การเริ่มต้นใช้งาน
- การใช้คู่มือช่วยเหลือ
- การใช้รีโมทคอนโทรล
- ค้นหาด้วยเสียง
- การทำให้ทีวีอัพเดทอยู่เสมอ
- การแนะนำ Android TV™
- การทำงานพื้นฐาน
- คุณสมบัติการเข้าถึง
- เว็บไซต์ช่วยเหลือ
การใช้คู่มือช่วยเหลือ
คู่มือช่วยเหลือนี้อธิบายวิธีการใช้งานทีวีเครื่องนี้ ท่านยังสามารถดู คู่มือการตั้งค่า สำหรับคำอธิบายเกี่ยวกับการติดตั้งทีวี และ คู่มืออ้างอิง สำหรับคำอธิบาย ข้อมูลจำเพาะของชิ้นส่วน และตัวยึดผนังของทีวีเครื่องนี้ได้
ในคู่มือช่วยเหลือนี้ ท่านสามารถอ่านข้อมูลที่ต้องการตามลำดับหรือค้นหาข้อมูลโดยตรงได้ ในการค้นหา เลือก ที่ด้านบนของหน้าจอ
แบบคู่มือช่วยเหลือ
มีคู่มือช่วยเหลือสำหรับทีวีของท่านสองแบบ: คู่มือช่วยเหลือในเครื่องและคู่มือช่วยเหลือออนไลน์ ในการดูคู่มือช่วยเหลือออนไลน์ ทีวีของท่านต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ในการเปลี่ยนระหว่างแบบในเครื่องกับแบบออนไลน์ ใช้ปุ่มเปลี่ยน (A) ที่ด้านบนของหน้าจอ ท่านสามารถตรวจสอบว่ากำลังแสดงคู่มือช่วยเหลือแบบใดได้โดยการดูชื่อที่ด้านบนของหน้าจอ
- เชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต
- เลือก (A) เพื่อเปลี่ยนแบบคู่มือช่วยเหลือ
หมายเหตุ
- เพื่อใช้งานคุณสมบัติล่าสุดที่อธิบายไว้ในคู่มือช่วยเหลือ ท่านอาจจำเป็นต้อง ปรับปรุงซอฟต์แวร์ของ TV สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงซอฟต์แวร์ โปรดดูที่หน้า การปรับปรุงซอฟต์แวร์
- ชื่อของการตั้งค่าใน Help Guide อาจแตกต่างจากที่แสดงในทีวีขึ้นอยู่กับวันที่วางจำหน่ายทีวีหรือรุ่น/ประเทศ/ภูมิภาคของคุณ
- ภาพและภาพประกอบที่ใช้ในคู่มือช่วยเหลืออาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นทีวีของท่าน
- การออกแบบและข้อมูลจำเพาะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
คำแนะนำ
- หากต้องการตรวจสอบว่าทีวีของท่านมีหนึ่งในฟังก์ชั่นที่อธิบายไว้ในคู่มือช่วยเหลือหรือไม่ ให้ดูคู่มือการใช้งานหรือแค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์ Sony
- คู่มือช่วยเหลือนี้ถูกเขียนขึ้นสำหรับทุกท้องที่/ประเทศ คำอธิบายบางส่วนในคู่มือช่วยเหลือนี้ไม่สามารถใช้ได้ในบางท้องที่และประเทศ
การใช้รีโมทคอนโทรล
ท่านสามารถใช้งานคุณสมบัติของทีวีหลายรายการได้โดยใช้ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) / (ซ้าย) / (ขวา) และ (Enter)
รูปทรงและปุ่มของรีโมทคอนโทรลจะแตกต่างกันไปตามรุ่น/ประเทศ/ภูมิภาคของคุณ
รีโมทคอนโทรลที่มีอยู่จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรุ่นของท่าน สำหรับคำอธิบายของปุ่มต่าง ๆ ของรีโมทคอนโทรล ให้ดูที่ คู่มืออ้างอิง
- ใช้ปุ่ม (ขึ้น), (ลง), (ซ้าย) และ (ขวา) เพื่อ “เน้น” รายการที่ต้องการ
- กดที่กึ่งกลางของปุ่ม (Enter) เพื่อเลือกรายการที่กำลังเน้นอยู่ในปัจจุบัน
การกลับไปยังหน้าจอก่อนหน้านี้
กดปุ่ม BACK
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลอื่นๆ โปรดดูหัวข้อที่เกี่ยวข้องด้านล่าง หรือ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
ค้นหาด้วยเสียง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รีโมทคอนโทรลที่รองรับการค้นหาด้วยเสียงจะมีปุ่ม (ไมโครโฟน) และไมโครโฟนในตัว ท่านสามารถค้นหาเนื้อหาต่าง ๆ ได้ด้วยการพูดลงในไมโครโฟน
- กดปุ่ม (ไมโครโฟน)
ไฟ LED บนรีโมทคอนโทรลจะสว่างขึ้น - พูดลงในไมโครโฟน
อาจมีตัวอย่างคำพูดแสดงบนหน้าจอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น
เมื่อท่านไม่สามารถค้นหาโดยใช้เสียงของท่าน
ลงทะเบียนรีโมทสั่งงานด้วยเสียงที่มีปุ่ม (ไมโครโฟน) ไปยังทีวีอีกครั้งโดยการกดปุ่ม HOME และเลือก [การตั้งค่า] — [รีโมตและอุปกรณ์เสริม] — [รีโมทคอนโทรล]
หมายเหตุ
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจำเป็นสำหรับการใช้งานการค้นหาด้วยเสียง
- ชนิดของรีโมทคอนโทรลที่ให้มาพร้อมกับทีวีจะแตกต่างกันไป และรีโมทคอนโทรลแบบมีไมโครโฟนในเครื่องจะมีในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ รีโมทคอนโทรลเสริมสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ภูมิภาค/ประเทศ
การทำให้ทีวีอัพเดทอยู่เสมอ
ทีวีจะรับข้อมูลอย่างเช่น คู่มือ ผังรายการ หรือซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดมา (เมื่อเปิดใช้งาน [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ] เอาไว้) ขณะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย เพื่อให้ทีวีของท่านได้รับการอัพเดท เราแนะนำให้ท่านปิดทีวีตามปกติโดยใช้ปุ่มเปิดปิดบนรีโมทคอนโทรลหรือทีวี
