้านุ่มเช็ดแว่นตาเบาๆ
- อาจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นที่เจือจางด้วยสบู่ชนิดอ่อนบิดหมาดๆ เช็ดรอยเปื้อนที่ติดแน่น
- หากใช้ผ้าชุบสารเคมี โปรดแน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ไว้บนบรรจุภัณฑ์
- ห้ามใช้สารทำละลายชนิดเข้มข้นเช่น ทินเนอร์, แอลกอฮอล์ หรือเบนซิน ในการทำความสะอาด
การเตรียมแว่นตาสามมิติของท่าน (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ]
แว่นตาสามมิติมีสองแบบ: พาสซีฟและแอคทีฟ ให้ดูข้อมูลจำเพาะใน คู่มืออ้างอิง เพื่อดูว่าทีวีเครื่องนี้รองรับแว่นตาสามมิติแบบใด
สำหรับแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ
ให้ใช้แว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ หากมีแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟให้มาพร้อมกับทีวีของท่าน หากไม่มีแว่นตาให้มา ให้ซื้อแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ รุ่น TDG-500P ท่านสามารถรับชมภาพ 3D ได้ เพียงแค่ท่านสวมแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ
แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
ให้ใช้แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ หากมีแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟให้มาพร้อมกับทีวีของท่าน หากไม่มีแว่นตาให้มา ให้ซื้อแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ รุ่น TDG-BT500A ท่านจำเป็นต้องลงทะเบียนกับทีวีของท่าน ก่อนการใช้แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟเป็นครั้งแรก ปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่าง
- ถอดแผ่นฉนวนแบตเตอรี่ออก
- เปิดทีวี จากนั้นถือแว่นตาไว้ภายในระยะ 50 ซม. จากทีวี
- กดปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน) ที่แว่นตาค้างไว้ 2 วินาที
แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟจะเปิดขึ้นและเริ่มการลงทะเบียน (ปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน) กะพริบเป็นสีเขียวและสีเหลือง) เมื่อสิ้นสุดการลงทะเบียน ข้อความจะปรากฏบนหน้าจอ TV นาน 5 วินาที และสัญลักษณ์สว่างเป็นสีเขียวนาน 3 วินาที
หากการลงทะเบียนล้มเหลว แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ จะปิดทำงานโดยอัตโนมัติ ในกรณีนี้ ให้ทำตามขั้นตอนด้านบนอีกครั้ง
- สวม แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
ในครั้งต่อไป เพียงแค่เปิดแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ ท่านจะสามารถใช้งานได้ทันที หากต้องการปิด ให้กดปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน) ที่แว่นตาค้างไว้ 2 วินาที หากต้องการเปิดอีกครั้ง ให้กดปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน)
คำแนะนำ
- หากต้องการใช้แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟกับทีวีเครื่องอื่น ท่านจำเป็นต้องลงทะเบียนแว่นตากับทีวีเครื่องนั้นก่อน ปฏิบัติตามขั้นตอนด้านบนตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2
การรับชมทีวีในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ]
ท่านจะได้รับประสบการณ์ความบันเทิงแบบ 3D เช่น เกมส์ 3D และแผ่นบลูเรย์ 3D
หากต้องการรับชมในรูปแบบ 3D ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ 3D ผ่านสาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
- เตรียมแว่นตาสามมิติ
- แสดงเนื้อหา 3D บนหน้าจอทีวี
- สวมแว่นตาสามมิติ
ท่านควรจะสามารถรับชมภาพแบบ 3D ได้ทันที ถ้ามองไม่เห็นเอฟเฟคท์ 3D ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ - กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [3D]
- เลือกโหมด [การแสดง 3D] เพื่อให้เหมาะกับเนื้อหาที่แสดงอยู่ อาจไม่สามารถเลือก [3D (ซ้าย‑ขวา)]/[3D (บน-ล่าง)] ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัญญาณเข้าหรือฟอร์แมต
คำแนะนำ
- นอกจากโหมด [การแสดง 3D] แล้ว ท่านยังสามารถใช้ตัวเลือก 3D ต่างๆ ใน [การตั้งค่า 3D] ได้ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [การตั้งค่า 3D]
หมายเหตุ
- เอฟเฟคท์ 3D อาจแสดงออกมาไม่ชัดเจนนัก หากอุณหภูมิในห้องต่ำ
- หาก [Motionflow] ใน [การปรับภาพ] ตั้งค่าเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ [ปิด] การประมวลผลเพื่อ ลดอาการ หน้าจอกะพริบอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลของภาพ ในกรณีนี้ กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [Motionflow] — [ปิด] (สำหรับรุ่นที่รองรับ [Motionflow] เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ [Motionflow] มี [Motionflow] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว]
การรับชมทีวีสองหน้าจอ
คุณสามารถเล่นวิดีโอได้จากสองแหล่งในเวลาเดียวกันโดยแสดงอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ HDMI และ รายการ TV (ตัวปรับจูนในตัว) ในสองหน้าจอ
หมายเหตุ
- [แสดงสองภาพ] ใช้งานได้สำหรับ Android TV ที่มีหมายเลขรุ่นลงท้ายด้วย “C”
แสดงสองหน้าจอ
หากต้องการรับชมสองหน้าจอ ให้แสดงแหล่งที่มาของอุปกณ์ที่เชื่อมต่อด้วย HDMI จากนั้นแสดงแหล่งที่มาของ TV (ตัวปรับจูนในตัว)
- แสดงหน้าจอสัญญาณเข้าของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ตามต้องการ
- กดปุ่ม ACTION MENU และเลือก [แสดงสองภาพ]
เสียงของแหล่งที่มาที่ปรากฏอยู่พร้อมจุดสีเขียวคือสัญญาณออกจาก TV
หากต้องการเปลี่ยนเป็นเสียงของแหล่งที่มาอื่น
- กดปุ่ม ACTION MENU และเลือก [เปลี่ยนหน้าจอที่ใช้งาน]
หากต้องการกลับไปแสดงสัญญาณภาพเดียว
- กดปุ่ม ACTION MENU และเลือก [แสดงภาพเดี่ยว]
คำแนะนำ
- นอกจากการเปลี่ยนโฟกัสและกลับไปแสดงสัญญาณภาพเดียว คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้ในเมนูที่แสดงอยู่โดยกดปุ่ม ACTION MENU ขณะใช้ [แสดงสองภาพ]
- เปลี่ยนสัญญาณเข้าเป็นอุปกรณ์ HDMI ที่คุณต้องการแสดง
- เปลี่ยนขนาดหน้าจอ
หมายเหตุ
- เมื่อรับชมช่องสัญญาณดิจิทัลหรืออนาล็อกหรือเมื่อแอปเช่น YouTube แสดงอยู่ [แสดงสองภาพ] จะใช้งานไม่ได้ เปลี่ยนสัญญาณเข้าเป็นแหล่งที่มาแบบ HDMI ก่อนกดปุ่ม ACTION MENU
- รูปแบบแหล่งที่มาแบบผสมเดียวที่คุณสามารถรับชมด้วยสองหน้าจอได้คือรายการ TV (ตัวปรับจูนในตัว) และอุปกรณ์ HDMI เท่านั้น
การบันทึก รายการทีวี
- การบันทึกไปยังบนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การรับชม/การลบเนื้อหาที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่แสดงบนรายการสิ่งที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การบันทึกไปยังบนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การลงทะเบียนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การบันทึกโดยแตะครั้งเดียว (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การบันทึกแบบตั้งเวลา (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ USB HDD สำหรับการบันทึก (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การลงทะเบียนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า]
เชื่อมต่อและลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวีของท่านเพื่อบันทึกการออกอากาศแบบดิจิตอล
เชื่อมต่ออุปกรณ์ HDD USB เข้ากับช่อง USB ของทีวีที่มีเครื่องหมาย “HDD REC” (หากมีช่อง USB สีน้ำเงิน ช่องนั้นจะรองรับการบันทึก HDD)
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- อุปกรณ์ HDD USB
- สาย USB (ไม่ให้มาด้วย)
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ USB HDD เข้ากับช่อง USB3 (สีน้ำเงิน) ที่มเครื่องหมาย “HDD REC” บน TV
สำหรับรุ่น 2K ให้เชื่อมต่อเข้ากับช่อง USB2 - เปิดอุปกรณ์ HDD USB
- รอจนกระทั่งหน้าจอ [เชื่อมต่อไดรฟ์ USB แล้ว] แสดงขึ้น
- เลือก [ลงทะเบียนสำหรับการบันทึก]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB
หมายเหตุ
- หากข้อความ “ตรวจไม่พบ USB HDD สำหรับการบันทึก” แสดงขึ้นในระหว่างการลงทะเบียนในขั้นตอนที่ 4 ปฏิบัติตามคำแนะนำในข้อความและตรวจเช็คว่าอุปกรณ์ HDD USB สำหรับบันทึกเชื่อมต่ออยู่กับช่อง USB3 (สีน้ำเงิน) หรือไม่ (สำหรับรุ่น 2K ให้เชื่อมต่อเข้ากับช่อง USB2)
หากทีวีไม่รับรู้อุปกรณ์ HDD USB สำหรับบันทึกแม้จะตรวจเช็คการเชื่อมต่อแล้ว ท่านต้องลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB อีกครั้งเนื่องจากอุปกรณ์มีการลงทะเบียนเป็นอุปกรณ์สำหรับวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบันทึกไว้แล้ว ([ที่เก็บข้อมูลอุปกรณ์]) ให้ดู “อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถลงทะเบียนได้ (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)” เพื่อลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB อีกครั้งสำหรับการบันทึก
คำแนะนำ
- ท่านยังสามารถลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวีได้โดยการเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การลงทะเบียน HDD]
การยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การยกเลิกการลงทะเบียน HDD] — อุปกรณ์ที่ต้องการยกเลิกการลงทะเบียน
การบันทึกโดยแตะครั้งเดียว (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า]
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- ขณะดู รายการ ที่ต้องการบันทึก กดปุ่ม REC
- ในหน้าจอที่แสดง ตั้งเวลาสิ้นสุดสำหรับการบันทึก การบันทึกจนกระทั่ง รายการ จบ เลือก [ค่าแรกเริ่ม] การตั้งระยะเวลาตามต้องการ (1 นาทีถึง 8 ชั่วโมง) เลือก [กำหนดโดยผู้ใช้]
การหยุดบันทึกด้วยตนเอง
- กดปุ่ม (หยุด)
- เลือก [หยุด] บนหน้าจอที่แสดง
การเปลี่ยนเวลาสิ้นสุดสำหรับการบันทึก
- กดปุ่ม (หยุด)
- ในหน้าจอที่แสดง เลือก [แก้ไข] เพื่อเปลี่ยนเวลาสิ้นสุดสำหรับการบันทึก
หมายเหตุ
- สำหรับบาง รายการ การบันทึกไม่สามารถหยุดได้ด้วยการกดปุ่ม (หยุด) การหยุดบันทึก รายการดังกล่าว กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ หยุดบันทึก]
การบันทึกแบบตั้งเวลา (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า]
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- กดปุ่ม GUIDE
- เลือก รายการ ที่ต้องการในผังรายการ จากนั้นเลือก [บันทึกตัวตั้งเวลา]
- เลือก [ตั้งค่าตัวตั้งเวลาตามรายการ] หรือ [ตั้งค่าตัวตั้งเวลา]
การตั้งเวลาด้วยตนเองโดยการระบุวันที่ เวลา และช่อง
- กดปุ่ม GUIDE
- เลื่อนโฟกัสไปยังรายการซ้ายสุด จากนั้นเลื่อนไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อเปิดเมนู
- เลือก [รายการตั้งเวลา] — [การบันทึกตัวตั้งเวลาแบบปรับเอง]
- ปรับการตั้งค่าเวลา
- เลือก [ตั้งค่าตัวตั้งเวลา]
การตรวจเช็ค เปลี่ยนแปลง หรือลบการตั้งเวลา
การตรวจเช็ค การเปลี่ยนแปลง หรือการลบการตั้งเวลาจะทำใน [รายการตั้งเวลา]
- กดปุ่ม GUIDE
- เลื่อนโฟกัสไปยังรายการซ้ายสุด จากนั้นเลื่อนไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อเปิดเมนู
- เลือก [รายการตั้งเวลา] จากนั้นเปลี่ยนการตั้งค่า
คำแนะนำ
- สามารถสร้างการตั้งเวลาได้สูงสุด 32 รายการ
- หากการบันทึกล้มเหลว สาเหตุจะถูกแสดงใน [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก] กดปุ่ม TITLE LIST จากนั้นเลือก [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก]
- ในผัง รายการ ท่านสามารถเลื่อนโฟกัสไปยัง รายการ ที่ต้องการ และกดปุ่ม REC เพื่อตั้งค่าการบันทึกแบบตั้งเวลาสำหรับ รายการนั้น
หมายเหตุ
- การบันทึกแบบตั้งเวลาจะไม่ทำงานเมื่อมีการถอดสายไฟ AC (สายหลัก)
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ USB HDD สำหรับการบันทึก (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า]
- อุปกรณ์ HDD USB จะต้องใช้สำหรับการบันทึกเท่านั้น ใช้อุปกรณ์ HDD USB แยกต่างหากสำหรับการดูภาพถ่ายและวิดีโอ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- รองรับอุปกรณ์ HDD USB ที่มีความจุมากกว่า 32 GB เท่านั้น
- ไม่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ HDD USB ผ่านฮับ USB เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับทีวีโดยตรง
- ข้อมูลใดๆ ที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ HDD USB จะถูกลบหากอุปกรณ์ได้รับการฟอร์แมตในระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียน อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้เมื่อทำการลงทะเบียนกับทีวีแล้ว การทำให้อุปกรณ์ HDD USB ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้ ให้ฟอร์แมตอุปกรณ์บนคอมพิวเตอร์ (โปรดทราบว่าข้อมูลใดๆ ในอุปกรณ์ HDD USB จะถูกลบ)
- สามารถลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB ได้สูงสุด 8 เครื่อง
- ทีวีเครื่องนี้เท่านั้นที่สามารถเล่นข้อมูลที่บันทึกไว้ในอุปกรณ์ HDD USB ที่ได้รับการลงทะเบียนกับทีวีเครื่องนี้
- การบันทึกรองรับเฉพาะทีวีดิจิตอลและการออกอากาศวิทยุเท่านั้น ไม่รองรับการบันทึกการออกอากาศข้อมูล
- ไม่สามารถบันทึกสัญญาณที่ถูกรบกวน/มีการเข้ารหัสได้
- การบันทึกไม่สามารถดำเนินการได้ในกรณีต่อไปนี้:
- ทีวีไม่สามารถ รับรู้ อุปกรณ์ HDD USB ที่ลงทะเบียนไว้
- มีการบันทึกมากกว่า 1,000 รายการ บนอุปกรณ์ HDD USB
- อุปกรณ์ HDD USB เต็ม
- การเลือก รายการ โดยอัตโนมัติอาจไม่สามารถทำได้ขณะที่กำลังทำการบันทึก
- การบันทึก รายการ ไม่สามารถทำได้เว้นแต่การบันทึกจะได้รับ อนุญาต
- หากทีวีถูกกระแทกในระหว่างการบันทึก HDD USB เสียงรบกวนอาจเกิดขึ้นในเนื้อหาที่บันทึกไว้
- Sony ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ต่อการบันทึกที่ล้มเหลว หรือความเสียหายหรือความสูญเสียใดๆ ต่อเนื้อหาที่บันทึก อันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวข้องกับความบกพร่องของทีวี, การรบกวนของสัญญาณ หรือปัญหาอื่นๆ
การรับชม/การลบเนื้อหาที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า]
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
การดูเนื้อหาที่บันทึกไว้
- กดปุ่ม TITLE LIST จากนั้นเลือกเนื้อหาที่ต้องการดู
การลบเนื้อหาที่บันทึกไว้
- กดปุ่ม TITLE LIST
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มาด้วยไม่มีปุ่ม TITLE LIST ให้เลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนูและเลือก [รายชื่อที่บันทึกไว้] จากรายชื่อแอป - กดปุ่ม ACTION MENU แล้วเลือกการตั้งค่าต่อไปนี้ตามลำดับ
[ลบ] — รายการที่จะลบ — [ลบ]
หากต้องการลบหลายรายการ เลือกรายการทั้งหมดที่ต้องการลบก่อนเลือก [ลบ]
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับความหมายของสัญลักษณ์ในรายการชื่อที่บันทึกไว้ ให้ดู การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่แสดงบนรายการสิ่งที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่แสดงบนรายการสิ่งที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การใช้งานทีวีกับอุปกรณ์อื่นๆ
- อุปกรณ์ USB
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์และ DVD
- กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
- คอมพิวเตอร์, กล้อง และกล้องวิดีโอ
- เครื่องเสียง
- อุปกรณ์บลูทูธ
- Subwoofer ไร้สายของ Sony (อุปกรณ์เสริม) (รุ่นที่รองรับ Subwoofer ไร้สายของ Sony เท่านั้น)
- อุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
- การรับชมภาพถ่ายในแบบ 4K จากอุปกรณ์ที่รองรับ (รุ่น 4K เท่านั้น)
อุปกรณ์ USB
- การเล่นเนื้อหาที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB
- ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB ที่ใช้สำหรับเก็บภาพถ่ายและเพลง
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
การเล่นเนื้อหาที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB
วิธีการบันทึก รายการ ไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB หรือดู รายการ ที่ได้บันทึกไว้ ดูที่ การบันทึก รายการทีวี
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB
เชื่อมต่ออุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เข้ากับช่อง USB ของทีวีเพื่อเพลิดเพลินไปกับภาพถ่าย, เพลง และไฟล์วิดีโอที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์
- อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
เพลิดเพลินไปกับภาพถ่าย/เพลง/ภาพยนตร์ที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB
ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับภาพถ่าย/เพลง/ภาพยนตร์ที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB หน้าจอทีวีได้
- หากอุปกรณ์ USB เชื่อมต่อกับทีวีมีสวิตช์เปิดปิด ให้เปิดสวิตช์
- กดปุ่ม HOME เลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู แล้วเลือกรายการที่คุณต้องการรับชมจากรายการแอป
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS คุณสามารถกดปุ่ม APPS เพื่อให้แสดงรายการแอปได้
เลือก [อัลบั้ม] เพื่อรับชมภาพถ่าย, [เพลง] เพื่อเล่นเพลง, และ [วิดีโอ] เพื่อเล่นภาพยนตร์ - กดปุ่ม (ซ้าย) และเลือก ชื่ออุปกรณ์ USB จากเมนูที่แสดง
- ค้นดูรายการของโฟลเดอร์และไฟล์และเลือกไฟล์ที่ต้องการ
การเล่นจะเริ่มต้นขึ้น
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
หมายเหตุ
- รูปภาพหรือโฟลเดอร์บางรายการอาจใช้เวลาสักครู่ในการแสดง ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพ ขนาดของไฟล์ และจำนวนไฟล์ในโฟลเดอร์
- การแสดงอุปกรณ์ USB อาจใช้เวลาสักพักเนื่องจากทีวีจะต้องเข้าถึงอุปกรณ์ USB ทุกครั้งที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB
- ช่อง USB ทั้งหมดบนทีวีรองรับ USB ความเร็วสูง ช่อง USB สีน้ำเงินสำหรับรุ่น 4K รองรับ SuperSpeed (USB 3.1 Gen 1 หรือ USB 3.0) ไม่รองรับฮับ USB
- ในขณะที่ใช้อุปกรณ์ USB ห้ามปิดทีวีหรืออุปกรณ์ USB ห้ามถอดสาย USB และห้ามนำสื่อบันทึกข้อมูลออกหรือใส่ มิฉะนั้น ข้อมูลที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB อาจเสียหาย
- การเล่นอาจไม่สามารถทำได้แม้ไฟล์จะอยู่ในฟอร์แมตที่สนับสนุนก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไฟล์ดังกล่าว
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลอื่นๆ ให้ดูที่ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB ที่ใช้สำหรับเก็บภาพถ่ายและเพลง
- ช่อง USB บนทีวีสนับสนุนระบบไฟล์ FAT16, FAT32, exFAT และ NTFS
- เมื่อเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล Sony เข้ากับทีวีโดยใช้สาย USB ต้องตั้งค่าการเชื่อมต่อ USB บนกล้องเป็นโหมด “อัตโนมัติ” หรือ “อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่”
- หากกล้องดิจิตอลของท่านไม่ทำงานร่วมกับทีวีของท่าน ให้ลองปฏิบัติดังนี้:
- ตั้งค่าการเชื่อมต่อ USB บนกล้องของท่านเป็น “อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่”
- คัดลอกไฟล์จากกล้องไปที่แฟลชไดร์ฟ USB จากนั้นเชื่อมต่อไดร์ฟเข้ากับทีวี
- ภาพถ่ายบางภาพและภาพยนตร์อาจถูกขยาย ส่งผลให้ภาพมีคุณภาพต่ำ ภาพถ่ายอาจไม่แสดงเต็มจอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและอัตราส่วน
- อาจใช้เวลานานในการแสดงภาพถ่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไฟล์หรือการตั้งค่า
- Sony ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ต่อการบันทึกที่ล้มเหลว หรือความเสียหายหรือความสูญเสียใดๆ ต่อเนื้อหาที่บันทึก อันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวข้องกับความบกพร่องของทีวี, ความบกพร่องของอุปกรณ์ USB หรือปัญหาอื่นๆ
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
- ภาพถ่าย
- เพลง
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
ภาพถ่าย
รูปแบบการใช้ : USB / เครือข่ายที่บ้าน
ฟอร์แมตของไฟล์ | สกุล |
---|---|
JPEG | *.jpg / *.jpe / *.jpeg |
ARW *1 | *.arw |
- *1 ARW ใช้สำหรับเล่นไฟล์เท่านั้น
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- เพลง
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
เพลง
รูปแบบการใช้ : USB / เครือข่ายที่บ้าน
mp4
สกุล: *.mp4 / *.m4a
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
3gpp
สกุล: *.3gp / *.3g2
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
Asf
สกุล: *.wma
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
WMA9 Standard | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
ogg
สกุล: *.ogg
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
Vorbis | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
อื่นๆ
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
LPCM *1 | 32k / 44.1k / 48k |
สกุล: *.mp3
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
MP1L1 / MP1L2 / MP1L3 / MP2L1 / MP2L2 | 32k / 44.1k / 48k |
MP2L3 | 16k / 22.05k / 24k |
MP2.5L3 | 8k / 11.025k / 12k |
สกุล: *.wav
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
WAV *2 | 32k / 44.1k / 48k / 88.2k / 96k / 176.4k / 192k |
สกุล: *.flac
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
FLAC | 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k / 88.2k / 96k / 176.4k / 192k |
สกุล: *.aac
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
- *1 รูปแบบการใช้ของ LPCM คือเครือข่ายที่บ้านเท่านั้น
- *2 รูปแบบการใช้ของ WAV คือ 2ch เท่านั้น
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
วิดีโอ
รูปแบบการใช้ : USB / เครือข่ายที่บ้าน
MPEG1 (*.mpg / *.mpe / *.mpeg)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG1 | MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MPEG2PS (*.mpg / *.mpe / *.mpeg)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG2 MP@HL, MP@H14L, MP@ML | MPEG1L1 / MPEG1L2 / LPCM / AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MPEG2TS
สกุล : *.m2t
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG2 MP@HL, MP@H14L, MP@ML | MPEG1L1 / MPEG1L2 / AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
สกุล : *.m2ts / *.mts
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | MPEG1L1 / MPEG1L2 / AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MP4 (*.mp4): สำหรับรุ่น 2K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@120fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MP4 (*.mp4): สำหรับรุ่น 4K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@120fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L5.2, MP@L5.2, HP@L5.2 *1 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / LPCM | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60p / 1920x1080@120fps |
HEVC / H.265 MP@L5.1, Main10@L5.1 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60p |
- *1 สายนี้รวมถึงรูปแบบการใช้ฟอร์แมต XAVC S อัตราบิตที่รองรับสูงสุดสำหรับ XAVC S คือ 100 Mbps
avi (*.avi)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
Xvid | MPEG1L1 / MPEG1L2 / MPEG1L3 / AC3 / E-AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
Motion JPEG | μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16LE) | 1280x720 / QCIF (176x144) | 1280x720@30fps |
Asf (*.asf / *.wmv)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
VC1 AP@L3, MP@HL, SP@ML | WMA9 Standard | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MKV (*.mkv): สำหรับรุ่น 2K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายใน / ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
Xvid | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP8 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP9 Profile 0, Profile 2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MKV (*.mkv): สำหรับรุ่น 4K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายใน / ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
Xvid | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP8 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP9 Profile 0, Profile 2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60fps |
AVC / H.264 BP@L5.2, MP@L5.2, HP@L5.2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60p |
HEVC / H.265 MP@L5.1, Main10@L5.1 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60p |
3gpp (*.3gp / *.3g2)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
RealMedia (*.rm / *.rmvb / *.rv): รุ่นสำหรับฮ่องกงเท่านั้น
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
RealVideo RV8 / RV9 / RV10 | RealMediaAudio cook / aac | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MOV (*.mov)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16BE) / PCM (S16LE) | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16BE) / PCM (S16LE) | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
Motion JPEG | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16BE) / PCM (S16LE) | 1280x720 / QCIF (176x144) | 1280x720@30fps |
WebM (*.webm)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
VP8 | Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP9 Profile 0, Profile 2 | Vorbis | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60fps |
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- เพลง
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
ตัวแปลงสัญญาณเสียง | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
LPCM | 44.1k / 48k |
MPEG1L1 / MPEG1L2 | 32k / 44.1k / 48k |
MPEG1L3 | 32k / 44.1k / 48k |
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
AC3 | 32k / 44.1k / 48k |
E-AC3 | 32k / 44.1k / 48k |
Vorbis | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
WMA9 | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
DTS core | 32k / 44.1k / 48k |
RealAudio (cook): For Hong Kong models only | 8k / 11.025k / 22.05k / 44.1k |
RealAudio (aac): For Hong Kong models only | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
μ-LAW | 8k |
PCM (U8) | 8k |
PCM (S16LE) | 11.025k / 16k / 44.1k |
PCM (S16BE) | 11.025k / 16k / 44.1k |
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- เพลง
- วิดีโอ
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
รูปแบบการใช้ : USB
ฟอร์แมตของไฟล์ | สกุล |
---|---|
SubStation Alpha | *.ass / *.ssa |
SubRip | *.srt |
MicroDVD | *.sub / *.txt |
SubViewer | *.sub |
SAMI | *.smi / *.sami |
DVD Subtitle System | *.txt |
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- เพลง
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์และ DVD
- การเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์หรือ DVD
- การรับชมแผ่นบลูเรย์และ DVD
การเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์หรือ DVD
เชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD เข้ากับทีวี
ใช้วิธีเชื่อมต่อด้านล่างตามเทอร์มินัลที่ใช้อยู่บนทีวีของคุณ
หมายเหตุ
- สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
คำแนะนำ
- นอกจากนี้คุณยังสามารถเชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (cable/satellite box) ได้เช่นเดียวกับเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD
การเชื่อมต่อ HDMI
เพื่อคุณภาพของภาพที่ดีที่สุด เราแนะนำให้เชื่อมต่อเครื่องเล่นของท่านเข้ากับทีวีโดยใช้สาย HDMI หากเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD มีพอร์ต (ช่องต่อ) HDMI ให้เชื่อมต่อโดยใช้สาย HDMI
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
- หากอุปกรณ์มีพอร์ต DVI (ช่องต่อ) ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์กับช่อง HDMI (ที่มี AUDIO IN) ผ่านทางหัวแปลง DVI - HDMI (ไม่ให้มาด้วย) และเชื่อมต่อพอร์ตสัญญาณเสียงออก (ช่องต่อ) ของอุปกรณ์กับช่อง HDMI 3 AUDIO IN / HDMI 1 AUDIO IN
สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ ให้ดู คู่มืออ้างอิง เพื่อตรวจเช็คว่าทีวีของท่านรองรับ HDMI 3 AUDIO IN / HDMI 1 AUDIO INหรือไม่
การเชื่อมต่อวิดีโอคอมโพเนนต์
หากเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ของท่านมีพอร์ตวิดีโอคอมโพเนนต์ (ช่องต่อ) ให้เชื่อมต่อกับทีวีโดยใช้สายวิดีโอคอมโพเนนต์และสายสัญญาณเสียง
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สายวิดีโอคอมโพเนนต์ (ไม่ให้มาด้วย)
- สายสัญญาณเสียง (ไม่ให้มาด้วย)
การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิท
หากเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ของท่านมีพอร์ตคอมโพสิท (ช่องต่อ) ให้เชื่อมต่อโดยใช้สายวิดีโอ/เสียงคอมโพสิท
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สายวิดีโอ/เสียงคอมโพสิท (ไม่ให้มาด้วย)
เมื่อใช้ สายต่ออนาล็อก
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สายต่ออนาล็อก (ที่ให้มา)*
- สาย RCA (ไม่ให้มาด้วย)
* สายต่ออนาล็อก ให้มาในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
การรับชมแผ่นบลูเรย์และ DVD
ท่านสามารถดูเนื้อหาจากแผ่นบลูเรย์/DVD หรือเนื้อหาอื่นที่เครื่องเล่นของท่านรองรับบนทีวีได้
- เปิดเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่
- กดปุ่ม (เลือกสัญญาณเข้า) ซ้ำๆ เพื่อเลือกเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่
- เริ่มเล่นเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่
คำแนะนำ
- หากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Syncด้วย HDMI ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวี
กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- การเชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) ที่มี IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
การเชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
เชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (สายเคเบิล/ช่องรับสัญญาณดาวเทียม) เข้ากับทีวี
เชื่อมต่อกับขั้วของทีวี
สำหรับรายละเอียด ให้ดูที่เพจ การเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์หรือ DVD
กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) ที่มี IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
- การเชื่อมต่อ IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
- การตั้งค่า IR Blaster เพื่อควบคุมกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
การเชื่อมต่อ IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ IR Blaster มี [การติดตั้ง IR Blaster] ใน [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า]
IR Blaster ทำให้ท่านสามารถใช้งานกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) ซึ่งเชื่อมต่อกับทีวีด้วยรีโมทคอนโทรลของทีวีได้
(รุ่นที่รองรับ IR Blaster อาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ประเทศของท่าน)
สำหรับ IR Blaster ชนิดUSB*
- กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- สาย IR Blaster
สำหรับ IR Blaster ชนิดปลั๊ก*
- กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- สาย IR Blaster
- พอร์ต (ช่องต่อ) IR Blaster
* รูปร่างของ IR Blaster ที่มีให้อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นของคุณ
หมายเหตุ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า IR Blaster ได้อย่างถูกต้องและตัวถ่ายทอดสัญญาณ IR อยู่ใกล้กับตัวรับสัญญาณ IR ของอุปกรณ์ภายนอก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีวีของท่านรองรับอุปกรณ์ภายนอก
การตั้งค่า IR Blaster เพื่อควบคุมกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การดำเนินการ [การตั้งค่าการควบคุม Set-top box] ใน [การติดตั้ง IR Blaster] ทำให้ท่านสามารถใช้งานกล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิลจากเมนูที่แสดงได้โดยการกดปุ่ม ACTION MENU บนรีโมทคอนโทรล
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [การติดตั้ง IR Blaster] — [การตั้งค่าการควบคุม Set-top box]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอ
คำแนะนำ
- IR Blaster สามารถใช้งาน AV รีซีฟเวอร์ได้ การตั้งค่า AV รีซีฟเวอร์ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [การติดตั้ง IR Blaster] — [ตั้งค่าการควบคุมตัวรับ AV]
- หาก AV รีซีฟเวอร์เป็นอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ไม่จำเป็นต้องใช้ IR Blaster
หมายเหตุ
- อุปกรณ์ภายนอกบางชิ้นอาจไม่ตอบสนองต่อบางรายการใน “เมนูการดำเนินงาน”
- หากท่านกดปุ่มบนรีโมทคอนโทรลค้างไว้ อาจไม่ทำงาน ลองกดปุ่มซ้ำ ๆ แทน
สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
- การเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาจากอุปกรณ์มือถือของท่านบนทีวีด้วย Google Cast
- การแสดงหน้าจอของสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตบนทีวีโดยใช้สาย MHL (รุ่นที่รองรับMHL เท่านั้น)
- การแสดงหน้าจอของสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตบนทีวีโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอ
การเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาจากอุปกรณ์มือถือของท่านบนทีวีด้วย Google Cast
Google Cast ทำให้ท่านสามารถแสดงเนื้อหาจากเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น โปรด ของท่านไปยังทีวีของท่านแบบไร้สายโดยตรงจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของท่านได้
- เชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เข้ากับเครือข่ายที่บ้านเครือข่ายเดียวกันกับที่ทีวีเชื่อมต่ออยู่
- เปิดแอพพลิเคชั่นที่รองรับ Google Cast บนอุปกรณ์มือถือ
- เลือกไอคอน (แคสต์) ในแอพพลิเคชั่น
หน้าจอของอุปกรณ์มือถือจะแสดงบน TV
หมายเหตุ
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจำเป็นสำหรับการใช้งาน Google Cast
การแสดงหน้าจอของสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตบนทีวีโดยใช้สาย MHL (รุ่นที่รองรับMHL เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
เครื่องหมาย (MHL) อยู่ถัดจากช่อง HDMI IN 1/MHL (สำหรับรุ่น 2K ที่รองรับ MHL) หรือช่อง HDMI IN 2/MHL (สำหรับรุ่น 4K ที่รองรับ MHL)
หากต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือเข้ากับสัญญาณออก MHL
สำหรับรุ่น 2K เชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือของคุณเข้ากับช่อง HDMI IN 1/MHL ของ TV โดยใช้สาย MHL