การแนะนำ Android TV™
- การแสดงภาพในหน้าจอขนาดเล็ก
- การติดตั้งแอปจาก Google Play Store
- การย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
- การดูสื่ออินเตอร์เน็ต
- การเพลิดเพลินไปกับแอพพลิเคชั่นและบริการวิดีโอสตรีมที่ปลอดภัย (ความปลอดภัยและข้อจำกัด)
การแสดงภาพในหน้าจอขนาดเล็ก
ท่านสามารถแสดงภาพที่ท่านกำลังรับชม (รายการ ทีวี หรือเนื้อหาจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ HDMI) เป็นหน้าจอขนาดเล็กที่มุมหนึ่งได้
ตำแหน่งของหน้าจอขนาดเล็กจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ TV ของท่าน
การแสดงภาพเป็นหน้าจอขนาดเล็ก
- กดปุ่ม ACTION MENU ขณะรับชมรายการทีวีหรือเนื้อหาจากอุปกรณ์ HDMI จากนั้นเลือก [การแสดงผลหลายแหล่งพร้อมกัน]
ภาพปัจจุบันจะแสดงเป็นหน้าจอขนาดเล็กที่มุมหนึ่ง
หมายเหตุ
- หน้าจอขนาดเล็กจะแสดงที่ด้านบนของแอพพลิเคชั่นล่าสุดที่ใช้ อย่างไรก็ตาม แอพพลิเคชั่นที่แสดงอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับสภาวะบางประการ
- การทำงานต่างๆ เช่น การเปลี่ยนช่อง จะถูกปิดใช้งานในขณะที่รับชมด้วยหน้าจอขนาดเล็ก
- รายการ ทีวี, ช่องต่อเข้า เช่น อุปกรณ์ HDMI , แอพพลิเคชั่นที่เล่นภาพยนตร์ หรือบางแอพพลิเคชั่นที่เล่นภาพหรือเพลง ไม่สามารถแสดงพร้อมกันได้
- ตำแหน่งของหน้าจอขนาดเล็กจะถูกปรับโดยอัตโนมัติ ท่านไม่สามารถตั้งค่าด้วยตนเองได้
การปิดหน้าจอขนาดเล็กหรือการกลับไปแสดงแบบเต็มจอ
- กดปุ่ม HOME เพื่อแสดงโฮมเมนู
ข้อความสำหรับหน้าจอขนาดเล็กจะปรากฏที่ด้านบนของหน้าจอ - ในข้อความการแสดงผลหน้าจอขนาดเล็ก ให้เลือก [เปิด]
- ใช้ปุ่มใต้หน้าจอขนาดเล็กเพื่อปิดหน้าจอขนาดเล็กหรือกลับไปที่แบบเต็มหน้าจอ
ภาพด้่านล่างเป็นเพียงภาพตัวแทนและอาจแตกต่างจากหน้าจอจริง
การติดตั้งแอปจาก Google Play Store
ท่านสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นจาก Google Play Store มายังทีวี เช่นเดียวกับในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้
หมายเหตุ
- ท่านสามารถติดตั้งแอปได้เฉพาะที่รองรับกับ TV เท่านั้น ซึ่งอาจแตกต่างจากแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต
- ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและบัญชี Google ในการติดตั้งแอพพลิเคชั่นจาก Google Play Store
คำแนะนำ
- หากท่านไม่มีบัญชี Google หรือต้องการสร้างบัญชีร่วม ให้สร้างบัญชีใหม่โดยการเข้าถึงเว็บไซต์ต่อไปนี้
https://accounts.google.com/signup https://accounts.google.com/signup
เว็บไซต์ข้างต้นอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน นอกจากนี้ยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ สำหรับรายละเอียด ให้ดูที่โฮมเพจ Google - เราแนะนำให้ท่านสร้างบัญชี Google บนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือ
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู จากนั้นเลือก Google Play Store จากรายการแอป
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS คุณสามารถกดปุ่ม APPS เพื่อให้แสดงรายการแอปได้ - เลือกแอปที่จะติดตั้ง
หลังจากการดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่นจะติดตั้งและเพิ่มโดยอัตโนมัติ ไอคอนของแอพพลิเคชั่นจะปรากฏในรายการแอพที่ติดตั้งแล้ว ทำให้ท่านสามารถเข้าใช้งานได้
เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นที่ต้องเสียเงิน
Google Play Store มีทั้งแอพพลิเคชั่นฟรีและแอพพลิเคชั่นที่ต้องเสียเงิน การซื้อแอพพลิเคชั่นที่ต้องเสียเงิน จำเป็นต้องใช้รหัสบัตรของขวัญ Google Play หรือข้อมูลบัตรเครดิต ท่านสามารถซื้อบัตรของขวัญ Google Play ได้จากผู้ค้าปลีกต่างๆ
การลบแอพพลิเคชั่น
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู เลือก Google Play Store จากรายการแอป แล้วเลือก แอปของฉัน
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS คุณสามารถกดปุ่ม APPS เพื่อให้แสดงรายการแอปได้ - เลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการลบ และจากนั้นถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่น
การย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถย้ายแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดมาไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เพื่อเพิ่มพื้นที่ที่สามารถใช้งานในทีวีได้
หมายเหตุ
- เมื่อท่านฟอร์แมตอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกไว้ในอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB จะถูกลบออก สำรองข้อมูลที่สำคัญของท่านก่อนการฟอร์แมต
- การดำเนินการตามขั้นตอนนี้จะฟอร์แมตอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เพื่อการใช้งานกับทีวีโดยเฉพาะ ดังนั้น ท่านอาจไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB กับคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ได้
- บางแอพพลิเคชั่นไม่สามารถย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ได้
- เชื่อมต่ออุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เข้ากับทีวี
- กดปุ่ม HOME เลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [ที่เก็บข้อมูล] — อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่ต้องการ
- ฟอร์แมตเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายใน
- เมื่อสิ้นสุดการฟอร์แมต กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [แอป]
- เลือกแอพพลิเคชั่นที่ท่านต้องการย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
- เลือกอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB จากการเก็บข้อมูลที่ใช้ แอพพลิเคชั่นจะถูกย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
คำแนะนำ
- ทำตามขั้นตอนที่ 4 ถึง 6 อีกครั้งเพื่อย้ายแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
การนำอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ออก
- กดปุ่ม HOME button, select [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [ที่เก็บข้อมูล] — อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่ต้องการ จากนั้นเลือกตัวเลือกเพื่อนำออก
หมายเหตุ
- อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ใช้สำหรับการบันทึกแอพพลิเคชั่นเท่านั้น การใช้งานอุปกรณ์้เก็บข้อมูล USB เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ท่านต้องฟอร์แมตอุปกรณ์อีกครั้ง
- หากท่านลบแอพพลิเคชั่นในอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB โดยใช้คอมพิวเตอร์ ท่านจะไม่สามารถเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นจากทีวีได้
- หากท่านนำอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ออกจากทีวี ท่านจะไม่สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ถูกย้ายไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ได้
- ท่านไม่สามารถกำหนดให้อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เป็นตำแหน่งติดตั้งของแอพพลิเคชั่นได้ ติดตั้งแอพพลิเคชั่นบนทีวีตามปกติก่อน จากนั้นจึงย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
การดูสื่ออินเตอร์เน็ต
ท่านสามารถใช้บริการวิดีโอสตรีม เช่น YouTube™ และ Netflix เพื่อดูเนื้อหาในอินเตอร์เน็ตได้ บริการที่สามารถใช้งานได้จะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับประเทศและท้องที่ของท่าน ท่านสามารถใช้บริการเหล่านี้ได้โดยการเลือกสัญลักษณ์ของบริการเหล่านี้ในโฮมเมนู
หมายเหตุ
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจำเป็นสำหรับการดูเนื้อหาในอินเตอร์เน็ต
การเพลิดเพลินไปกับแอพพลิเคชั่นและบริการวิดีโอสตรีมที่ปลอดภัย (ความปลอดภัยและข้อจำกัด)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถแน่ใจในการใช้งานที่ปลอดภัยของทีวีได้โดยการตั้งค่าการจำกัดการติดตั้งบนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ดาวน์โหลดมาจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก หรือการจำกัดอายุบน รายการ และวิดีโอ
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — จากนั้นเลือกตัวเลือกต่างๆ เช่น [ความปลอดภัยและข้อจำกัด] หรือ [การรับชมทีวี] — [การควบคุมโดยผู้ปกครอง]
หมายเหตุ
- หากท่านเปลี่ยนการตั้งค่า [ความปลอดภัยและข้อจำกัด] อุปกรณ์และข้อมูลส่วนตัวของท่านจะเสี่ยงต่อการโจมตีโดย แอพพลิเคชั่นที่ไม่รู้จักจากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ Play Storeมากยิ่งขึ้น ท่านยินยอมที่จะรับผิดชอบแต่ผู้เดียวหากเกิดความเสียหายกับอุปกรณ์หรือการสูญหายของข้อมูลของท่านอันอาจเป็นผลมาจากการใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้