สำหรับรุ่น 4K เชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือของคุณเข้ากับช่อง HDMI IN 2/MHL ของ TV โดยใช้สาย MHL
- อุปกรณ์มือถือ MHL
- สาย MHL (ไม่ให้มาด้วย)*
* สำหรับสัญญาณ 2K ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย MHL 2 ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ MHL
สำหรับสัญญาณ 4K ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย MHL 3 ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ MHL หากอุปกรณ์มือถือ MHL ของคุณรองรับสัญญาณออก 4K ให้ใช้สาย MHL 3 ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
หากต้องการดูเนื้อหาที่เก็บไว้ในอุปกรณ์มือถือที่มีสัญญาณออก MHL
- หลังจากเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือ ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือกสัญญาณเข้าที่อุปกรณ์มือถือเชื่อมต่ออยู่
หากต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญาณเข้า MHL โดยอัตโนมัติ
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [การตั้งค่า BRAVIA Sync] — [เปลี่ยนแปลงอินพุตอัตโนมัติ (MHL)] — [เปิด] (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มือถือ สัญญาณเข้าอาจไม่เปลี่ยนโดยอัตโนมัติ) หาก TV อยู่ในโหมดสแตนด์บาย สัญญาณจะไม่เปลี่ยนโดยอัตโนมัติ
หากต้องการชาร์จอุปกรณ์มือถือ
เมื่อ TV เปิดอยู่ TV สามารถชาร์จอุปกรณ์มือถือได้หากเชื่อมต่อโดยใช้สาย MHL
หมายเหตุ
- มีเพียงสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตเท่านั้นที่รองรับ MHL คุณสมบัตินี้
คำแนะนำ
หาก [การชาร์จ MHL ในระหว่างสแตนด์บาย] ตั้งไว้เป็น [เปิด] TV จะสามารถชาร์จอุปกรณ์ MHL ที่เชื่อมต่ออยู่ได้เมื่อ TV อยู่ในโหมดสแตนด์บาย
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [การตั้งค่า BRAVIA Sync] — [การชาร์จ MHL ในระหว่างสแตนด์บาย] — [เปิด]
การแสดงหน้าจอของสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตบนทีวีโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถแสดงหน้าจอของอุปกรณ์มือถือบนทีวีเพื่อรับชมภาพถ่าย, วิดีโอ หรือเว็บไซต์
คุณสมบัติ “การสะท้อนหน้าจอ” ใช้เทคโนโลยี Miracast ในการแสดงหน้าจอของอุปกรณ์ที่รองรับบนทีวี ไม่จำเป็นต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สายเพื่อใช้ฟังก์ชั่นนี้
- สมาร์ทโฟน
- แท็บเล็ต
- คอมพิวเตอร์
- กดปุ่ม (เลือกสัญญาณเข้า) จากนั้นเลือก [การสะท้อนหน้าจอ]
- ใช้งานอุปกรณ์ที่รองรับการสะท้อนหน้าจอเพื่อเชื่อมต่อกับทีวี
เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์กับทีวีแล้ว หน้าจอที่แสดงบนอุปกรณ์จะแสดงบนทีวีเช่นกัน
สำหรับรายละเอียด โปรดดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์
หมายเหตุ
- ในขณะที่หน้าจอพร้อมใช้งานสำหรับฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอปรากฏขึ้น การเชื่อมต่อแบบไร้สายระหว่างทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สายจะถูกตัดการเชื่อมต่อ ดังนั้นการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตจะหยุดลง
คอมพิวเตอร์, กล้อง และกล้องวิดีโอ
- การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
- การเชื่อมต่อกล้องหรือกล้องวิดีโอและการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
- ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
ใช้สาย HDMI เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของท่านเข้ากับทีวี
- คอมพิวเตอร์
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
การตรวจเช็คข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอ
- ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์
การรับชมเนื้อหาที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์
หลังจากเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือกสัญญาณเข้าที่คอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออยู่
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
หมายเหตุ
- เพื่อคุณภาพของภาพที่ดีที่สุด เราแนะนำให้ท่านตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้ส่งสัญญาณวิดีโอตามการตั้งค่าที่ระบุใน “ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์”
- ภาพอาจไม่ชัดเจนหรือมีลักษณะเป็นรอยเปื้อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของการเชื่อมต่อ ในกรณีนี้ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าคอมพิวเตอร์และเลือกสัญญาณเข้าอื่นจากรายการ “ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์”
การเชื่อมต่อกล้องหรือกล้องวิดีโอและการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
การเชื่อมต่อกล้อง/กล้องวิดีโอ
เชื่อมต่อกล้องดิจิตอลหรือกล้องวิดีโอ Sony โดยใช้สาย HDMI ใช้สายที่มีปลั๊กต่อ HDMI ขนาดเล็ก (ช่องต่อ) สำหรับปลายด้านที่ต่อกับกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ และปลั๊กต่อ (ช่องต่อ) HDMI มาตรฐานสำหรับปลายด้านที่ต่อกับทีวี
- กล้องดิจิตอล
- กล้องวิดีโอ
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
การรับชมเนื้อหาที่เก็บอยู่ในกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ
- หลังจากเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ ให้เปิดเครื่อง
- กดปุ่ม (เลือกสัญญาณเข้า) ซ้ำๆ เพื่อเลือกกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่
- เริ่มเล่นกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
คำแนะนำ
- หากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์รองรับ BRAVIA Sync อุปกรณ์บางตัวอาจไม่รองรับกับ BRAVIA Sync แม้ว่าจะมีพอร์ต HDMI (ช่องต่อ) ก็ตาม
ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์
(ความละเอียด, ความถี่แนวนอน/ความถี่แนวตั้ง)
- 640 x 480, 31.5 kHz/60 Hz
- 800 x 600, 37.9 kHz/60 Hz
- 1024 x 768, 48.4 kHz/60 Hz
- 1152 x 864, 67.5 kHz/75 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1280 x 1024, 64.0 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1600 x 900, 56.0 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1680 x 1050, 65.3 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1920 x 1080, 67.5 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)*
* สัญญาณเวลา 1080p ที่ส่งไปยังช่องสัญญาณเข้า HDMI จะได้รับการประมวลผลเสมือนเป็นสัญญาณเวลาวิดีโอไม่ใช่สัญญาณเวลาคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีผลต่อการตั้งค่า [จอภาพ] ใน [ตั้งค่าภาพ] การรับชมเนื้อหาในคอมพิวเตอร์ ให้ตั้งค่า [โหมดจอภาพ] เป็น [เต็มจอ] และ [บริเวณแสดงภาพ] เป็น [เต็มพิกเซล] (รุ่น 2K) หรือ [+1] (รุ่น 4K) ([บริเวณแสดงภาพ] สามารถกำหนดค่าได้เมื่อปิดใช้งาน [บริเวณแสดงภาพอัตโนมัติ] เท่านั้น)
สัญญาณวิดีโอเข้าอื่นๆ
รูปแบบวิดีโอต่อไปนี้สามารถแสดงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลจำเพาะของคอมพิวเตอร์ของท่าน
- 480p, 480i
- 576p*1, 576i*1
- 720/24p
- 720p/30Hz, 720p/50Hz*1, 720p/60Hz
- 1080i/50Hz*1, 1080i/60Hz
- 1080/24p
- 1080p/30Hz, 1080p/50Hz*1, 1080p/60Hz
- 3840 x 2160p/24Hz, 3840 x 2160p/25Hz*1, 3840 x 2160p/30Hz (รุ่น 4K เท่านั้น)
- 3840 x 2160p/50Hz*1, 3840 x 2160p/60Hz (รุ่น 4K เท่านั้น)
- 4096 x 2160p/24Hz*2 (รุ่น 4K เท่านั้น)
- 4096 x 2160p/50Hz*1*2, 4096 x 2160p/60Hz*2 (รุ่น 4K เท่านั้น)
*1 ไม่รองรับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน
*2 3840 x 2160 จะแสดงเมื่อสัญญาณเข้าเป็น 4096 x 2160
หมายเหตุ
- สัญญาณออกขนาด 1920 x 1080/60 Hz อาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ของท่าน สัญญาณออกแท้จริงอาจจะต่างออกไป แม้ว่าจะเลือกสัญญาณออกขนาด 1920 x 1080/60 Hz ไว้แล้ว ในกรณีนี้ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ จากนั้นตั้งค่าคอมพิวเตอร์ของท่านให้ใช้สัญญาณวิดีโออื่น
เครื่องเสียง
- การส่งสัญญาณเสียงจากเครื่องเสียง
- การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
- การปรับเครื่องเสียง
การส่งสัญญาณเสียงจากเครื่องเสียง
ท่านสามารถเชื่อมต่อเครื่องเสียง เช่น AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์เข้ากับ TV ได้ เลือกวิธีเชื่อมต่อด้านล่างตามข้อมูลจำเพาะของเครื่องเสียงที่ท่านต้องการเชื่อมต่อ
- การเชื่อมต่อด้วยสาย HDMI (สำหรับรายละเอียด โปรดอ่านให้ละเอียดเกี่ยวกับ “การเชื่อมต่อโดยใช้สาย HDMI” ด้านล่าง)
- การเชื่อมต่อด้วยสายดิจิตอลออพติคอล
- การเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณเสียง
สำหรับวิธีการเชื่อมต่อ ให้ดูที่เพจ การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
หมายเหตุ
- ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อโดยใช้สาย HDMI
อุปกรณ์นี้รองรับ Audio Return Channel (ARC) คุณสามารถใช้สาย HDMI เพื่อส่งสัญญาณเสียงออกจากระบบเสียงที่รองรับ ARC
สำหรับวิธีการเชื่อมต่อ ให้ดูที่เพจ การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
หมายเหตุ
- ตำแหน่งของขั้วต่อ HDMI ที่รองรับ ARC แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น โปรดดูคู่มืออ้างอิงที่มีให้มา
การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
ดูภาพประกอบด้านล่างเพื่อเชื่อมต่อเครื่องเสียง เช่น AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
หมายเหตุ
- สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
การเชื่อมต่อ HDMI (รองรับ ARC)
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสาย HDMI
เชื่อมต่อกับขั้วต่ออินพุต HDMI ของ TV ที่มีข้อความ “ARC”- AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* เราขอแนะนำ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่ได้รับอนุญาต ที่มีโลโก้ HDMI
- การปรับเครื่องเสียง
การเชื่อมต่อสายดิจิตอลออพติคอล
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสายดิจิตอลออพติคอล
เชื่อมต่อเข้ากับช่องอินพุตดิจิตอลออพติคอลของเครื่องเสียง- AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
- สายสัญญาณเสียงออพติคอล (ไม่ให้มาด้วย)
- การปรับเครื่องเสียง
การเชื่อมต่อสายสัญญาณเสียง
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสายเคเบิลสำหรับแปลงสัญญาณสเตอริโอออกเป็น RCA อนาล็อก
เชื่อมต่อเข้ากับช่องอินพุตเสียงของเครื่องเสียง- AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
- สายสัญญาณเสียง (ไม่ให้มาด้วย)
- การปรับเครื่องเสียง
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
การปรับเครื่องเสียง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
หลังจากเชื่อมต่อเครื่องเสียงเข้ากับ TV ให้ปรับเอาต์พุตเสียงของ TV จากเครื่องเสียง
การปรับเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อด้วยสายเคเบิล HDMI หรือสายดิจิตอลออพติคอล
- หลังจากเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเครื่องเสียงของคุณ ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ลำโพง] — [เครื่องเสียง]
- เปิดเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อไว้ จากนั้นปรับเสียง
หากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ด้วย HDMI ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้รีโมทคอนโทรลของ TV
หมายเหตุ
- ท่านจำเป็นต้องปรับการตั้งค่า [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] ให้เหมาะสมกับเครื่องเสียงของท่าน กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล]
- หากเครื่องเสียงไม่รองรับ Dolby Digital หรือ DTS ให้ตั้งค่า [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] เป็น [PCM]
การปรับระบบเสียงที่เชื่อมต่อไว้กับสายสัญญาณเสียง
- หลังจากเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเครื่องเสียงของท่าน ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [หูฟัง/เสียงออก] — [เสียงออก (คงที่)]
- เปิดเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อไว้ จากนั้นปรับเสียง
หมายเหตุ
- หากเครื่องเสียงไม่รองรับ Dolby Digital หรือ DTS ให้ตั้งค่า [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] เป็น [PCM]
คำแนะนำ
- เมื่อใช้เครื่องเสียงภายนอก ท่านสามารถควบคุมเสียงทีวีได้โดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวี หากตั้งค่า [หูฟัง/เสียงออก] เป็น [เสียงออก (เปลี่ยนแปลง)] กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [หูฟัง/เสียงออก] — [เสียงออก (เปลี่ยนแปลง)]
- เมื่อเชื่อมต่อ subwoofer กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [หูฟัง/เสียงออก] — [Subwoofer]
อุปกรณ์บลูทูธ
- การเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธ
- โปรไฟล์บลูทูธที่รองรับ
การเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การจับคู่ทีวีกับอุปกรณ์บลูทูธ
- เปิดอุปกรณ์บลูทูธและตั้งค่าในโหมดการจับคู่
การตั้งค่าอุปกรณ์บลูทูธของท่านในโหมดการจับคู่ ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์นั้น - กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่า Bluetooth] — [เพิ่มอุปกรณ์] หรือตั้งค่าทีวีในโหมดการจับคู่
รายการของอุปกรณ์บลูทูธที่สามารถใช้งานได้จะแสดงขึ้น - เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการจากรายการ จากนั้นปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอ
หากท่านได้รับการแจ้งให้ป้อนรหัสผ่าน ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์นั้น
หลังจากการจับคู่เสร็จสมบูรณ์ อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับทีวี
การเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธที่จับคู่แล้ว
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่า Bluetooth]
- เลือกอุปกรณ์ที่จับคู่ไว้แล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออยู่จากรายการ
- เลือก [เชื่อมต่อ]
โปรไฟล์บลูทูธที่รองรับ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ทีวีรองรับโปรไฟล์ต่อไปนี้:
- HID (โปรไฟล์อินเตอร์เฟสอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้)
- HOGP (โปรไฟล์ HID ผ่าน GATT)
- 3DSP (โปรไฟล์ซิงโครไนซ์ 3D)*
- SPP (โปรไฟล์พอร์ตอนุกรม)
* สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
Subwoofer ไร้สายของ Sony (อุปกรณ์เสริม) (รุ่นที่รองรับ Subwoofer ไร้สายของ Sony เท่านั้น)
- การเชื่อมต่อ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
- การปรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
การเชื่อมต่อ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
ท่านสามารถใช้อุปกรณ์เสริม Subwoofer ไร้สาย SWF-BR100 เพื่อขยายเสียงทุ้มของทีวีได้
คุณสมบัตินี้จะสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
ทีวีที่รองรับ Subwoofer ไร้สายจะแสดง “SWF-BR100” ในส่วนข้อมูลจำเพาะของ คู่มืออ้างอิง
- ทรานซิฟเวอร์ไร้สาย
- Subwoofer ไร้สาย SWF-BR100
- สายสัญญาณเสียง
- ต่อสายสัญญาณเสียง (ที่ให้มา) เข้ากับ ทรานซิฟเวอร์ไร้สาย
- เชื่อมต่อปลายสายสัญญาณเสียงอีกด้านเข้ากับพอร์ต (ช่องต่อ) AUDIO OUT / (ไมโครโฟน) ของทีวี
- เชื่อมต่อทรานซิฟเวอร์ไร้สายกับช่อง USB ของทีวี
[หูฟัง/เสียงออก] ถูกตั้งค่าเป็น [Subwoofer] โดยอัตโนมัติ - จัดตำแหน่ง Subwoofer ไร้สาย และเชื่อมต่อเข้ากับสายไฟ AC
เราแนะนำให้วาง Subwoofer ไร้สายไว้ใกล้กับทีวีมากที่สุด
คำแนะนำ
- เมื่อถอดทรานซิฟเวอร์ไร้สายออก [หูฟัง/เสียงออก] จะกลับสู่ค่าเดิมโดยอัตโนมัติ
- สำหรับรายละเอียดของวิธีการปรับตั้ง Subwoofer ไร้สาย ให้ดูคู่มือการใช้งานที่ให้มาด้วยกับ Subwoofer ไร้สาย
การปรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่รองรับ Subwoofer ไร้สายของ Sony มี [พลังงาน Subwoofer ไร้สาย] ใน [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [การปรับเสียง]
การตั้งค่าเสียงของ Subwoofer ไร้สายได้รับการตั้งค่าตามค่าที่แนะนำสำหรับทีวีของท่าน ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าให้เหมาะสมกับความต้องการของท่าน
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [การปรับเสียง] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เกี่ยวข้องกับโหมดเสียง] — [Subwoofer ไร้สาย]
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [ระดับ Subwoofer ไร้สาย]
- ปรับระดับเสียงของ Subwoofer ไร้สาย
- [ความถี่ตัด (50‑200Hz)]
- ปรับความถี่ตัดของ Subwoofer ไร้สาย ความถี่ทั้งหมดที่ต่ำกว่าความถี่ตัดจะส่งสัญญาณไปยัง Subwoofer ไร้สาย
- [เฟส]
- ตั้งค่าขั้วของเฟส เลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับความต้องการของท่าน
- [การซิงค์ Subwoofer ไร้สาย]
- ปรับช่วงเวลาหน่วงของเสียง Subwoofer ไร้สาย หากเสียงที่กำเนิดจาก Subwoofer ไร้สายล่าช้าเกินไป ให้ใช้ [+]; หากเสียงมาเร็วเกินไป ให้ใช้ [-]
- [รีเซ็ตการตั้งค่า Subwoofer ไร้สาย]
- ยกเลิกการตั้งค่า Subwoofer ไร้สาย กลับเป็นค่าเริ่มต้น
การตั้งค่าวิธีควบคุมการเปิด/ปิด Subwoofer ไร้สาย
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [การปรับเสียง] — [พลังงาน Subwoofer ไร้สาย]
อุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
- ภาพรวมของ BRAVIA Sync