คำแนะนำ
- อาจสามารถใช้การจำกัดแยกอื่นๆ ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูที่ช่วยเหลือของแอปนั้น
การทำงานพื้นฐาน
- โฮมเมนู
- การใช้ แถบเมนูทีวี คุณสมบัตินี้ใช้ได้สำหรับทีวีที่รีโมทคอนโทรลที่ให้มาไม่มีปุ่ม DISCOVER
- การใช้ “แถบเนื้อหา” (DISCOVER) คุณสมบัตินี้สามารถใช้งานได้สำหรับทีวีที่ซึ่งรีโมทคอนโทรลที่ให้มามีปุ่ม DISCOVER
- การใช้ เมนูการดำเนินงาน
- การเลือกสัญญาณเข้า
- วิธีที่ทำให้ไฟ illumination LED สว่างขึ้น
โฮมเมนู
หน้าจอที่แสดงเมื่อคุณกดปุ่ม HOME บนรีโมทคอนโทรลเรียกว่าโฮมเมนู จากโฮมเมนู ท่านสามารถค้นหาเนื้อหาและเลือกเนื้อหา แอปและการตั้งค่าที่แนะนำ
การค้นหา การแจ้งเตือน ช่องสัญญาณเข้า ตัวตั้งเวลา และการตั้งค่า (A)
แอป (B)
แสดงแอป โปรด ของท่าน
- หากท่านเลือก [แอป] รายการแอปที่ติดตั้งไว้จะปรากฏขึ้น
- เลือก [เพิ่มแอปไปยังรายการโปรด] เพื่อเพิ่มแอปลงใน รายการโปรด
- หากท่านเลือกแอปที่เพิ่มเข้ามาแล้วกดปุ่ม (Enter) ค้างไว้บนรีโมทคอนโทรล ท่านจะสามารถเปลี่ยนลำดับการจัดเรียงหรือลบรายการโปรดได้
- หากเลือกแอปทีวีคุณสามารถรับชมรายการทีวีหรือป้อนข้อมูลได้
เล่นต่อ (C)
แสดงสิ่งที่คุณสามารถดูต่อไปได้ขึ้นอยู่กับเนื้อหา
หมายเหตุ
- หากไม่มีเนื้อหาที่สามารถใช้งานได้ ระบบจะไม่แสดง [เล่นต่อ]
ช่อง (D)
แถวด้านล่าง แอป (B) เรียกว่า “ช่อง” ที่นี่คุณสามารถรับชมเนื้อหาที่แนะนำจากบริการวิดิโอสตรีมมิ่งได้
คำแนะนำ
- ประวัติของช่องล่าสุดที่รับชับจะแสดงอยู่ใน [ทีวี]
- คุณสามารถเพิ่มเนื้อหาลงใน เล่นต่อ โดยเลือกเนื้อหาบนช่องใดก็ได้และกดปุ่ม (Enter) บนรีโมทคอนโทรลค้างไว้
- คุณสามารถย้ายบางช่องได้ใน “ช่อง (D)” ซึ่งอยู่ในโฮมเมนู ใช้ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) เพื่อเลื่อนโฟกัสไปยังไอคอนรูปวงกลมของแถวที่ท่านต้องการย้าย และกดปุ่ม (ซ้าย) (หรือปุ่ม (ขวา) ขึ้นอยู่กับภาษาที่ใช้แสดงผลของทีวี) เพื่อให้สามารถเลื่อนแถวขึ้นหรือลงได้โดยกดปุ่ม (ขึ้น) / (ลง)
กำหนดค่าช่อง (E)
[กำหนดค่าช่อง] ใช้เพื่อแสดงหรือซ่อนเนื้อหาในช่อง
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลอื่นๆ ให้ดูที่ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
การใช้ แถบเมนูทีวี
คุณสมบัตินี้ใช้ได้สำหรับทีวีที่รีโมทคอนโทรลที่ให้มาไม่มีปุ่ม DISCOVER
กดปุ่ม TV ขณะดูการออกอากาศทางทีวีเพื่อแสดง แถบเมนูทีวี แถบเมนูทีวี ช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึง ช่องรายการโปรด ของท่านและแสดง เมนูทีวี ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงรายชื่อช่อง รายการชื่อที่บันทึกไว้ หรือรายการตั้งเวลาได้
- กดปุ่ม TV ขณะดูการออกอากาศทางทีวี
“แถบเมนูทีวี” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ - เลือกโฟกัสขึ้นหรือลงเพื่อเลือกประเภทที่ต้องการ
- เลื่อนโฟกัสไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเลือกรายการที่ต้องการ
- กดปุ่ม (Enter) เพื่อเปิดรายการที่เลือกไว้
การเพิ่มช่องไปยัง ช่องโปรด
- กดปุ่ม TV ขณะดูการออกอากาศทางทีวี
“แถบเมนูทีวี” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ - เลื่อนโฟกัสลงเพื่อเลือก [เพิ่มช่องไปยังรายการโปรด]
- เลือก [รายการโปรด] ที่คุณต้องการเพิ่มช่องรายการ โปรด
คำแนะนำ
- หากคุณเลือก [เพิ่มเข้ารายการโปรด]จาก [เมนูการดำเนินงาน], คุณสามารถเพิ่มช่องที่คุณกำลังดูไปที่ [ช่องรายการโปรด]
การเปลี่ยนการตั้งค่าของฟังก์ชั่นนี้
- กดปุ่ม TV ขณะดูการออกอากาศทางทีวี
“แถบเมนูทีวี” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ - เลื่อนโฟกัสไปยังประเภท [การตั้งค่า]
- เลือกรายการที่ต้องการเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่า
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [แสดง/ซ่อนหมวดหมู่]
- เลือกประเภทเนื้อหาที่จะแสดงใน แถบเมนูทีวี ท่านไม่สามารถซ่อน [การตั้งค่า]
ท่านสามารถซ่อน [ได้รับความนิยมสูงสุด] ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นทีวีของท่าน - [เรียงลำดับหมวดหมู่ใหม่]
- เลือกประเภทเนื้อหาเพื่อจัดลำดับใหม่
- [เพิ่มหมวดหมู่ตามประเภท]
- เพิ่มหมวดเพื่อสร้างประเภทเนื้อหาของท่านเอง
- [เพิ่มหมวดหมู่ตามคำสำคัญ]