- การใช้งานคุณสมบัติต่างๆ สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
- การปรับการตั้งค่า BRAVIA Sync
ภาพรวมของ BRAVIA Sync
หากอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync (เช่น เครื่องเล่นแผ่น BD AV รีซีฟเวอร์) เชื่อมต่ออยู่ด้วยสาย HDMI หรืออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync (เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต) เชื่อมต่ออยู่ด้วยสาย MHL (รุ่น MHL เท่านั้น) คุณสามารถใช้งานอุปกรณ์ด้วยรีโมทคอนโทรลของ TV ได้
การใช้งานคุณสมบัติต่างๆ สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
[รายการซิงโครไนซ์] ใช้เพื่อใช้งานอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync จากทีวีเป็นหลัก
กดปุ่ม ACTION MENU และเลือก [รายการซิงโครไนซ์]
เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD
- เปิดเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD โดยอัตโนมัติและเปลี่ยนสัญญาณเข้าไปยังเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD เมื่อท่านเลือกจากโฮมเมนูหรือรายการซิงโครไนซ์
- เปิดทีวีโดยอัตโนมัติและเปลี่ยนสัญญาณเข้าไปยังเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่ เมื่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD เริ่มทำงาน
- ปิดเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติ เมื่อท่านปิดทีวี
- ควบคุมการทำงานของเมนู (ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) / (ซ้าย) / (ขวา)), การเล่น (เช่น ปุ่ม (เล่น)) และการเลือกช่องของเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่ผ่านรีโมทคอนโทรลของทีวี
AV รีซีฟเวอร์
- เปิด AV รีซีฟเวอร์ที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติ และเปลี่ยนสัญญาณเสียงออกจากลำโพง TV ไปยังชุดเครื่องเสียงเมื่อท่านเปิด TV ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้เฉพาะในกรณีที่ท่านเคยใช้ AV รีซีฟเวอร์รับสัญญาณเสียงจาก TV เท่านั้น
- เมื่อเปิด AV รีซีฟเวอร์ในขณะที่ TV เปิดอยู่ สัญญาณเสียงจะถูกส่งไปยัง AV รีซีฟเวอร์โดยอัตโนมัติ
- ปิด AV รีซีฟเวอร์ที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติเมื่อท่านปิด TV
- ปรับระดับเสียง (ปุ่ม (ระดับเสียง) +/–) และปิดเสียง (ปุ่ม (ปิดเสียง)) ของ AV รีซีฟเวอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ผ่านรีโมทคอนโทรลของ TV
กล้องถ่ายวิดีโอ
- เปิดทีวีและเปลี่ยนสัญญาณเข้าไปยังกล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดกล้อง
- ปิดกล้องถ่ายวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติเมื่อท่านปิดทีวี
- ควบคุมการทำงานของเมนู (ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) / (ซ้าย) / (ขวา)), การเล่น (เช่น ปุ่ม (เล่น)) ของกล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่ผ่านรีโมทคอนโทรลของทีวี
หมายเหตุ
- “การควบคุม BRAVIA Sync” (BRAVIA Sync) สามารถใช้งานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ที่เชื่อมต่ออยู่ซึ่งมีโลโก้ BRAVIA Sync
การปรับการตั้งค่า BRAVIA Sync
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- เปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- การเปิดใช้งาน [การควบคุม BRAVIA Sync] ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [การตั้งค่า BRAVIA Sync] — [การควบคุม BRAVIA Sync]
- เปิดใช้งาน BRAVIA Sync บนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ Sony BRAVIA Sync บางรุ่นและเปิดเครื่องพร้อมกับเปิดใช้งาน [การควบคุม BRAVIA Sync] BRAVIA Sync จะทำงานบนอุปกรณ์ดังกล่าวโดยอัตโนมัติ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้ปรากฏขึ้นที่ด้านล่าง (ตัวเลือกจะแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศของท่าน)
- [ปิดอุปกรณ์อัตโนมัติ]
- หากปิดใช้งาน อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่จะไม่ปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดทีวี
- [เปิดทีวีอัตโนมัติ]
- หากปิดใช้งาน ทีวีจะไม่เปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- [เปลี่ยนแปลงอินพุตอัตโนมัติ (MHL)] (รุ่นที่รองรับ MHL เท่านั้น)
- เมื่อเปิดใช้งานสัญญาณเข้าจาก TV จะเปลี่ยนให้ตรงกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อโดยใช้สาย MHL โดยอัตโนมัติ
- [รายการอุปกรณ์ BRAVIA Sync]
- แสดงรายการอุปกรณ์ BRAVIA Sync
- [ปุ่มควบคุมเครื่องมือ]
- ช่วยให้คุณตั้งค่าปุ่มเพื่อควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ HDMI หรือ MHL (รุ่นที่รองรับ MHL เท่านั้น)
- [การชาร์จ MHL ในระหว่างสแตนด์บาย] (รุ่นที่รองรับ MHL เท่านั้น)
- เมื่อเปิดใช้ TV จะสามารถชาร์จไฟให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ MHL เมื่อ TV อยู่ในโหมดสแตนด์บาย
การใช้งาน รายการซิงโครไนซ์
- กดปุ่ม ACTION MENU เลือก รายการซิงโครไนซ์ และเลือกรายการที่ต้องการใน รายการซิงโครไนซ์
คำแนะนำ
- ในกรณีต่อไปนี้ จะมีข้อความแสดงขึ้นบนหน้าจอทีวีเมื่อคุณเลือก รายการซิงโครไนซ์
- อุปกรณ์ HDMI หรือ MHL (รุ่นที่รองรับ MHL เท่านั้น) จะไม่เชื่อมต่อ
- ปิดใช้งาน [การควบคุม BRAVIA Sync]
การรับชมภาพถ่ายในแบบ 4K จากอุปกรณ์ที่รองรับ (รุ่น 4K เท่านั้น)
- การรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K (รุ่น 4K เท่านั้น)
- การตั้งค่าสำหรับการรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงขึ้น (รุ่น 4K เท่านั้น)
การรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K (รุ่น 4K เท่านั้น)
ท่านสามารถเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอที่รองรับสัญญาณออก HDMI 4K กับ HDMI IN ของทีวีเพื่อแสดงภาพความละเอียดสูงที่เก็บอยู่ในกล้อง นอกจากนี้ท่านยังสามารถแสดงภาพความละเอียดสูงที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB ที่เชื่อมต่อหรือเครือข่ายที่บ้านของท่านได้ ภาพที่มีขนาด 4K หรือมีความละเอียดภาพสูงกว่าสามารถแสดงได้ที่ความละเอียดภาพ 4K (3840×2160)
ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ
- กล้องดิจิตอล
- กล้องวิดีโอ
- อุปกรณ์ USB
- อุปกรณ์เครือข่าย
การรับชมภาพที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB หรืออุปกรณ์เครือข่ายที่ความละเอียดภาพ 4K
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ USB หรืออุปกรณ์เครือข่ายเข้ากับทีวี
- กดปุ่ม HOME เลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู และ จากรายการแอป เลือก [อัลบั้ม] — อุปกรณ์ USB, เซิร์ฟเวอร์ หรือโฟลเดอร์ที่กำหนดค่าไว้แล้วล่วงหน้าและมีไฟ์ที่จะเล่น — โฟลเดอร์หรือไฟล์จากรายการ หากท่านเลือกโฟลเดอร์ ให้เลือกไฟล์ด้วย
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS ใหกดปุ่ม APPS
การรับชมภาพที่เก็บอยู่ในกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ
- เชื่อมต่อกล้องดิจิตอลหรือกล้องวิดีโอที่รองรับสัญญาณออก HDMI กับพอร์ต (ช่องต่อ) HDMI IN ของทีวีโดยใช้สาย HDMI
- กดปุ่ม (เลือกสัญญาณเข้า) ซ้ำๆ เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ตั้งค่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่เป็นสัญญาณออกแบบ 4K
- เริ่มเล่นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
การรับชมภาพที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงกว่า
คุณสามารถตั้งต่า รูปแบบสัญญาณ HDMI เป็น รูปแบบที่ปรับปรุง เพื่อรับชมภาพที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงกว่าได้
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ รูปแบบที่ปรับปรุง หรือการเปลี่ยนการตั้งค่า ให้ดูที่หน้า การตั้งค่าสำหรับการรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงขึ้น (รุ่น 4K เท่านั้น)
หมายเหตุ
- ไม่สามารถแสดงภาพ 3D ได้
- หากคุณเปลี่ยนภาพด้วยการกดปุ่ม (ซ้าย) / (ขวา) อาจใช้เวลาสักครู่ในการแสดงภาพ
การตั้งค่าสำหรับการรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงขึ้น (รุ่น 4K เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
เมื่อท่านจะแสดงภาพที่เป็นรูปแบบ 4K คุณภาพสูงด้วยสัญญาณเข้า HDMI ให้ตั้งค่า [รูปแบบสัญญาณ HDMI] ใน [ช่องต่อเข้า]
รูปแบบสัญญาณ HDMI
หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่ารูปแบบสัญญาณ HDMI กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [รูปแบบสัญญาณ HDMI]
- รูปแบบมาตรฐาน
- รูปแบบ HDMI มาตรฐาน*1 สำหรับใช้งานทั่วไป
- รูปแบบที่ปรับปรุง
- รูปแบบ HDMI คุณภาพสูง*1*2 ตั้งค่าเมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับเท่านั้น
*1 รวม HDR (รุ่น HDR เท่านั้น) รุ่น HDR มี [โหมด HDR] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [ตัวเลือกวิดีโอ]
*2 4K 60p 4:2:0 10 bit, 4:4:4, 4:2:2 เป็นต้น
หมายเหตุ
- เมื่อใช้งาน รูปแบบที่ปรับปรุง ภาพและเสียงอาจถูกส่งออกมาไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้ ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับ HDMI IN ที่อยู่ใน [รูปแบบมาตรฐาน] หรือเปลี่ยนรูปแบบสัญญาณ HDMI ของ HDMI IN เป็น [รูปแบบมาตรฐาน]
- ตั้งค่าเป็น รูปแบบที่ปรับปรุง เมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับเท่านั้น
- เมื่อท่านรับชมภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูง ต้องใช้ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่รองรับความเร็ว 18 Gbps สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่รองรับความเร็ว 18 Gbps ให้ดูข้อมูลจำเพาะของสายนั้นๆ
- ในบางรุ่น รูปแบบสัญญาณ HDMI ของ HDMI IN 2 และ 3 จะเปลี่ยนพร้อมกัน
การเชื่อมต่อกับเครือข่าย
- การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้สาย LAN
- การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
- คุณสมบัติของเครือข่ายที่บ้าน
การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้สาย LAN
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้สาย LAN
การเชื่อมต่อ LAN แบบใช้สายจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายที่บ้านได้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือเครือข่ายที่บ้านผ่านเร้าท์เตอร์
คำแนะนำ
- หากท่านใช้โมเด็มที่มีฟังก์ชั่นเร้าท์เตอร์ ท่านไม่จำเป็นต้องเตรียมเร้าท์เตอร์แยกต่างหาก สอบถามผู้ให้บริการของท่านสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลจำเพาะของโมเด็มของท่าน
- สาย LAN
- คอมพิวเตอร์
- เร้าท์เตอร์
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- การตั้งค่าเร้าท์เตอร์ LAN ของท่าน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของเร้าท์เตอร์ LAN ของท่าน หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย) - กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [การตั้งค่าเครือข่าย] — [แบบง่าย]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อทำการตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์
หมายเหตุ
- การตั้งค่าที่้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือเร้าท์เตอร์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่คู่มือการใช้งานที่ได้มาจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือที่ให้มากับเร้าท์เตอร์ ท่านยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย)
การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
- การใช้ Wi-Fi ในการเชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
- การใช้ Wi-Fi Direct ในการเชื่อมต่อทีวี (ไม่ต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สาย)
การใช้ Wi-Fi ในการเชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
อุปกรณ์ LAN ไร้สายในเครื่องช่วยให้ท่านสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงผ่านเครือข่ายได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณใดๆ
- คอมพิวเตอร์
- เร้าท์เตอร์ไร้สาย
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- ตั้งค่าเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่าน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่าน หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย) - กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [การตั้งค่าเครือข่าย] — [แบบง่าย]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อทำการตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์
หากทีวีของคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย โปรดดูที่เพจ ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
หากต้องการปิด LAN ไร้สายในเครื่อง
- หากต้องการปิดใช้งาน [บิวท์อิน Wi‑Fi] ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [ตั้งค่าแบบแอดวานซ์] — [บิวท์อิน Wi‑Fi]
คำแนะนำ
- การเล่นวิดีโอสตรีมอย่างราบรื่น:
- เปลี่ยนการตั้งค่าเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่านเป็นมาตรฐานระบบเครือข่ายความเร็วสูง เช่น 802.11n หากสามารถทำได้
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนการตั้งค่า ให้ดูคู่มือการใช้งานของเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่าน หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย) - หากขั้นตอนด้านบนไม่สามารถใช้แก้ไขปัญหาได้ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าของเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่านเป็น 5GHz ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอสตรีม
- แถบคลื่นความถี่ 5GHz อาจไม่สามารถใช้งานได้ ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน หากไม่มีการรองรับแถบคลื่นความถี่ 5GHz จะสามารถเชื่อมต่อทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สายได้โดยใช้แถบคลื่นความถี่ 2.4GHz เท่านั้น
- เปลี่ยนการตั้งค่าเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่านเป็นมาตรฐานระบบเครือข่ายความเร็วสูง เช่น 802.11n หากสามารถทำได้
- การใช้ความปลอดภัย WEP กับเร้าท์เตอร์ไร้สาย ให้เลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [การตั้งค่าเครือข่าย] — [แบบง่าย] — [Wi‑Fi]
หมายเหตุ
- การตั้งค่าที่้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือเร้าท์เตอร์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่คู่มือการใช้งานที่ได้มาจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือที่ให้มากับเร้าท์เตอร์ ท่านยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย)
- หากท่านเลือกตัวเลือก [แสดงรหัสผ่าน] ในหน้าจอป้อนรหัสผ่าน รหัสผ่านที่แสดงอยู่นั้นอาจถูกผู้อื่นเห็นได้
การใช้ Wi-Fi Direct ในการเชื่อมต่อทีวี (ไม่ต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สาย)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์กับทีวีแบบไร้สายโดยไม่ต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สาย จากนั้นสตรีมวิดีโอ ภาพถ่าย และเพลงที่จัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์ของท่านไปยังทีวีโดยตรงได้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [Wi‑Fi Direct] — [การตั้งค่า Wi‑Fi Direct]
- เลือกชื่อทีวีที่ปรากฏบนหน้าจอทีวีด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi Direct
หากอุปกรณ์ไม่รองรับ Wi-Fi Direct ให้เลือก [แสดงเครือข่าย (SSID)/รหัสผ่าน] - ใช้งานอุปกรณ์ Wi-Fi Direct/Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่อกับทีวี
- ส่งเนื้อหาจากอุปกรณ์ Wi-Fi Direct/Wi-Fi ไปยังทีวี
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์
หากไม่สามารถเชื่อมต่อได้
เมื่อหน้าจอพร้อมใช้งานสำหรับการตั้งค่า Wi-Fi Direct ปรากฏขึ้น ให้เลือก [แสดงเครือข่าย (SSID)/รหัสผ่าน] และปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อทำการตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น
ปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด 10 เครื่อง การเชื่อมต่ออุปกรณ์เพิ่มในขณะที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่แล้ว 10 ตัว ให้ถอดอุปกรณ์ตัวที่ไม่จำเป็นออก จากนั้นจึงเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น
การเปลี่ยนชื่อทีวีที่แสดงบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เกี่ยวกับ] — [ชื่ออุปกรณ์]
การแสดงรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่/ยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [Wi‑Fi Direct] — [แสดง/ลบรายการเครื่องมือ]
การยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์ ให้เลือกอุปกรณ์จากรายชื่อที่ต้องการลบ จากนั้นกดปุ่ม (Enter) จากนั้นเลือก [ใช่] บนหน้าจอยืนยัน
การยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์ทั้งหมด ให้เลือก [ลบทั้งหมด] จากรายชื่อ จากนั้น [ใช่] ในหน้าจอยืนยัน
คุณสมบัติของเครือข่ายที่บ้าน
- การปรับการตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน
- การเล่นเนื้อหาจากคอมพิวเตอร์
- การเล่นเนื้อหาจากเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูล
การปรับการตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถปรับการตั้งค่าเครือข่ายที่บ้านต่อไปนี้ได้
การตรวจสอบการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [ตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน] — [การวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์] — ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อดำเนินการวิเคราะห์
การใช้ฟังก์ชั่น renderer
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [ตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน] — [Renderer] — ตัวเลือกที่ต้องการ
- [ฟังก์ชั่น Renderer]
- เปิดใช้งานฟังก์ชั่น renderer
- ท่านสามารถเล่นไฟล์ภาพถ่าย/เพลง/วิดีโอที่อยู่ในอุปกรณ์ควบคุม (เช่น กล้องดิจิตอล) บนหน้าจอทีวีได้โดยการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวโดยตรง
- [การควบคุมเข้าถึง Renderer]
- เลือก [สิทธิ์การเข้าถึงอัตโนมัติ] เพื่อเข้าใช้ทีวีโดยอัตโนมัติเมื่ออุปกรณ์ควบคุมเข้าใช้ทีวีครั้งแรก
- เลือก [การตั้งค่าแบบเลือกปรับ] เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าการอนุญาตเข้าใช้ของอุปกรณ์ควบคุมแต่ละชิ้น
การใช้อุปกรณ์รีโมท
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [การตั้งค่าอุปกรณ์รีโมท] — ตัวเลือกที่ต้องการ
- [ควบคุมจากระยะไกล]
- สั่งการทำงานของทีวีจากอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้
- [ยกเลิกลงทะเบียนอุปกรณ์รีโมท]
- ยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์เพื่อปิดใช้การสั่งการทำงานของทีวีจากอุปกรณ์ดังกล่าว
การเล่นเนื้อหาจากคอมพิวเตอร์
ท่านสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหา (ไฟล์รูปภาพ/เพลง/วิดีโอ) ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์เครือข่ายที่อยู่ในห้องอื่น ถ้าท่านเชื่อมต่อ TV เข้ากับเครือข่ายภายในบ้านผ่านทางเราเตอร์
- คอมพิวเตอร์ (เซิร์ฟเวอร์)
- เร้าท์เตอร์
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- เชื่อมต่อทีวีกับเครือข่ายที่บ้านของท่าน
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู จากนั้นเลือก [อัลบั้ม], [วิดีโอ] หรือ [เพลง] รายการจากแอป
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS คุณสามารถกดปุ่ม APPS เพื่อให้แสดงรายการแอปได้ - กดปุ่ม (ซ้าย) และเลือก ชื่อเซิร์ฟเวอร์ จากเมนูที่แสดง
- เลือกโฟลเดอร์หรือไฟล์ที่จะเล่นจากรายการ
หากท่านเลือกโฟลเดอร์ ให้เลือกไฟล์ที่ต้องการ
การเล่นจะเริ่มต้นขึ้น
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
หมายเหตุ
- การเล่นอาจไม่สามารถทำได้แม้ไฟล์จะอยู่ในฟอร์แมตที่สนับสนุนก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไฟล์ดังกล่าว
การเล่นเนื้อหาจากเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูล
ท่านสามารถเล่นไฟล์ภาพถ่าย/เพลง/วิดีโอที่อยู่ในอุปกรณ์ควบคุม (เช่น กล้องดิจิตอล) บนหน้าจอ TV ได้โดยการใช้งานตัวควบคุมดังกล่าวโดยตรง ถ้าท่านเชื่อมต่อ TV เข้ากับเครือข่ายภายในบ้านผ่านทางเราเตอร์ อุปกรณ์ควบคุมดังกล่าวควรสนับสนุนการ renderer
- กล้องดิจิตอล (อุปกรณ์ควบคุม)
- เร้าท์เตอร์
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- เชื่อมต่อทีวีกับเครือข่ายที่บ้านของท่าน
- ใช้งานอุปกรณ์ควบคุมเพื่อเริ่มเล่นเนื้อหาบนหน้าจอทีวี
การตั้งค่า
- การกำหนดค่าทีวี
- การตั้งเวลา
การกำหนดค่าทีวี
เนื้อหาที่แสดงใน จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
- [ทีวี]
- [เครือข่ายและอุปกรณ์เสริม]
- [ค่ากำหนดของระบบ]
- [ส่วนตัว]
- [บัญชี]
[ทีวี]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ทีวี] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [ตั้งค่าช่อง]
- ปรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการรับรายการออกอากาศ
- การปรับจูนช่องสัญญาณดิจิตอล
- การรับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอล
- การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
- การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
- [ช่องต่อเข้า]
- ปรับการตั้งค่าช่องต่อเข้าและ BRAVIA Sync
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับ BRAVIA Sync โปรดดูที่ อุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync - [ตั้งค่าภาพ]
- ปรับการตั้งค่าการแสดงภาพและหน้าจอ เช่น ความสว่างของหน้าจอ
- [การปรับเสียง]
- ปรับการตั้งค่าเสียงและตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับลำโพง
- [ไฟ LED ส่องสว่าง]
- ปรับตั้ง ไฟ LED ส่องสว่างตามต้องการ
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Illumination LED โปรดไปที่ วิธีที่ทำให้ไฟ illumination LED สว่างขึ้น - (ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้กับรุ่นของท่าน)
- [พลังงาน]
- เปลี่ยนการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน
- [แอป]
- เปลี่ยนการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชั่น
- [โปรแกรมรักษาหน้าจอ]
- ปรับการตั้งค่าของภาพพักหน้าจอ
- [ที่เก็บข้อมูลและการรีเซ็ต]
- เปลี่ยนการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูล
- [การตั้งค่าเริ่มแรก]
- ตั้งค่าคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น เครือข่ายและช่องสัญญาณ สำหรับการใช้งานครั้งแรก
- [เกี่ยวกับ]
- แสดงข้อมูลเกี่ยวกับทีวี
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลอื่นๆ ให้ดูที่ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
[เครือข่ายและอุปกรณ์เสริม]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอุปกรณ์เสริม] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [เครือข่าย]
- ตั้งค่าและตรวจสอบเครือข่ายและการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
- [Google Cast]
- แสดงข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติ Google Cast
- [การตั้งค่า Bluetooth]
- ตั้งค่าสำหรับการลงทะเบียน/ยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์บลูทูธ
- [การตั้งค่ารีโมทคอนโทรลแผงสัมผัส]/[รีโมทสั่งงานด้วยเสียง]
- การตั้งค่าสำหรับการจับคู่รีโมทคอนโทรลแผงสัมผัส/รีโมทสั่งงานด้วยเสียง การตั้งค่าที่แสดงจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรุ่นของคุณ
- [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- ปรับการตั้งค่าของอุปกรณ์ HDD USB สำหรับการบันทึก
(ตัวเลือกนี้อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ)
[ค่ากำหนดของระบบ]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดของระบบ] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [วันที่และเวลา]
- ปรับเวลาปัจจุบัน
- [ภาษา / Language]
- เลือกภาษาเมนู
- [แป้นพิมพ์]
- ปรับการตั้งค่าของแป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- [Google]
- ปรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชั่นการค้นหา
- [การเข้าถึง]
- ปรับการตั้งค่าของฟังก์ชั่นการเข้าถึงและบริการสำหรับช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ใช้ใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
- [หน้าจอหลัก]
- ปรับตั้งช่องที่แสดงใน [หน้าจอหลัก] และจัดเรียงแอป
- [การตั้งค่าโหมดร้านค้า]
- ปรับหน้าจอสำหรับการใช้แสดงหน้าร้านด้วยการตั้งค่า [โหมดตัวอย่าง] ฯลฯ
[ส่วนตัว]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ส่วนตัว] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [ตำแหน่ง]
- ปรับการตั้งค่าตำแหน่งเพื่อรับตำแหน่งของผู้ใช้
- [ความปลอดภัยและข้อจำกัด]
- ปรับการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น รหัสผ่าน
- [ควบคุมระดับสิทธิการเล่น (การออกอากาศ)]
- ปรับการตั้งค่าควบคุมระดับสิทธิการเล่นสำหรับการออกอากาศและรายการอื่นๆ
- [ควบคุมระดับสิทธิการเล่น (ช่องทางการส่งกระแสข้อมูล)]
- ทำการตั้งค่าควบคุมระดับสิทธิการเล่นสำหรับช่องสตรีม (ไม่รองรับโดยแอพพลิเคชั่นสำหรับช่องสตรีมทั้งหมด ซึ่งอาจใช้การตั้งค่าได้จากแอพพลิเคชั่น/บริการ)
[บัญชี]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [บัญชี] — ตัวเลือกที่ต้องการ
- [Google]
- ซิงค์บัญชี Google ที่ลงทะเบียนไว้หรือลบบัญชีออก
- [เพิ่มบัญชี]
- เพิ่มบัญชีผู้ใช้บริการต่างๆ เช่น บัญชี Google และบัญชี Sony Entertainment Network (SEN) คุณสามารถเพิ่มบัญชี Google หลายบัญชีและใช้สลับกันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่น
การตั้งเวลา
การตั้งเวลาเปิด
การตั้งเวลาเปิดจะเปิดทีวีโดยอัตโนมัติตามเวลาที่ระบุ เช่น เมื่อ รายการ ที่ท่านต้องการชมมาถึง นอกจากนี้ท่านยังสามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุกได้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก (ไอคอน ตั้งเวลา) — [ตั้งเวลาเปิด] — ตัวเลือกที่ต้องการ
การตั้งเวลาปิด
การตั้งเวลาปิดจะปิดทีวีโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก (ไอคอน ตั้งเวลา) — [ตั้งเวลาปิด] — ตัวเลือกที่ต้องการ
หมายเหตุ
- เมื่อท่านปิดทีวีและเปิดใหม่อีกครั้ง [ตั้งเวลาปิด] จะถูกตั้งค่าใหม่เป็น [ปิด]
การแก้ไขปัญหา
- เริ่มที่นี่ ประสบปัญหา? เริ่มที่นี่
- ภาพ (คุณภาพ)/หน้าจอ
- แป้นพิมพ์
- การรับการออกอากาศ
- เสียง
- เครือข่าย (อินเตอร์เน็ต/บ้าน)/แอพพลิเคชั่น
- รีโมทคอนโทรล/อุปกรณ์เสริม
- พลังงาน
- อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- การบันทึก USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เคุณั้น)
- LED
เริ่มที่นี่
- การวินิจฉัยด้วยตนเอง
- การปรับปรุงซอฟต์แวร์
- หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
- คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
การวินิจฉัยด้วยตนเอง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการวินิจฉัยด้วยตนเอง
ให้ตรวจสอบว่า TV ทำงานตามปกติหรือไม่
- กดปุ่ม HELP จากนั้นเลือก [การวิเคราะห์ตัวเอง], [การวิเคราะห์ปัญหา] — [การวิเคราะห์ตัวเอง]
[การวิเคราะห์ตัวเอง] จะเริ่มทำงาน
คำแนะนำ
นอกจากนี้ท่านยังสามารถตรวจสอบอาการต่อไปนี้ได้ใน หรือ [การวิเคราะห์ปัญหา]
- [ปัญหาการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต]
- [ปัญหาอุปกรณ์ภายนอก]
- [ปัญหาด้านภาพ/เสียง]
หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- รีเซ็ต TV (เริ่มระบบใหม่) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่ หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
- ตรวจสอบและลองใช้ การปรับปรุงซอฟต์แวร์
- เว็บไซต์ช่วยเหลือ
การปรับปรุงซอฟต์แวร์
Sony จะมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์เป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มประโยชน์ในการใช้งานและมอบประสบการณ์ทีวีล่าสุดให้แก่ผู้ใช้ วิธีการที่ง่ายที่สุดในการรับการปรับปรุงซอฟต์แวร์คือผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับทีวี
การเปิดดาวน์โหลดซอฟต์แวร์อัตโนมัติ
การเปิดใช้งาน [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ],ให้กดปุ่ม HELP จากนั้นเลือก [อัพเดทซอฟท์แวร์ระบบ] — [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ]
คำแนะนำ
- การปรับปรุงซอฟต์แวร์ด้วยตนเอง ให้เลือก [ตรวจสอบอัพเดทซอฟท์แวร์ระบบ]
- หากท่านไม่ต้องการปรับปรุงซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติ ให้ปิดใช้งาน [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ]
การปรับปรุงซอฟต์แวร์ผ่านอุปกรณ์้เก็บข้อมูล USB
หากท่านไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ท่านสามารถปรับปรุงซอฟต์แวร์ได้โดยใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ใช้คอมพิวเตอร์ของท่านในการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ล่าสุดจากเว็บไซต์ช่วยเหลือ Sony ลงบนอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เสียบอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่ช่อง USB บนทีวี และการปรับปรุงซอฟต์แวร์จะเริ่มโดยอัตโนมัติ
หากท่านจะปรับปรุงซอฟต์แวร์ของทีวีโดยใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ท่านควรอ่านข้อควรระวังสำหรับการปรับปรุงด้วยอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB บนเว็บไซต์
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ช่วยเหลือ โปรดดูที่หน้า เว็บไซต์ช่วยเหลือ
หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
หากท่านมีปัญหา เช่น ภาพไม่แสดงบนหน้าจอหรือรีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน ให้รีเซ็ต TV โดยปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ หากปัญหายังคงอยู่ ให้ลองขั้นตอนการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานด้านล่างนี้
หากต่ออุปกรณ์ USB ภายนอกเข้ากับ TV ให้ถอดอุปกรณ์ USB ออกจาก TV ก่อนการรีเซ็ต
การรีเซ็ตค่าการใช้พลังงาน
- เริ่มการทำงานของ TV ใหม่ด้วยรีโมทคอนโทรล
กดปุ่มเปิดปิดบนรีโทมคอนโทรลค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีจนกว่าข้อความ “ปิดเครื่อง” จะปรากฏขึ้น
TV จะปิดและเปิดใหม่โดยอัตโนมัติหลังผ่านไปประมาณหนึ่งนาที - ถอดปลั๊กสายไฟ AC ออก (สายหลัก)
หากยังคงเกิดปัญหาหลังขั้นตอนที่ 1 ให้ถอดปลั๊กสายไฟ TV (สายหลัก) ออกจากเต้าเสียบไฟฟ้าจากนั้นกดปุ่มเปิดปิดบน TV และรอ 2 นาที จากนั้นเสียบสายไฟ (สายหลัก) กลับเข้าไปยังเต้าเสียบไฟฟ้า
คำแนะนำ
การตั้งค่าส่วนบุคคลและข้อมูลของท่านจะไม่สูญหายหลังจากรีสตาร์ท TV
รีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น
หากปัญหายังคงมีอยู่หลังจากที่รีเซ็ตแล้ว ให้ลองรีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น
หมายเหตุ
การรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานจะลบข้อมูลและการตั้งค่าของ TV ทั้งหมด (เช่น Wi-Fi และข้อมูลการตั้งค่าเครือข่ายแบบมีสาย, Google บัญชีและข้อมูลการเข้าสู่ระบบอื่นๆ Google Play และแอปอื่นๆ ที่ติดตั้ง)
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ที่เก็บข้อมูลและการรีเซ็ต] — [รีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น]
- เลือก [ลบทุกอย่าง]
หากคุณได้ตั้งรหัส PIN ไว้ใน TV คุณจะได้รับแจ้งให้ป้อนข้อมูลเมื่อคุณเลือก [ลบทุกอย่าง]
หลังจากกระบวนการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว TV จะเริ่มวิซาร์ดการตั้งค่าเริ่มต้น คุณต้องยอมรับข้อตกลในการให้บริการของ Google และนโยบายส่วนบุคคลชอง Google
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหา ท่านสามารถดู “คำถามที่ถูกถามบ่อย” ในเว็บไซต์ช่วยเหลือของเราด้านล่าง
- http://www.sony.net/androidtv-faq/
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหา ท่านสามารถดู คำถามที่ถูกถามบ่อย ในเว็บไซต์ช่วยเหลือของเรา
ภาพ (คุณภาพ)/หน้าจอ
- ไม่มี สี/ภาพมืด/สี เพี้ยน/ภาพสว่างเกินไป
- ภาพบิดเบี้ยว/หน้าจอกะพริบ
- ขนาดของภาพ/รูปแบบหน้าจอ/โหมดจอกว้างโดยอัตโนมัติ
- จอภาพเปลี่ยนเป็นวิดีโอที่ท่านไม่รู้จัก อย่างกะทันหัน ขณะรับชมทีวี
- มีการแจ้งเตือน/ตัวแสดงที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจอ
- ภาพ HDR ความละเอียดสูงจะไม่แสดงขึ้น
- ภาพ 3D ไม่ปรากฏขึ้น เอฟเฟคท์ 3D อ่อน (รุ่น 3D เท่านั้น)
- แถบสีดำจะปรากฏขึ้นที่ขอบทั้งสองด้านของจอภาพเมื่อรับชมภาพแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ท่านไม่สามารถปิดการแสดงผลแบบ 3D ในขณะที่กำลังรับชมเนื้อหา 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ข้อความ [ตรวจจับสัญญาณ 3D] แสดงขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบสัญญาณ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ข้อความเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นขออนุญาตในการเข้าใช้ฟังก์ชั่นทีวีปรากฏขึ้น
ไม่มี สี/ภาพมืด/สี เพี้ยน/ภาพสว่างเกินไป
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ปรับโทนสี ความสว่าง คุณภาพของภาพบนทีวีได้จาก [การปรับภาพ]
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [การปรับภาพ] เพื่อปรับค่า
- หากคุณต้องการรีเซ็ตการตั้งค่า [การปรับภาพ] ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [ยกเลิก]
- หากท่านตั้งค่า [ประหยัดพลังงาน] เป็น [น้อย] หรือ [มาก] ระดับสีดำจะเพิ่มขึ้น กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [พลังงาน] — [ระบบเพื่อสิ่งแวดล้อม] — [ประหยัดพลังงาน] เป็น [ปิด] เพื่อเพิ่มความสว่างหน้าจอ
หมายเหตุ
- คุณภาพของภาพจะขึ้นอยู่กับสัญญาณภาพและรายการ
- คุณภาพของภาพอาจดีขึ้นหากท่านเปลี่ยนใน [การปรับภาพ] ภายใต้ [การตั้งค่า]
กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] และปรับ [สว่าง] หรือ [ความเปรียบต่าง]
ภาพบิดเบี้ยว/หน้าจอกะพริบ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบการเชื่อมต่อและตำแหน่งของ สายอากาศ (เสาอากาศ) และอุปกรณ์ภายนอก
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อ สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณ
- จัด สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
- เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริม ควรเว้นระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ดังกล่าวกับทีวี
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สายโคแอกเชียล 75 โอห์ม คุณภาพสูงเชื่อมต่อกับ สายอากาศ (เสาอากาศ)
ตรวจสอบการตั้งค่า [เคลื่อนไหว]
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] — [Motionflow] — [ปกติ] หรือ [ปิด] (สำหรับรุ่นที่รองรับ [Motionflow] เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ [Motionflow] มี [Motionflow] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] - เปลี่ยนการตั้งค่าปัจจุบันของ [โหมดฟิล์ม] เป็นการตั้งค่าอื่น
กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] — [โหมดฟิล์ม] - ตรวจสอบการตั้งค่า [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]- ตั้งค่า [LNA] เป็น [ปิด] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพ ([LNA] อาจไม่สามารถใช้งานได้โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์/ท้องที่/ประเทศของคุณ)
- ใช้งาน [AFT] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพแบบ อนาล็อก
(อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] ได้ หรือตัวเลือกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศ/สถานการณ์)
ขนาดของภาพ/รูปแบบหน้าจอ/โหมดจอกว้างโดยอัตโนมัติ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถปรับขนาดของภาพได้จาก [จอภาพ]
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [จอภาพ]
- เมื่อเปลี่ยนช่องสถานีหรือสัญญาณวิดีโอเข้า หากเปิดใช้งาน [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ] ใน [จอภาพ] การตั้งค่าปัจจุบันของ [โหมดจอภาพ] จะเปลี่ยนตามสัญญาณเข้าโดยอัตโนมัติ หากต้องการคงการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ให้ปิดใช้งาน [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ]
- ท่านสามารถปรับขนาดของภาพได้จาก [โหมดจอภาพ] ด้วยตนเอง
ตัวอย่างการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] (เมื่อภาพเดิมมีอัตราส่วน 4:3)
- [ปกติ]
แสดงภาพเดิมตามที่เป็น แถบด้านข้างซึ่งเติมเต็มช่องว่างภาพ 4:3 จะแสดงอยู่ที่ด้านซ้ายและขวาของหน้าจอ - [ขยาย]
แสดงภาพ 16:9 ซึ่งแปลงเป็นแบบกล่องจดหมาย 4:3 ด้วยอัตราส่วนที่ถูกต้อง - [ขยายภาพ]
ขยายภาพ รักษาภาพเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
[โหมดจอภาพ] (เมื่อภาพเดิมมีอัตราส่วน 16:9)
ระบบอาจแสดงภาพตามที่ต้องการ แม้ว่าจะมีอัตราส่วน 16:9 เปลี่ยนการตั้งค่าเพื่อสลับไปยังการแสดงผลที่ต้องการ
- [ปกติ]
แสดงภาพ 4:3 ซึ่งขยายตามแนวนอนเป็น 16:9 ด้วยอัตราส่วนที่ถูกต้อง - [ขยาย]
แสดงภาพ 16:9 ซึ่งแปลงเป็นแบบกล่องจดหมาย 4:3 ด้วยอัตราส่วนที่ถูกต้อง - [ขยายภาพ]
ขยายภาพ รักษาภาพเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หมายเหตุ
- [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ] ใน [จอภาพ] เป็น [ขยายภาพ] หรือ [ขยาย] ซึ่งจะมีผลจนกว่าท่านจะเปลี่ยนช่อง/สัญญาณเข้า หรือเปลี่ยนการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง
- [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ] ใน [จอภาพ] จะไม่ทำการยืดภาพเมื่อมีการเปลี่ยนเนื้อหาที่ออกอากาศ เนื่องจากข้อมูลในเนื้อหาดังกล่าวถูกควบคุมโดยผู้ให้บริการออกอากาศของช่องดังกล่าว ท่านสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ตามที่ต้องการได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะมีผลจนกว่าท่านจะเปลี่ยนช่อง/สัญญาณเข้า หรือเปลี่ยนการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง
- ขนาดของภาพจะขึ้นอยู่กับสัญญาณภาพ
- ภาพบนจอจะมีขนาดเล็กลงในช่วงภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งมีสาเหตุมาจากวิธีการออกอากาศที่ผู้ให้บริการใช้ เมื่อช่องที่ออกอากาศแบบ HD เปลี่ยนสัญญาณออกอากาศเป็นแบบ SD (ภาพยนตร์โฆษณา) ภาพอาจมีขนาดเล็กลงและมีกรอบสีดำล้อมรอบ
- รายการ บางรายการ ถ่ายทำโดยใช้อัตราส่วนภาพที่มีขนาดใหญ่กว่า 16:9 (ซึ่งเป็นอัตราส่วนภาพปกติสำหรับภาพยนตร์) ทีวีของท่านจะเล่น ภาพ โดยมีแถบสีดำปรากฏให้เห็นอยู่ทางด้านบนและด้านล่างของหน้าจอ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูที่เอกสารซึ่งให้มาพร้อมกับแผ่น BD/DVD ของท่าน (หรือติดต่อผู้ให้บริการออกอากาศ รายการ ดังกล่าว)
- โดยทั่วไปแล้วรายการ ที่ออกอากาศในฟอร์แมต HD (720p และ 1080i) ซึ่งมีอัตราส่วนภาพ 4:3 จะมีแถบสีดำปรากฏขึ้นทางด้านซ้ายและด้านขวาของหน้าจอ ซึ่งผู้ดำเนินการออกอากาศเป็นผู้เพิ่มเข้าไปเอง
คำแนะนำ
สายบางประเภทและกล่องรับสัญญาณดาวเทียมสามารถควบคุมขนาดของภาพได้ หากท่านใช้กล่องรับสัญญาณ ให้อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณนั้นๆ
จอภาพเปลี่ยนเป็นวิดีโอที่ท่านไม่รู้จัก อย่างกะทันหัน ขณะรับชมทีวี
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีนี้ ทีวีอาจอยู่ในโหมดตัวอย่าง ลองออกจากโหมดตัวอย่าง
- กดปุ่ม HOME บนรีโมทคอนโทรลและเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่าโหมดร้านค้า] ปิดใช้งาน [โหมดตัวอย่าง] และ [โหมดรีเซ็ตภาพ]
มีการแจ้งเตือน/ตัวแสดงที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจอ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีนี้ ทีวีอาจอยู่ในโหมดตัวอย่าง ลองออกจากโหมดตัวอย่าง
- กดปุ่ม HOME บนรีโมทคอนโทรลและเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่าโหมดร้านค้า] ปิดใช้งาน [โหมดตัวอย่าง] และ [โหมดรีเซ็ตภาพ]
ภาพ HDR ความละเอียดสูงจะไม่แสดงขึ้น
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
จำเป็นต้องใช้เพื่อดูภาพ HDR ความละเอียดสูง เช่น 4K (50p/60p)*
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่สามารถเล่น 4K (50p/60p)* ได้
- ใช้ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่รองรับ 18 Gbps
- ตั้งค่า [รูปแบบสัญญาณ HDMI] ถึง [รูปแบบที่ปรับปรุง] โดยการเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [รูปแบบสัญญาณ HDMI] — HDMI เทอร์มินัล ที่คุณต้องการตั้งค่า
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อมีการตั้งค่าหรือเฟิร์มแวร์ล่าสุดหรือไม่
* สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ภูมิภาค/ประเทศ
ภาพ 3D ไม่ปรากฏขึ้น เอฟเฟคท์ 3D อ่อน (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ]
- หากแสดงภาพสองภาพแบบซ้าย-ขวา ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [3D] — [การแสดง 3D] — [3D (ซ้าย‑ขวา)]
หากแสดงภาพสองภาพแบบบน-ล่าง ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [3D] — [การแสดง 3D] — [3D (บน-ล่าง)] - หากหน้าจอ [การแสดง 3D] ปรากฏขึ้น และภาพ 3D ไม่ปรากฏขึ้น ให้ปิดอุปกรณ์ที่เล่นเนื้อหา 3D ดังกล่าว แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง
- การมองเห็นเอฟเฟคท์ 3D ของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไป
สำหรับรุ่น 4K
- ไม่สามารถแสดงสัญญาณแบบ 3D ของ 4K ได้
- สำหรับรุ่นแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ รับชมให้ตรงหน้าจอทีวี เอฟเฟคท์ 3D อาจแสดงออกมาไม่ชัดเจนนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่รับชม ปรับมุมในการรับชมให้ตรงกับหน้าจอ
สำหรับรุ่นแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างทีวีและ แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ใน แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดการทำงานของ แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟแล้ว
- จำเป็นต้องทำการลงทะเบียน แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ ของท่านกับทีวีก่อนใช้งาน การใช้งานแว่นตานี้กับทีวีเครื่องอื่น จำเป็นต้องทำการลงทะเบียนใหม่ ปิดแว่นตาก่อนทำการลงทะเบียนใหม่
- อุปกรณ์ไร้สายหรือเตาไมโครเวฟอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสารระหว่าง แว่นตาสามมิติ และทีวีเนื่องจากทีวีใช้แบนด์ 2.4GHz ในกรณีนี้ ให้ลองลงทะเบียนอีกครั้ง
- หากเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่รองรับ 3D (เช่น ชุด โฮม เธียเตอร์) ระหว่างทีวีกับอุปกรณ์ที่รองรับ 3D ทีวีจะไม่แสดงภาพ 3D เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ 3D เข้ากับทีวีโดยตรงผ่าน สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
แถบสีดำจะปรากฏขึ้นที่ขอบทั้งสองด้านของจอภาพเมื่อรับชมภาพแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ]
- แถบสีดำจะปรากฏขึ้นที่ขอบทั้งสองด้านของจอภาพเนื่องจากการประมวลผลสัญญาณ 3D เมื่อทำการปรับความลึกของภาพ 3D ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [การตั้งค่า 3D] — [ปรับความลึก 3D]
ท่านไม่สามารถปิดการแสดงผลแบบ 3D ในขณะที่กำลังรับชมเนื้อหา 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ]
- สำหรับเนื้อหา 3D ที่แสดงด้วยสัญญาณ 3D จะไม่สามารถปิดการแสดงผลแบบ 3D บนทีวีของท่านได้ ปิดการตั้งค่า 3D ของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ (เช่น เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์)
ข้อความ [ตรวจจับสัญญาณ 3D] แสดงขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบสัญญาณ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ]
- ยกเลิกการตั้งค่า [การแจ้งสัญญาณ 3D] กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [การตั้งค่า 3D] — [การแจ้งสัญญาณ 3D] — [ปิด]
ข้อความเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นขออนุญาตในการเข้าใช้ฟังก์ชั่นทีวีปรากฏขึ้น
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- เลือกว่าจะอนุญาตการเข้าใช้แอพพลิเคชั่นไปยังฟังก์ชั่นที่แสดงหรือไม่
- ท่านสามารถตรวจสอบรายการของการอนุญาตแอพพลิเคชั่นที่จัดหมวดหมู่ด้วยฟังก์ชั่นทีวี และเปลี่ยนการตั้งค่าการอนุญาตสำหรับแต่ละแอพพลิเคชั่น กดปุ่ม HOME เลือก [การตั้งค่า] — [แอป] — [สิทธิ์ของแอป] — ฟังก์ชั่นทีวีที่ต้องการ
แป้นพิมพ์
ท่านไม่สามารถใช้งานหน้าจอปัจจุบันหลังจากที่แป้นพิมพ์บนหน้าจอปรากฏขึ้น
- การกลับสู่การทำงานของหน้าจอหลังแป้นพิมพ์บนหน้าจอ ให้กดปุ่ม BACK บนรีโมทคอนโทรล
การรับการออกอากาศ
- ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้เป็นลำดับแรกเพื่อแก้ไขปัญหาการรับสัญญาณทีวีของท่าน
- เสียงรบกวนหรือข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏขึ้นและท่านไม่สามารถรับชมการออกอากาศได้
- เกิดภาพซ้อนหรือภาพเลือนลาง
- มีเพียงแต่สัญญาณรบกวนที่มีลักษณะเป็นจุดขาวหรือภาพสีดำเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
- มีภาพหรือเสียงรบกวนเมื่อรับชม ช่องทีวี แบบอนาล็อก
- บางช่องเป็นช่องเปล่า
- การรับสัญญาณไม่ดีหรือคุณภาพของภาพจากการออกอากาศแบบดิจิตอลไม่ดี
- ท่านไม่สามารถรับชมช่องดิจิตอล
- ช่องสัญญาณอนาล็อก ได้รับ การปรับจูนไม่ครบ
- ช่องสัญญาณดิจิตอลบางช่องหายไป
ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้เป็นลำดับแรกเพื่อแก้ไขปัญหาการรับสัญญาณทีวีของท่าน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) เชื่อมต่อกับทีวีอย่างแน่นหนา
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) ไม่หลวมหรือหลุดออก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายหรือขั้วต่อสายของ สายอากาศ (เสาอากาศ) ไม่เสียหาย
- หากต้องการรับชมเนื้อหาแบบสตรีมมิ่ง โปรดเชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
เสียงรบกวนหรือข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏขึ้นและท่านไม่สามารถรับชมการออกอากาศได้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) เชื่อมต่อช่องที่ถูกต้อง (ที่ทีวี/อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่/ผนัง)
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายสัญญาณไม่เก่า และภายในของขั้วต่อไม่ลัดวงจร
เกิดภาพซ้อนหรือภาพเลือนลาง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อของสายสัญญาณหรือ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- ตรวจสอบตำแหน่งและทิศทางของ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] — [Motionflow] — [ปกติ] หรือ [ปิด]
(สำหรับรุ่นที่รองรับ [Motionflow] เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ [Motionflow] มี [Motionflow] ใน [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าภาพ] — [การปรับภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว]
มีเพียงแต่สัญญาณรบกวนที่มีลักษณะเป็นจุดขาวหรือภาพสีดำเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
- ตรวจสอบว่าได้ทำการปรับจูนอัตโนมัติหรือไม่
- ตรวจสอบว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) ขาดหรือหักหรือไม่
- ตรวจสอบว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) เสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ (3-5 ปี สำหรับการใช้งานปกติ, 1-2 ปี สำหรับการใช้งานใกล้ทะเล)
มีภาพหรือเสียงรบกวนเมื่อรับชม ช่องทีวี แบบอนาล็อก
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบการตั้งค่า [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]
- ใช้งาน [AFT] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพและเสียง (ชื่อตัวเลือกอาจแตกต่างกันไปตามท้องที่/ประเทศ)
- ตั้งค่า [ตัวกรองเสียง] เป็น [ปิด], [น้อย] หรือ [มาก] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณเสียงแบบ อนาล็อก
- ตั้งค่า [LNA] เป็น [ปิด] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพ ([LNA] อาจไม่สามารถใช้งานได้โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์/ท้องที่/ประเทศของคุณ)
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สายโคแอกเชียล 75 โอห์ม คุณภาพสูงเชื่อมต่อกับ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- ขยับ สายอากาศ (เสาอากาศ) ให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
บางช่องเป็นช่องเปล่า
- ช่องดังกล่าวเป็นช่องที่ต้องจ่ายค่าบริการ/ให้บริการเฉพาะสมาชิกเท่านั้น โปรดสมัครเป็นสมาชิกและเสียค่าธรรมเนียมในการรับชม
- ช่องดังกล่าวใช้สำหรับข้อมูลเท่านั้น (ไม่มีภาพและเสียง)
- โปรดติดต่อสถานีออกอากาศเพื่อสอบถามรายละเอียดในการถ่ายทอดสัญญาณ
การรับสัญญาณไม่ดีหรือคุณภาพของภาพจากการออกอากาศแบบดิจิตอลไม่ดี
- ปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ทิศทาง และมุมของสายอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (เสาอากาศ) เพื่อ เพิ่ม ระดับ สัญญาณสายอากาศ (เสาอากาศ) ให้สูงที่สุด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทิศทางของ สายอากาศ (เสาอากาศ) จะไม่เปลี่ยนโดยไม่ตั้งใจ (เช่น โดยแรงลม)
- หากท่านกำลังใช้เครื่องขยายสัญญาณทีวี ให้ปรับตัวรับสัญญาณ
- หากมีอุปกรณ์ (เช่น เครื่องกระจายสัญญาณทีวี) เชื่อมต่อระหว่าง สายอากาศ (เสาอากาศ) กับทีวี อาจส่งผลต่อการรับสัญญาณทีวี เชื่อมต่อ สายอากาศ (เสาอากาศ) และทีวีโดยตรงเพื่อตรวจสอบว่าการรับสัญญาณดีขึ้นหรือไม่
ท่านไม่สามารถรับชมช่องดิจิตอล
- โปรดสอบถามจากผู้ให้บริการติดตั้งในพื้นที่ว่ามีการให้บริการถ่ายทอดสัญญาณแบบดิจิตอลในพื้นที่ของท่านหรือไม่
- เปลี่ยนไปใช้ สายอากาศ (เสาอากาศ)ที่มีคุณสมบัติในการรับสัญญาณที่ดีกว่านี้
ช่องสัญญาณอนาล็อก ได้รับ การปรับจูนไม่ครบ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- พยายามปรับจูนช่องด้วยตนเอง โดยการปรับตั้งการตั้งค่า กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] (อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] ได้ หรือตัวเลือกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศ/สถานการณ์ของคุณ)
ช่องสัญญาณดิจิตอลบางช่องหายไป
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การเปลี่ยนช่วงการปรับจูน (ใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ)
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [ดิจิตอลจูนนิ่ง] — [ช่วงการปรับช่องอัตโนมัติ]
- [ปกติ]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ภายในท้องที่/ประเทศของท่าน
- [เต็ม]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ไม่ว่าจะเป็นท้องที่/ประเทศใด
การปรับปรุงบริการดิจิตอล
ท่านสามารถดำเนินการ [การปรับอัตโนมัติ] หลังจากย้ายไปยังที่พักอาศัยใหม่ เปลี่ยนผู้ให้บริการ หรือเพื่อค้นหาช่องที่เพิ่งเปิดใหม่ได้
การปรับตั้งการปรับปรุงบริการอัตโนมัติ
เราแนะนำให้ท่านตั้งค่า [อัพเดทการบริการอัตโนมัติ] เป็น [เปิด] เพื่อให้สามารถเพิ่มบริการดิจิตอลใหม่ๆ โดยอัตโนมัติเมื่อสามารถใช้งานได้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [การตั้งค่าเทคนิค] — [อัพเดทการบริการอัตโนมัติ] — [เปิด]
หากปิดใช้งาน ท่านจะได้รับการแจ้งเมื่อมีบริการดิจิตอลใหม่ๆ ด้วยข้อความบนหน้าจอ และบริการเหล่านี้จะไม่เพิ่มเข้ามาโดยอัตโนมัติ
คำแนะนำ
- ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ หากไม่สามารถใช้งานได้ ให้ใช้งาน [การปรับอัตโนมัติ] เพื่อเพิ่มบริการใหม่ๆ
เสียง
- ไม่มีเสียงแต่ภาพคมชัด
- เสียงรบกวน
- ไม่มีเสียงหรือเสียงเบาเมื่อใช้กับ ชุด โฮมเธียเตอร์
- เสียงเพี้ยน
- ท่านต้องการให้เสียงออกจากทั้งระบบหูฟัง/ลำโพง TV
- ไม่สามารถปรับระดับเสียงหูฟังได้
ไม่มีเสียงแต่ภาพคมชัด
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบที่ปุ่มปรับระดับเสียง
- กดปุ่ม (ปิดเสียง) หรือ (ระดับเสียง) + เพื่อยกเลิกการปิดเสียง
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ลำโพง] — [ลำโพงทีวี]
- ถอดหูฟังออก
เสียงรบกวน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สายโคแอกเชียล 75 โอห์ม คุณภาพสูงเชื่อมต่อกับ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- ขยับ สายอากาศ (เสาอากาศ) ให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
- เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนทีวี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้ สายอากาศ (เสาอากาศ) ที่ไม่ชำรุดเสียหาย
ไม่มีเสียงหรือเสียงเบาเมื่อใช้กับ ชุด โฮมเธียเตอร์
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ลำโพง] — [เครื่องเสียง]
- ตั้งค่า [หูฟัง/เสียงออก] เป็น [เสียงออก (คงที่)] ในการตั้งค่า [การปรับเสียง]
- หากเครื่องเสียงไม่รองรับ Dolby Digital หรือ DTS ให้ตั้งค่า [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] เป็น [PCM]
- หากคุณเลือกช่องสัญญาณ อนาล็อก (RF) และระบบแสดงภาพไม่ถูกต้อง คุณจะต้องเปลี่ยนระบบออกอากาศของทีวี กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] — [ระบบทีวี] (อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] ได้ หรือชื่อตัวเลือกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศ/สถานการณ์)
- ในบางรุ่น หากตั้งค่า [ลำโพง] เป็น [ลำโพงทีวี] และตั้งค่า [การเพิ่มคุณภาพความละเอียดสูง (DSEE HX)] เป็น [อัตโนมัติ] จะไม่มีเสียงออกจาก DIGITAL AUDIO OUT (OPTICAL)
- ตรวจสอบว่าการตั้งค่า [ระดับช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] ของทีวีอยู่ในระดับสูงสุด
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก:
[การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [การปรับเสียง] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [ทั่วไป] — [ระดับช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] - เมื่อใช้งานช่องสัญญาณเข้า HDMI พร้อมกับ Super Audio CD หรือ DVD-Audio DIGITAL AUDIO OUT (OPTICAL) อาจไม่มีสัญญาณเสียงส่งออกมา
เสียงเพี้ยน
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อ สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณ
- จัด สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
- วางทีวีไว้ในตำแหน่งที่ห่างจากแหล่งปล่อยสัญญาณไฟฟ้ารบกวน เช่น รถยนต์, เครื่องเป่าผม, อุปกรณ์ Wi-Fi, โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ออพติคอล
- เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริม ควรเว้นระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ดังกล่าวกับทีวี
- ใช้งาน [AFT] ใน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณเสียงแบบ อนาล็อก
(อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] ได้ หรือตัวเลือกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศ/สถานการณ์) - ตั้งค่า [ตัวกรองเสียง] เป็น [น้อย] หรือ [มาก] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณเสียงแบบ อนาล็อก ([ตัวกรองเสียง] อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ)
ท่านต้องการให้เสียงออกจากทั้งระบบหูฟัง/ลำโพง TV
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านต้องการให้เสียงออกจากทั้งหูฟังและลำโพง TV
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การปรับเสียง] — [เฮดโฟนเชื่อมต่อลำโพง] — [ปิด] เพื่อส่งออกเสียงจากทั้งอุปกรณ์ที่ต่อเข้ากับสายแจ๊คหูฟังและลำโพงทีวี
อุปกรณ์เสียงบลูทูธ เช่น หูฟังบลูทูธ ไม่สามารถใช้ได้
เพื่อส่งเสียงจากทั้งระบบเสียงที่เชื่อมต่อผ่าน ARC และลำโพงทีวี
เสียงสามารถออกจากทั้งระบบเสียงที่เชื่อมต่อกับทีวีและลำโพงทีวีได้ในเวลาเดียวกันโดยปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสายดิจิตอลออพติคอล
- ตั้งค่า [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] กับ [PCM]
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อสายเคเบิลแบบดิจิตอลโปรดดูที่หน้า การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
ไม่สามารถปรับระดับเสียงหูฟังได้
- หากคุณไม่สามารถปรับระดับเสียงของหูฟังด้วยปุ่ม (ระดับเสียง) +/- ให้กดปุ่ม ACTION MENU และเลือก [ระดับเสียงหูฟัง]
เครือข่าย (อินเตอร์เน็ต/บ้าน)/แอพพลิเคชั่น
- ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
- คุณภาพของภาพและ/หรือเสียงจากแอปสตรีมมิ่งไม่ค่อยดี
- ทีวีของท่านไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
- คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ แต่ไม่ใช่แอปและบริการบางอย่าง
ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
หากไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สายหรือมีการยกเลิกการเชื่อมต่อ โปรดลองทำดังนี้
- กดปุ่ม HOME และตรวจสอบให้แน่ในว่ามีการเปิดใช้งานการตั้งค่าดังต่อไปนี้
[การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [ตั้งค่าแบบแอดวานซ์] — [บิวท์อิน Wi‑Fi] - ตรวจสอบตำแหน่งติดตั้งของทีวีและเร้าท์เตอร์ไร้สาย สภาพสัญญาณอาจได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้:
- มีอุปกรณ์ไร้สายอื่น, เตาไมโครเวฟ, หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ฯลฯ วางอยู่ใกล้เคียง
- มีพื้นหรือผนังขวางระหว่างเร้าท์เตอร์ไร้สายกับทีวี
- ปิดเร้าท์เตอร์ไร้สายแล้วลองใหม่อีกครั้ง
- หากระบบไม่แสดงชื่อเครือข่าย (SSID) ของเร้าท์เตอร์ไร้สายที่ท่านต้องการเชื่อมต่อ โปรดเลือก [[ใส่ค่าเอง]] เพื่อป้อนชื่อเครือข่าย (SSID)
หากปัญหายังคงอยู่หลังจากทำตามขันตอนข้างต้น หรือท่านไม่สามารถเชื่อมต่อได้แม้กับเครือข่ายแบบมีสาย โปรดตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อเครือข่าย
การตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อเครือข่าย
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [ตั้งค่าแบบแอดวานซ์] — [สถานะเครือข่าย] — [ตรวจสอบการเชื่อมต่อ]
ตรวจสอบการเชื่อมต่อกับเครือข่ายของท่าน และ/หรือ ข้อมูลการเชื่อมต่อในคู่มือการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่ากับเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย)
คำแนะนำ
- วิธีแก้ไขปัญหาจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบสถานะเครือข่าย สำหรับวิธีแก้ไขแต่ละปัญหา โปรดดูที่ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
หมายเหตุ
- ถ้าเชื่อมต่อสาย LAN เข้ากับเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานอยู่และทีวีได้รับไอพีแอดเดรสแล้ว ให้ท่านตรวจสอบการเชื่อมต่อและการปรับตั้งค่าของเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูลของท่าน
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [ตั้งค่าแบบแอดวานซ์] — [สถานะเครือข่าย]
คุณภาพของภาพและ/หรือเสียงจากแอปสตรีมมิ่งไม่ค่อยดี
- คุณภาพขึ้นอยู่กับวิดีโอต้นฉบับจากผู้ให้บริการเนื้อหาวิดีโอและแบนด์วิธการเชื่อมต่อของท่าน
- หากต้องการรับชมวิดีโอสตรีมบนอินเตอร์เน็ต จะต้องใช้เครือข่ายที่มีความเร็วและเสถียร โดยทั่วไป ความเร็วที่จำเป็นต้องใช้มีดังต่อไปนี้:
- การสตรีมมิ่งอินเทอร์เน็ตวิดีโอแบบ Standard Definition (SD): 2.5 Mbps
- การสตรีมมิ่งอินเทอร์เน็ตวิดีโอแบบ High Definition (HD): 10 Mbps
- การสตรีมมิ่งอินเทอร์เน็ตวิดีโอแบบ Ultra HD (4K): 25 Mbps
- คุณภาพของการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับระยะห่างหรือสิ่งกีดขวาง (เช่น ผนัง) ระหว่างทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สาย สัญญาณรบกวนในสภาพแวดล้อม และคุณภาพของเร้าท์เตอร์ไร้สาย ในกรณีนี้ ให้ใช้การเชื่อมต่อแบบใช้สายสำหรับอินเตอร์เน็ต หรือใช้แถบคลื่นความถี่ 5GHz
- แถบคลื่นความถี่ 5GHz อาจไม่สามารถใช้งานได้ ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน หากไม่มีการรองรับแถบคลื่นความถี่ 5GHz จะสามารถเชื่อมต่อทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สายได้โดยใช้แถบคลื่นความถี่ 2.4GHz เท่านั้น
- ขณะใช้เครือข่ายไร้สาย โปรดวางอุปกรณ์ไร้สายไว้ใกล้กันหรือหลีกเลี่ยงการกีดขวาง
- วางอุปกรณ์ต่างๆ ที่ปล่อยสัญญาณรบกวนแบบ RF (เช่น ไม่โครเวฟ) ให้ออกห่างจากีวีและเร้าท์เตอร์ไร้สาย หรือปิดอุปกรณ์ดังกล่าว
- ระบบจะไม่ส่งสัญญาณเสียงออกสำหรับวิดีโอที่ไม่มีเสียง
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
ทีวีของท่านไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อแบบไร้สายหรือสาย LAN ที่ต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์และทีวีของท่าน
- ตรวจสอบว่าการปรับตั้งค่าเครือข่ายที่ทีวีของท่านถูกต้องหรือไม่
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย/สาย LAN ของท่าน หรือเซิร์ฟเวอร์ของท่าน สัญญาณการเชื่อมต่อระหว่างทีวีและเซิร์ฟเวอร์อาจหลุด
- ใช้งาน [การวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์] เพื่อตรวจสอบว่าเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูลของคุณสามารถสื่อสารกับทีวีได้อย่างถูกต้องหรือไม่ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่าย] — [ตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน] — [การวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์]
คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ แต่ไม่ใช่แอปและบริการบางอย่าง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- การตั้งค่าวันที่และเวลาของทีวีเครื่องนี้อาจไม่ถูกต้อง คุณอาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอปและบริการเหล่านี้ได้หากขึ้นอยู่กับแอปและบริการบางอย่างหากเวลาไม่ถูกต้อง
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [วันที่และเวลา] — [วันที่และเวลาอัตโนมัติ] — [ใช้เวลาของเครือข่าย] เพื่อปรับเวลาผ่านเครือข่ายโดยอัตโนมัติ - ตรวจสอบว่าสาย LAN หรือสายไฟ AC (สายหลัก) ของเร้าท์เตอร์/โมเด็ม* ได้เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง
* เร้าท์เตอร์/โมเด็มของท่านต้องได้รับการตั้งค่าเพื่อเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเสียก่อน ติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของท่านสำหรับการตั้งค่าเร้าท์เตอร์/โมเด็ม - ให้ลองใช้แอพพลิเคชั่นในครั้งถัดไป เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการเนื้อหาแอพพลิเคชั่นอาจยังไม่เปิดบริการ
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
รีโมทคอนโทรล/อุปกรณ์เสริม
- รีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน
- ท่านไม่สามารถเปิดแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ไฟ LED บนแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟกะพริบ (รุ่น 3D เท่านั้น)
รีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ให้ตรวจสอบว่าทีวีทำงานตามปกติหรือไม่
- กดปุ่มเปิด/ปิดบนทีวีเพื่อตรวจดูว่าปัญหาดังกล่าวเป็นที่รีโมทคอนโทรลหรือไม่ สำหรับตำแหน่งของปุ่มเปิด/ปิด โปรดดูที่ คู่มืออ้างอิง ที่ให้มาพร้อมกับทีวี
- หากทีวีไม่ทำงาน ให้ลองทำการรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง
หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
ให้ตรวจสอบว่ารีโมทคอนโทรลทำงานได้ตามปกติหรือไม่
- หันรีโมทคอนโทรลไปที่เซ็นเซอร์รีโมทคอนโทรลบริเวณด้านหน้าของทีวี
- ตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งกีดขวางอยู่ที่บริเวณเซ็นเซอร์รีโมท
- แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์อาจรบกวนการทำงานของรีโมทคอนโทรล ทดลองปิดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทิศทางของแบตเตอรี่ตรงกับสัญลักษณ์บวก (+) และลบ (-) ในช่องบรรจุแบตเตอรี่
- แบตเตอรี่อาจมีพลังงานต่ำ ถอดฝาครอบรีโมทคอนโทรลออกและเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
- แบบเลื่อน
- แบบกด-ปล่อย
- แบบเลื่อน
หมายเหตุ
- มีรีโมทคอนโทรลบลูทูธซึ่งจับคู่กับทีวีมาให้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของคุณ ระหว่างการจัดส่ง จะไม่สามารถใช้รีโมทคอนโทรลที่จับคู่ซึ่งให้มาด้วยควบคุมทีวีเครื่องอื่นได้ ในการตรวจสอบการทำงานของรีโมทคอนโทรล ให้ใช้ทีวีที่จับคู่กับรีโมทที่ให้มา
การรีเซ็ตรีโมทคอนโทรล
หากรีโมทคอนโทรลทำงานไม่ถูกต้องเนื่องจากหน้าสัมผัสของแบตเตอรี่ไม่ดีหรือมีไฟฟ้าสถิตย์ อาจสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยทำการรีเซ็ตรีโมทคอนโทรล
- ถอดแบตเตอรี่ออกจากรีโมทคอนโทรล
- กดปุ่มเปิด/ปิดของรีโมทคอนโทรลประมาณสามวินาที
- ใส่แบตเตอรี่ใหม่ลงในรีโมทคอนโทรล
หากปัญหายังคงอยู่ โปรดดูที่หน้า หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง) และ คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
หมายเหตุ
- เมื่อท่านถอดปลั๊กและเสียบปลั๊กทีวีอีกครั้ง ท่านอาจไม่สามารถเปิดทีวีได้ชั่วขณะแม้ว่าท่านจะกดปุ่มเปิดปิดบนรีโมทคอนโทรลหรือทีวี เนื่องจากการ เริ่มต้น ระบบจำเป็นต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง รอเป็นเวลา 10 ถึง 20 วินาที จากนั้นให้ทดลองอีกครั้ง
- เมื่อคุณไม่สามารถค้นหาโดยใช้เสียงของคุณให้เปิดใช้งานปุ่ม (ไมโครโฟน) โดยการกดปุ่ม HOME และเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่ารีโมทคอนโทรลแผงสัมผัส]/ [รีโมทสั่งงานด้วยเสียง]
การตั้งค่าที่แสดงจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรุ่นของคุณ
ท่านไม่สามารถเปิดแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ (รุ่น 3D เท่านั้น)
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ (ใช้ร่วมกับ TDG-BT400A/BT500A เท่านั้น)
- กดปุ่มปลดล็อกโดยใช้ปลายปากกา เป็นต้น แล้วดึงถาดใส่แบตเตอรี่ออก
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ หลังจากนั้น อย่าลืมใส่ถาดใส่แบตเตอรี่จนกระทั่งล็อกเข้าที่อีกครั้ง
- CR2025 ด้าน (-)
- กดปุ่มปลดล็อกโดยใช้ปลายปากกา เป็นต้น แล้วดึงถาดใส่แบตเตอรี่ออก
ไฟ LED บนแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟกะพริบ (รุ่น 3D เท่านั้น)
- สว่างขึ้น 3 วินาที: แสดงให้ทราบเมื่อเปิดแว่นตา
- กะพริบทุก 2 วินาที: แสดงว่าเปิดแว่นตาแล้ว
- กะพริบ 3 ครั้ง: แสดงว่าได้ปิดแว่นตาแล้ว
- กะพริบเป็นสีเขียวและสีเหลืองสลับกัน: แสดงว่าแว่นตาได้เริ่มการลงทะเบียน
- กะพริบ 3 ครั้งทุก 2 วินาที: แสดงว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมด เปลี่ยนแบตเตอรี่
พลังงาน
- ทีวีปิดเองโดยอัตโนมัติ
- ทีวีเปิดเองโดยอัตโนมัติ
- ไม่สามารถเปิด TV ได้
ทีวีปิดเองโดยอัตโนมัติ
- หน้าจออาจถูกปิดเนื่องจากการตั้งค่า [ตั้งเวลาปิด]
- ตรวจสอบการตั้งค่า [ระยะเวลา] ของ [ตั้งเวลาเปิด]
- ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้งาน [ระบบปิดทีวีขณะไม่ใช้งาน] ใน [ระบบเพื่อสิ่งแวดล้อม] หรือไม่
- หน้าจออาจถูกปิดเนื่องจากการตั้งค่า [โปรแกรมรักษาหน้าจอ]
ทีวีเปิดเองโดยอัตโนมัติ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้งาน [ตั้งเวลาเปิด] หรือไม่
- ปิดการตั้งค่า [เปิดทีวีอัตโนมัติ] ใน [การตั้งค่า BRAVIA Sync]
ไม่สามารถเปิด TV ได้
ทำตามขั้นตอนตามลำดับด้านล่างจนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้
1. ตรวจสอบว่าเปิด TV ด้วยรีโมทคอนโทรลได้หรือไม่
ชี้รีโมทคอนโทรลไปที่เซนเซอร์ที่ด้านหน้าของ TV และกดปุ่มเปิด/ปิดบนรีโมทคอนโทรล
ตรวจสอบว่า TV เปิดหรือไฟ LED ส่องสว่างขึ้นหรือไม่
หากไฟ LED ส่องสว่างขึ้นแต่ TV ไม่เปิด ให้ลองรีเซ็ต TV (เปิดใหม่อีกครั้ง)
- หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
2. ตรวจสอบว่าเปิด TV ด้วยปุ่มเปิด/ปิดบน TV ได้หรือไม่
กดปุ่มเปิด/ปิดบน TV และตรวจสอบว่า TV เปิดอยู่หรือไม่ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องอยู่ที่ด้านข้างหรือด้านหลังของ TV
สำหรับรายละเอียด ให้ดูที่ คู่มืออ้างอิง ของ TV
หาก TV เปิดเครื่องตามขั้นตอนนี้ อาจเกิดปัญหากับรีโมทคอนโทรล โปรดดูที่หัวข้อต่อไปนี้
- รีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน
3. ถอดปลั๊กสายไฟ AC ออก (สายหลัก)
จากนั้นถอดปลั๊กสายไฟ TV (สายหลัก) ออกจากเต้าเสียบไฟฟ้า จากนั้นกดปุ่มเปิดปิดบน TV และรอ 2 นาที จากนั้นเสียบสายไฟ (สายหลัก) กลับเข้าไปยังเต้าเสียบไฟฟ้า
คำแนะนำ
- เมื่อท่านถอดปลั๊กและเสียบปลั๊ก TV อีกครั้ง ท่านอาจไม่สามารถเปิด TV ได้ชั่วขณะแม้ว่าท่านจะกดปุ่มเปิด/ปิดบนรีโมทคอนโทรลหรือ TV เนื่องจากการ เริ่มต้น ระบบจำเป็นต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง รอเป็นเวลา 10 ถึง 20 วินาที จากนั้นให้ทดลองอีกครั้ง
อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ไม่มีภาพจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ท่านไม่สามารถเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ได้ในโฮมเมนู
- บาง รายการ ของแหล่งสัญญาณดิจิตอลมีการสูญเสียรายละเอียด
- ใช้เวลาสักครู่ในการแสดงภาพถ่ายหรือโฟลเดอร์
- ท่านไม่สามารถค้นหาอุปกรณ์ BRAVIA Sync HDMI ที่เชื่อมต่ออยู่
- ท่านไม่สามารถปิดกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) โดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวีผ่านฟังก์ชั่น IR Blaster
- ท่านไม่สามารถควบคุม AV รีซีฟเวอร์เครื่องที่สอง
- ทีวีไม่ส่งสัญญาณภาพและ/หรือเสียงออกจากอุปกรณ์ MHL (รุ่นที่รองรับMHL เท่านั้น)
- อุปกรณ์ภายนอก (เช่น กล่องรับสัญญาณ หรือตัวรับสัญญาณ AV ) ไม่สามารถควบคุมผ่าน IR Blaster ได้ (รุ่นที่ใช้งานได้กับ IR Blaster เท่านั้น)
- ไฟล์สื่อข้อมูลบางประเภทในอุปกรณ์ USB หรือเซิร์ฟเวอร์จะไม่แสดงขึ้นมา
- ตัดการทำงาน หรืออุปกรณ์ไม่ทำงาน
- อุปกรณ์ชนิดใดที่สามารถเชื่อมต่อโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอได้?
- ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Miracast หรืออุปกรณ์ที่รองรับการสะท้อนหน้าจอ
- เสียงหรือวิดีโอถูกตัดเป็นบางครั้ง
- เนื้อหาที่ต้องชำระค่าบริการบางรายการไม่สามารถเล่นได้
ไม่มีภาพจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- เปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อสายสัญญาณระหว่างอุปกรณ์ดังกล่าวกับทีวี
- กดปุ่ม (เลือกสัญญาณเข้า) เพื่อแสดงรายการสัญญาณเข้า จากนั้นเลือกสัญญาณเข้าที่ต้องการ
- เสียบอุปกรณ์ USB ให้ถูกต้อง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ USB ดังกล่าวได้รับการฟอร์แมตอย่างถูกต้องแล้ว
- ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ USB ได้ทุกตัว นอกจากนี้ วิธีการใช้งานจะแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของอุปกรณ์ USB หรือไฟล์วิดีโอที่กำลังเล่นอยู่
- เปลี่ยนรูปแบบสัญญาณ HDMI ของสัญญาณเข้า HDMI ที่ไม่แสดงภาพเป็นรูปแบบมาตรฐาน กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [รูปแบบสัญญาณ HDMI]
ท่านไม่สามารถเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ได้ในโฮมเมนู
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อสายสัญญาณ
บาง รายการ ของแหล่งสัญญาณดิจิตอลมีการสูญเสียรายละเอียด
- ภาพที่มีรายละเอียดน้อยกว่าปกติหรือสิ่งผิดปกติ (บล็อกขนาดเล็ก, จุด หรือเม็ดพิกเซล) อาจแสดงบนหน้าจอ ทั้งนี้เกิดจากการบีบอัดสัญญาณภาพแบบดิจิตอลของเนื้อหาต้นทาง ซึ่งใช้กับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอลและในแผ่น DVD ความชัดเจนของสิ่งผิดปกติที่มองเห็นได้จะขึ้นอยู่กับความคมชัดและความละเอียดของหน้าจอทีวี
ใช้เวลาสักครู่ในการแสดงภาพถ่ายหรือโฟลเดอร์
- ทีวีอาจใช้เวลาครู่หนึ่งในการแสดงภาพถ่ายบางภาพหรือโฟลเดอร์บางโฟลเดอร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพ, ขนาดไฟล์ และจำนวนของไฟล์ในโฟลเดอร์
- ทุกครั้งที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ USB กับทีวี อาจใช้เวลาประมาณสองนาทีในการแสดงภาพ
ท่านไม่สามารถค้นหาอุปกรณ์ BRAVIA Sync HDMI ที่เชื่อมต่ออยู่
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าว่าอุปกรณ์ของท่านรองรับ BRAVIA Sync
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า [การควบคุมสำหรับ HDMI] ของอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Syncและตั้งค่า [การตั้งค่า BRAVIA Sync] — [การควบคุม BRAVIA Sync] ของทีวี
ท่านไม่สามารถปิดกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) โดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวีผ่านฟังก์ชั่น IR Blaster
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่รองรับ IR Blaster มี [การติดตั้ง IR Blaster] ใน [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า]
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [พลังงาน (ชุดกล่องสัญญาณ)] ใน [เมนู]
ท่านไม่สามารถควบคุม AV รีซีฟเวอร์เครื่องที่สอง
- สามารถใช้ได้แต่ AV รีซีฟเวอร์ที่รองรับ BRAVIA Sync ได้เพียงหนึ่งเครื่องเท่านั้น
ทีวีไม่ส่งสัญญาณภาพและ/หรือเสียงออกจากอุปกรณ์ MHL (รุ่นที่รองรับMHL เท่านั้น)
- ถอดสาย MHL จากนั้นเสียบใหม่อีกครั้ง หรือปิดอุปกรณ์ MHL จากนั้นเปิดใหม่อีกครั้งและปลดล็อกหน้าจออุปกรณ์
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์รองรับ MHL
- ตรวจสอบว่า TV รองรับ MHL
เครื่องหมาย (MHL) อยู่ถัดจากช่อง HDMI IN 1/MHL สำหรับรุ่น 2K ที่รองรับ MHL หรือช่อง HDMI IN 2/MHL สำหรับรุ่น 4K ที่รองรับ MHL
อุปกรณ์ภายนอก (เช่น กล่องรับสัญญาณ หรือตัวรับสัญญาณ AV ) ไม่สามารถควบคุมผ่าน IR Blaster ได้ (รุ่นที่ใช้งานได้กับ IR Blaster เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่รองรับ IR Blaster มี [การติดตั้ง IR Blaster] ใน [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า]
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า IR Blaster ได้อย่างถูกต้องและตัวถ่ายทอดสัญญาณ IR อยู่ใกล้กับตัวรับสัญญาณ IR ของอุปกรณ์ภายนอก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีวีของท่านรองรับอุปกรณ์ภายนอก
- หากท่านกดปุ่มบนรีโมทคอนโทรลค้างไว้ อาจไม่ทำงาน ลองกดปุ่มซ้ำ ๆ แทน
- อุปกรณ์ภายนอกบางชิ้นอาจไม่ตอบสนองต่อปุ่มบางปุ่มบน “เมนูการดำเนินงาน”
- IR Blaster อาจตั้งค่าไม่ถูกต้อง การตั้งค่า IR Blaster ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ช่องต่อเข้า] — [การติดตั้ง IR Blaster]
ไฟล์สื่อข้อมูลบางประเภทในอุปกรณ์ USB หรือเซิร์ฟเวอร์จะไม่แสดงขึ้นมา
- ไฟล์ที่เครื่องไม่รองรับจะไม่แสดงขึ้นมา
- ไฟล์/โฟลเดอร์ทั้งหมดอาจไม่แสดงขึ้นมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของระบบ
ตัดการทำงาน หรืออุปกรณ์ไม่ทำงาน
- ตรวจดูว่าอุปกรณ์เปิดอยู่หรือไม่
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ของอุปกรณ์
- ลงทะเบียนอุปกรณ์ซ้ำอีกครั้ง
- อุปกรณ์บลูทูธใช้แถบคลื่นความถี่ 2.4GHz ดังนั้น ความเร็วการสื่อสารอาจลดลงหรือถูกตัดเป็นบางครั้ง เนื่องมาจากการรบกวนของ LAN ไร้สาย
หากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (เช่น ไมโครเวฟหรืออุปกรณ์มือถือ) วางอยู่ในบริเวณใกล้เคียง อาจทำให้สัญญาณรบกวนจากคลื่นวิทยุเพิ่มมากขึ้น - ทีวีหรืออุปกรณ์บนชั้นวางโลหะอาจไม่ทำงานเนื่องจากสัญญาณรบกวนจากการสื่อสารแบบไร้สาย
- สำหรับระยะห่างในการสื่อสารระหว่างทีวีและอุปกรณ์อื่นที่สามารถใช้ได้ ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์นั้น
- เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธหลายตัวเข้ากับทีวี คุณภาพการสื่อสารบลูทูธอาจลดลง
อุปกรณ์ชนิดใดที่สามารถเชื่อมต่อโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอได้?
- อุปกรณ์ที่ใช้งาน Wi‑Fi เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่รองรับ Miracast สามารถนำมาใช้เพื่อเพลิดเพลินไปกับการสะท้อนหน้าจอบน BRAVIA TV ของคุณได้ ดูที่คู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ Wi‑Fi ของคุณ เพื่อดูว่ารองรับ Miracast หรือไม่ BRAVIA TV สามารถใช้งานร่วมกับ Miracast ได้ แต่ไม่รับรองความสำเร็จในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั้งหมด
ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Miracast หรืออุปกรณ์ที่รองรับการสะท้อนหน้าจอ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- หากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Miracast (เช่น แล็ปท็อป) ล้มเหลว ให้กดปุ่ม (เลือกสัญญาณเข้า) จากนั้นเลือ [การสะท้อนหน้าจอ] เพื่อแสดงหน้าจอพร้อมใช้งานสำหรับฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอและลองเชื่อมต่ออีกครั้ง
- หากท่านกำลังใช้งาน การสะท้อนหน้าจอ กับอุปกรณ์ตัวอื่น ให้ปิดใช้งาน การสะท้อนหน้าจอ ก่อนและลองอีกครั้ง
เสียงหรือวิดีโอถูกตัดเป็นบางครั้ง
- อุปกรณ์ที่มีการปล่อยคลื่นวิทยุ เช่น อุปกรณ์ LAN ไร้สายอื่นๆ หรือเตาไมโครเวฟ อาจรบกวนการทำงานของฟังก์ชั่น การสะท้อนหน้าจอ ที่ใช้ LAN ไร้สาย ติดตั้งทีวีหรืออุปกรณ์ Sony ที่สนับสนุนการทำงานร่วมกับฟังก์ชั่น การสะท้อนหน้าจอ (เช่น Xperia บางรุ่น) ให้ห่างจากอุปกรณ์ดังกล่าวหรือปิดอุปกรณ์ หากทำได้
- ความเร็วในการสื่อสารอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามระยะห่าง หรือสิ่งกีดขวางระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ, การกำหนดค่าอุปกรณ์, สภาวะของคลื่นวิทยุ, ความแออัดของเส้นทางการสื่อสารข้อมูล หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้งาน การสื่อสารอาจถูกตัดขาดในบางครั้งเนื่องมาจากสภาวะของคลื่นวิทยุ
เนื้อหาที่ต้องชำระค่าบริการบางรายการไม่สามารถเล่นได้
- อุปกรณ์ที่เป็นแหล่งสัญญาณต้องได้มาตรฐาน HDCP (การปกป้องเนื้อหาแบบดิจิตอลแบนด์วิธสูง) 2.0/2.1/2.2
บางเนื้อหาที่ต้องชำระค่าบริการอาจไม่แสดงขึ้นผ่านอุปกรณ์ที่เป็นแหล่งสัญญาณที่ไม่ได้มาตรฐาน HDCP 2.0/2.1/2.2
การบันทึก USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เคุณั้น)
- ท่านไม่สามารถใช้อุปกรณ์ HDD USB (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
- อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถลงทะเบียนได้ (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
- การบันทึกไม่สามารถทำได้/การบันทึกล้มเหลว (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
- เนื้อหาที่บันทึกไว้หายไป (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
- อุปกรณ์ HDD USB ทำงานแม้ว่าจะไม่ได้เปิด (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
ท่านไม่สามารถใช้อุปกรณ์ HDD USB (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า]
- ตรวจเช็คว่าอุปกรณ์ HDD USB:
- เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง
ตรวจสอบว่าเชื่อมต่อกับช่อง USB3 สีน้ำเงินแล้ว (ช่อง USB2 สำหรับรุ่น 2K) ที่มีเครื่องหมาย “HDD REC”
- เปิดอยู่
- ลงทะเบียนกับทีวีแล้ว
การลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวี กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การลงทะเบียน HDD]
- เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ HDD USB ผ่านฮับ USB
- ใช้งาน [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD] เพื่อตรวจเช็คว่าข้อมูลจำเพาะของ HDD USB ตรงตามข้อกำหนดหรือไม่
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD]
อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถลงทะเบียนได้ (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ USB HDD เชื่อมต่อกับช่อง USB3 (สีน้ำเงิน) ที่ระบุว่า “HDD REC” (สำหรับรุ่น 2K ให้ตรวจสอบว่าเชื่อมต่อกับช่อง USB2 แล้ว)
- หากอุปกรณ์ HDD USB เชื่อมต่อกับช่อง USB3 สีน้ำเงินอย่างถูกต้อง (ช่อง USB2 สำหรับรุ่น 2K) ให้ลงทะเบียนอุปกรณ์เพื่อการบันทึกอีกครั้ง เนื่องจากอุปกรณ์มีการลงทะเบียนเป็นอุปกรณ์สำหรับวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบันทึก (เช่น การเก็บข้อมูล) ไว้แล้ว
หมายเหตุ
- หากมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่กับช่อง USB1 และ USB2 ให้ถอดอุปกรณ์เหล่านี้ออกชั่วคราวในขณะที่ลงทะเบียน USB HDD
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ที่เก็บข้อมูลและการรีเซ็ต]
- จาก [ที่เก็บข้อมูลอุปกรณ์] เลือกอุปกรณ์ HDD USB ที่ท่านต้องการลงทะเบียนสำหรับการบันทึก
- เลือก [ลงทะเบียนสำหรับการบันทึก]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวี
- ใช้ [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD] เพื่อตรวจเช็คว่าข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์ HDD USB ตรงตามข้อกำหนดหรือไม่
การใช้งาน [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD] กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD]
การบันทึกไม่สามารถทำได้/การบันทึกล้มเหลว (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า]
- หากการบันทึกล้มเหลว สาเหตุจะถูกแสดงใน [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก] กดปุ่ม TITLE LIST จากนั้นเลือก [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก]
- ตรวจเช็คพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้ใน HDD หากเหลือพื้นที่น้อยมาก ให้ลบเนื้อหาที่ไม่จำเป็นออก
- รายการ ต่อไปนี้ ไม่สามารถบันทึกได้
- รายการ ที่มีการป้องกันการคัดลอก
- รายการ อนาล็อก
- รายการ จากช่องต่อเข้า (รวมถึง รายการ จากกล่องรับสัญญาณที่เชื่อมต่ออยู่)
- เนื้อหาสตรีม
- การบันทึกแบบตั้งเวลาอาจไม่สามารถทำได้หากเวลาการออกอากาศของ รายการ มีการเปลี่ยนแปลง
เนื้อหาที่บันทึกไว้หายไป (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
- การบันทึกจะไม่สามารถทำได้หากสายไฟ AC (สายหลัก) หรือสายสัญญาณเชื่อมต่อถูกถอดขณะบันทึก ห้ามถอดสายใดๆ ขณะทำการบันทึกเนื้อหา มิฉะนั้น เนื้อหาที่กำลังบันทึกหรือเนื้อหาที่บันทึกไว้ทั้งหมดอาจสูญหายได้
อุปกรณ์ HDD USB ทำงานแม้ว่าจะไม่ได้เปิด (รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB เท่านั้น)
- HDD USB ที่เชื่อมต่ออยู่อาจหมุนหรือไฟ LED ของอุปกรณ์อาจสว่างขึ้นขณะทีวีได้รับข้อมูล EPG ระหว่างที่อยู่ในโหมดพร้อมใช้งาน
LED
- ไฟ LED ส่องสว่างสว่างขึ้นในบางครั้ง
- ท่านต้องการปิดใช้งานไฟ LED ส่องสว่างเพื่อไม่ให้ไฟสว่างขึ้นหรือกะพริบ
ไฟ LED ส่องสว่างสว่างขึ้นในบางครั้ง
ไฟ LED ส่องสว่างจะสว่างขึ้นในเวลาต่างๆ เช่น ในระหว่างการอัพเดทซอฟต์แวร์ หรือการบันทึกทีวี
ให้ดู วิธีที่ทำให้ไฟ illumination LED สว่างขึ้น สำหรับรายละเอียด
ท่านต้องการปิดใช้งานไฟ LED ส่องสว่างเพื่อไม่ให้ไฟสว่างขึ้นหรือกะพริบ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถปิดได้ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ไฟ LED ส่องสว่าง] — [ปิด]
หมายเหตุ
- เราแนะนำให้ท่านไม่เปลี่ยนการตั้งค่านี้ในสถานการณ์ปกติ เนื่องจากท่านจะไม่สามารถบอกได้ว่าทีวีกำลัง บันทึก, เปิดหรือปิด หรือตั้งเวลาไว้หรือไม่
ดัชนี
รายการ ทีวี
|
|
รูปภาพ/จอแสดงผล
|
|
เสียง/เสียงพูด
|
|
รีโมทคอนโทรล
|
|
การเชื่อมต่อ
|
|
อุปกรณ์ภายนอก
|
|
แอพพลิเคชั่น
|
|
การเล่นไฟล์
|
|
อื่นๆ
|
|