- เพิ่มคำสำคัญเพื่อสร้างประเภทเนื้อหาของท่านเอง
- [ขนาดการแสดงผล]
- เลือกขนาดการแสดงของเมนู
หมายเหตุ
- บางตัวเลือกอาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศของท่าน
การใช้ “แถบเนื้อหา” (DISCOVER)
คุณสมบัตินี้สามารถใช้งานได้สำหรับทีวีที่ซึ่งรีโมทคอนโทรลที่ให้มามีปุ่ม DISCOVER
ท่านสามารถใช้ “แถบเนื้อหา” เพื่อค้นหาเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น รายการทีวี และวิดีโอบนอินเตอร์เน็ต เนื้อหาที่แสดงใน “แถบเนื้อหา” จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
- กดปุ่ม DISCOVER
“แถบเนื้อหา” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ - เลือกโฟกัสขึ้นหรือลงเพื่อเลือกประเภทที่ต้องการ
- เลื่อนโฟกัสไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเลือกรายการที่ต้องการ
- กดปุ่ม (Enter) เพื่อเปิดรายการที่เลือกไว้
การเปลี่ยนการตั้งค่าของฟังก์ชั่นนี้
- กดปุ่ม DISCOVER
“แถบเนื้อหา” จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ - เลื่อนโฟกัสลงไปยังประเภท [การตั้งค่า]
- เลือกรายการที่ต้องการเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่า
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [แสดง/ซ่อนหมวดหมู่]
- เลือกประเภทเนื้อหาที่จะแสดงใน DISCOVER ท่านไม่สามารถซ่อน [การตั้งค่า]
ท่านสามารถซ่อน [ได้รับความนิยมสูงสุด] ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นทีวีของท่าน - [เรียงลำดับหมวดหมู่ใหม่]
- เลือกประเภทเนื้อหาเพื่อจัดลำดับใหม่
- [เพิ่มช่องไปยังรายการโปรด]
- เพิ่ม ช่องโปรด ของท่านไปยัง DISCOVER
- [เพิ่มหมวดหมู่ตามประเภท]
- เพิ่มหมวดเพื่อสร้างประเภทเนื้อหาของท่านเอง
- [เพิ่มหมวดหมู่ตามคำสำคัญ]
- เพิ่มคำสำคัญเพื่อสร้างประเภทเนื้อหาของท่านเอง
- [ขนาดการแสดงผล]
- เลือกขนาดการแสดงของเมนู
หมายเหตุ
- บางตัวเลือกอาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศของท่าน
การใช้ เมนูการดำเนินงาน
ด้วยการกดปุ่ม ACTION MENU เมนูจะปรากฏขึ้นและท่านจะสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบันที่แสดงอยู่บนหน้าจอ เช่น การปรับภาพ, การปรับเสียง, การปรับระดับเสียงสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ (เช่น หูฟัง) และการตั้งค่าการแสดงผล/เสียง รายการต่างๆ ในเมนูจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหน้าจอที่เลือกไว้
- กดปุ่ม ACTION MENU
- เลื่อนโฟกัสไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเลือกประเภทที่ต้องการ
- เลือกโฟกัสขึ้นหรือลงเพื่อเลือกรายการที่ต้องการ
- กดปุ่ม (Enter) เพื่อเปิดรายการที่เลือกไว้
การเลือกสัญญาณเข้า
หากต้องการใช้อุปกรณ์ต่างๆ (เช่น เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD) ที่เชื่อมต่อกับทีวี หรือดูทีวีหลังจากใช้งานอุปกรณ์แล้ว ท่านจะต้องสลับช่องสัญญาณเข้า
- กดปุ่ม (เลือกอินพุต) ซ้ำๆ เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
คำแนะนำ
- ท่านสามารถเปลี่ยนเป็นการออกอากาศทางทีวีได้โดยการกดปุ่ม TV บนรีโมทคอนโทรล
การเปลี่ยนจากโฮมเมนู
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือกแหล่งสัญญาณเข้าจาก [อินพุต]
วิธีที่ทำให้ไฟ illumination LED สว่างขึ้น
สีบาง สี จะปรากฏที่กึ่งกลางด้าน ล่าง ของทีวีเพื่อระบุกิจกรรมหรือสถานะที่แน่ชัด
สีขาว “สว่าง” หรือ “กะพริบ” |
|
สีฟ้าเขียว “กะพริบ” |
|
สีอำพัน “สว่าง” |
|
สีชมพู “สว่าง” |
|
คุณสมบัติการเข้าถึง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
TV เครื่องนี้มีคุณสมบัติในด้าน [การเข้าถึง] ฟังก์ชันแปลงข้อความเป็นเสียงพูดสำหรับข้อความบนหน้าจอ การซูมเพื่อให้สามารถอ่านข้อความได้ง่ายขึ้น และคำบรรยายใต้ภาพ
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [การเข้าถึง] เพื่อกำหนดค่าคุณสมบัติอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้
[การเข้าถึง] มีฟังก์ชั่นทางลัดเพื่อให้ท่านสามารถเปิดหรือปิดได้โดยการกดปุ่ม (ปิดเสียง) บนรีโมทคอนโทรลค้างไว้เป็นเวลา 3 วินาที
คำแนะนำ
- การเปลี่ยนฟังก์ชั่นทางลัด ให้เปิดใช้ [ทางลัดสำหรับการเข้าถึง] ใน [การเข้าถึง] และเปลี่ยนโดยใช้ [บริการทางลัด]
- การใช้การแปลงข้อความเป็นเสียงพูดตามคู่มือช่วยเหลือ ให้ดูคู่มือช่วยเหลือในเว็บไซต์ช่วยเหลือ Sony โดยใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน
http://www.sony-asia.com/support/
http://www.sony-asia.com/support/
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
สำหรับข้อมูลล่าสุดและคู่มือช่วยเหลือออนไลน์ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ช่วยเหลือ Sony :
http://www.sony-asia.com/support/
http://www.sony-asia.com/support/
การรับชมทีวี
- การรับชมรายการ ทีวี
- การรับชมในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
การรับชมรายการ ทีวี
- การใช้ผัง รายการ
- การปรับการตั้งค่าช่อง
- การใช้บริการทีวีที่ออกอากาศแบบอินเตอร์แอคทีฟ
- การทำความเข้าใจไอคอนต่างๆ บนแถบข้อมูล
การใช้ผัง รายการ
ท่านสามารถค้นหารายการที่ชื่นชอบของท่านได้อย่างรวดเร็ว
- กดปุ่ม GUIDE เพื่อแสดง ผังรายการ แบบดิจิตอล
- เลือก รายการ ที่จะรับชม
รายละเอียดของ รายการ จะปรากฏขึ้น - เลือก [รับชม] เพื่อรับชม รายการ
การเปลี่ยน ผัง รายการ
ท่านสามารถเปลี่ยน ผัง รายการเป็น [การเลือกของทีวี] หรือ [Guide ประเภท] ได้ บางตัวเลือกอาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศของท่าน นอกจากนี้คุณสามารถสลับไปยังคู่มือ ผังรายการ เพื่อดู [รายชื่อที่บันทึกไว้] (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น) หรือ [รายการตั้งเวลา] ได้
- เลื่อนโฟกัสไปยังรายการซ้ายสุด จากนั้นเลื่อนไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อเปิดเมนู
- เลือกผังรายการหรือ รายการ ที่ต้องการ
การใช้ฟังก์ชั่นเสริม
- ขณะที่ ผังรายการ แสดงอยู่ กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือกรายการที่ต้องการ
การปรับการตั้งค่าช่อง
- การรับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอล
- การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
การรับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอล
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [ดิจิตอลจูนนิ่ง] — [ปรับช่องอัตโนมัติแบบดิจิตอล]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อปรับจูนช่องดิจิตอลทั้งหมดที่มีและจัดเก็บการตั้งค่าไว้ในทีวี
การเปลี่ยนช่วงการปรับจูน
เลือก [ปกติ] หรือ [เต็ม] ใน [ช่วงการปรับช่องอัตโนมัติ]
- [ปกติ]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ภายในท้องที่/ประเทศของท่าน
- [เต็ม]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ไม่ว่าจะเป็นท้องที่/ประเทศใด
คำแนะนำ
- ท่านสามารถปรับจูนทีวีใหม่ได้โดยการเรียกใช้ [ปรับช่องอัตโนมัติแบบดิจิตอล] หลังจากย้ายไปยังที่พักอาศัยใหม่ เปลี่ยนผู้ให้บริการ หรือเพื่อค้นหาช่องที่เพิ่งเปิดใหม่
การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถแยกประเภทการแสดงช่องตามลำดับที่ท่านต้องการได้
สำหรับช่องสัญญาณดิจิตอล
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [ดิจิตอลจูนนิ่ง] — [ปรับรายการโปรแกรม]
- เลือก รายการ ที่ท่านต้องการย้ายไปยังตำแหน่งใหม่
- เลือกตำแหน่งใหม่ที่ต้องการย้ายรายการที่เลือกไว้
สำหรับ ช่องสัญญาณ อนาล็อก
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [เรียงลำดับช่อง]
- เลือก รายการ ที่ท่านต้องการย้ายไปยังตำแหน่งใหม่
- เลือกตำแหน่งใหม่ที่ต้องการย้ายรายการที่เลือกไว้
หมายเหตุ
- ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้อาจแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน
การใช้บริการทีวีที่ออกอากาศแบบอินเตอร์แอคทีฟ
การแสดงข้อมูลตัวอักษร
ท่านสามารถดูข้อมูลตัวอักษรและข้อมูลภาพกราฟฟิกที่เป็นตัวอักษร ซึ่งรวมไปถึงข่าวในประเทศ, ข้อมูลสภาพอากาศ และผังรายการทีวี ท่านสามารถค้นดูข้อมูลที่ท่านสนใจ และเลือกข้อมูลที่ท่านต้ิองการแสดงโดยการใส่หมายเลข
- กดปุ่ม (ข้อความ) เพื่อแสดงข้อมูลตัวอักษร
ข้อมูลเกี่ยวกับบริการข้อมูลตัวอักษรดิจิตอล
บริการข้อมูลตัวอักษรดิจิตอลนำเสนอเนื้อหาที่ประกอบไปด้วยภาพกราฟฟิกและภาพถ่ายอย่างเรียบเนียน มีคุณสมบัติหลายรายการที่สามารถใช้งานได้ เช่น การเชื่อมโยงหน้าและการนำทางที่ใช้งานง่าย บริการนี้มีให้บริการโดยสถานีออกอากาศจำนวนมาก (คุณสมบัตินี้จะสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ)
ข้อมูลเกี่ยวกับบริการอินเตอร์แอคทีฟแอพพลิเคชั่นแบบดิจิตอล
บริการอินเตอร์แอคทีฟแอพพลิเคชั่นนำเสนอข้อความและภาพกราฟฟิกดิจิตอลคุณภาพสูง พร้อมทั้งตัวเลือกขั้นสูงต่างๆ บริการนี้มีให้บริการโดยสถานีออกอากาศหลายราย (คุณสมบัตินี้จะสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ)
หมายเหตุ
- บริการแบบอินเตอร์แอคทีฟจะสามารถใช้งานได้หากมีให้บริการจากสถานีออกอากาศ
- ฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้และเนื้อหาบนหน้าจอจะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับสถานีออกอากาศ
- หากเลือกคำบรรยายใต้ภาพและท่านเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นข้อมูลตัวอักษรดิจิตอลผ่านปุ่ม (ข้อความ) คำบรรยายใต้ภาพอาจหยุดแสดงในบางสถานการณ์ เมื่อท่านออกจากแอพพลิเคชั่นข้อมูลตัวอักษรดิจิตอล หน้าจอคำบรรยายใต้ภาพจะแสดงขึ้นอีกครั้งโดยอัตโนมัติ
การทำความเข้าใจไอคอนต่างๆ บนแถบข้อมูล
เมื่อเปลี่ยนช่อง แถบข้อมูลจะปรากฏขึ้นเป็นระยะเวลาสั้นๆ ไอคอนต่อไปนี้อาจปรากฏขึ้นในแถบข้อมูล
การรับชมในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- การทำความเข้าใจพื้นฐานของทีวี 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- การเตรียมแว่นตาสามมิติของท่าน (รุ่น 3D เท่านั้น)
- การรับชมทีวีในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
การทำความเข้าใจพื้นฐานของทีวี 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง]
ระยะในการรับชมภาพ 3D ที่แนะนำ
หากระยะห่างในการรับชมภาพไม่เหมาะสม ภาพอาจปรากฏเป็นภาพซ้อน นั่งห่างจากทีวีอย่างน้อย 3 เท่าของความสูงของหน้าจอ เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด เราแนะนำให้ท่านนั่งที่ด้านหน้าของทีวีโดยตรง
คำแนะนำ
- แว่นตาสามมิติมีสองแบบ: พาสซีฟและแอคทีฟ ให้ดูข้อมูลจำเพาะใน คู่มืออ้างอิง เพื่อดูว่าทีวีเครื่องนี้รองรับแว่นตาสามมิติแบบใด
ช่วงการรับส่งสัญญาณระหว่างทีวี และ แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟจะสื่อสารกับทีวีเพื่อแสดงภาพในรูปแบบสามมิติ
ตำแหน่งการรับชมที่เหมาะสมของท่านควรจะอยู่ภายในระยะที่เหมาะสม โปรดดูแผนภาพต่อไปนี้ ระยะห่างในการทำงานจะขึ้นอยู่กับสิ่งกีดขวาง (บุคคล, โลหะ, กำแพง ฯลฯ) และ/หรือการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า
- มุมมองด้านบน
- 120°
- 1-6 ม. (3-20 ฟุต)
- มุมมองด้านข้าง
- 45°
- 1-6 ม. (3-20 ฟุต)
- 30°
หมายเหตุ
- องศาในการรับชมและระยะห่างที่แนะนำอาจแตกต่างไปจากนี้โดยขึ้นอยู่กับตำแหน่งของทีวีและสภาพภายในห้อง
การดูแลรักษาแว่นตาของท่าน
- ใช้ผ้านุ่มเช็ดแว่นตาเบาๆ
- อาจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นที่เจือจางด้วยสบู่ชนิดอ่อนบิดหมาดๆ เช็ดรอยเปื้อนที่ติดแน่น
- หากใช้ผ้าชุบสารเคมี โปรดแน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ไว้บนบรรจุภัณฑ์
- ห้ามใช้สารทำละลายชนิดเข้มข้นเช่น ทินเนอร์, แอลกอฮอล์ หรือเบนซิน ในการทำความสะอาด
การเตรียมแว่นตาสามมิติของท่าน (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง]
แว่นตาสามมิติมีสองแบบ: พาสซีฟและแอคทีฟ ให้ดูข้อมูลจำเพาะใน คู่มืออ้างอิง เพื่อดูว่าทีวีเครื่องนี้รองรับแว่นตาสามมิติแบบใด
สำหรับแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ
ให้ใช้แว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ หากมีแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟให้มาพร้อมกับทีวีของท่าน หากไม่มีแว่นตาให้มา ให้ซื้อแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ รุ่น TDG-500P ท่านสามารถรับชมภาพ 3D ได้ เพียงแค่ท่านสวมแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ
แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
ให้ใช้แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ หากมีแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟให้มาพร้อมกับทีวีของท่าน หากไม่มีแว่นตาให้มา ให้ซื้อแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ รุ่น TDG-BT500A ท่านจำเป็นต้องลงทะเบียนกับทีวีของท่าน ก่อนการใช้แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟเป็นครั้งแรก ปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่าง
- ถอดแผ่นฉนวนแบตเตอรี่ออก
- เปิดทีวี จากนั้นถือแว่นตาไว้ภายในระยะ 50 ซม. จากทีวี
- กดปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน) ที่แว่นตาค้างไว้ 2 วินาที
แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟจะเปิดขึ้นและเริ่มการลงทะเบียน (ปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน) กะพริบเป็นสีเขียวและสีเหลือง) เมื่อสิ้นสุดการลงทะเบียน ข้อความจะปรากฏบนหน้าจอ TV นาน 5 วินาที และสัญลักษณ์สว่างเป็นสีเขียวนาน 3 วินาที
หากการลงทะเบียนล้มเหลว แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ จะปิดทำงานโดยอัตโนมัติ ในกรณีนี้ ให้ทำตามขั้นตอนด้านบนอีกครั้ง
- สวม แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
ในครั้งต่อไป เพียงแค่เปิดแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ ท่านจะสามารถใช้งานได้ทันที หากต้องการปิด ให้กดปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน) ที่แว่นตาค้างไว้ 2 วินาที หากต้องการเปิดอีกครั้ง ให้กดปุ่ม/สัญลักษณ์ (เปิดปิดใช้งาน)
คำแนะนำ
- หากต้องการใช้แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟกับทีวีเครื่องอื่น ท่านจำเป็นต้องลงทะเบียนแว่นตากับทีวีเครื่องนั้นก่อน ปฏิบัติตามขั้นตอนด้านบนตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2
การรับชมทีวีในรูปแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง]
ท่านจะได้รับประสบการณ์ความบันเทิงแบบ 3D เช่น เกมส์ 3D และแผ่นบลูเรย์ 3D
หากต้องการรับชมในรูปแบบ 3D ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ 3D ผ่านสาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
- เตรียมแว่นตาสามมิติ
- แสดงเนื้อหา 3D บนหน้าจอทีวี
- สวมแว่นตาสามมิติ
ท่านควรจะสามารถรับชมภาพแบบ 3D ได้ทันที ถ้ามองไม่เห็นเอฟเฟคท์ 3D ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ - กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [3D]
- เลือกโหมด [การแสดง 3D] เพื่อให้เหมาะกับเนื้อหาที่แสดงอยู่ อาจไม่สามารถเลือก [3D (ซ้าย‑ขวา)]/[3D (บน-ล่าง)] ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัญญาณเข้าหรือฟอร์แมต
คำแนะนำ
- นอกจากโหมด [การแสดง 3D] แล้ว ท่านยังสามารถใช้ตัวเลือก 3D ต่างๆ ใน [การตั้งค่า 3D] ได้ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [การตั้งค่า 3D]
หมายเหตุ
- เอฟเฟคท์ 3D อาจแสดงออกมาไม่ชัดเจนนัก หากอุณหภูมิในห้องต่ำ
- หาก [Motionflow] ใน [ภาพ] ตั้งค่าเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ [ปิด] การประมวลผลเพื่อ ลดอาการ หน้าจอกะพริบอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลของภาพ ในกรณีนี้ กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] — [Motionflow] — [ปิด] (สำหรับรุ่นที่รองรับ [Motionflow] เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ [Motionflow] มี [Motionflow] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว]
การบันทึก รายการทีวี
- การบันทึกไปยังบนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การรับชม/การลบเนื้อหาที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่แสดงบนรายการสิ่งที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การบันทึกไปยังบนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การลงทะเบียนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การบันทึกโดยแตะครั้งเดียว (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การบันทึกแบบตั้งเวลา (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ USB HDD สำหรับการบันทึก (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การลงทะเบียนอุปกรณ์ USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี]
เชื่อมต่อและลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวีของท่านเพื่อบันทึกการออกอากาศแบบดิจิตอล
เชื่อมต่ออุปกรณ์ HDD USB เข้ากับช่อง USB ของทีวีที่มีเครื่องหมาย “HDD REC” (หากมีช่อง USB สีน้ำเงิน ช่องนั้นจะรองรับการบันทึก HDD)
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- อุปกรณ์ HDD USB
- สาย USB (ไม่ให้มาด้วย)
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ HDD USB เข้ากับช่อง USB3 (สีน้ำเงิน) ที่มีเครื่องหมาย “HDD REC” บนทีวีของท่าน
- เปิดอุปกรณ์ HDD USB
- รอจนกระทั่งหน้าจอ [เชื่อมต่อไดรฟ์ USB แล้ว] แสดงขึ้น
- เลือก [ลงทะเบียนสำหรับการบันทึก]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB
หมายเหตุ
- หากข้อความ “ตรวจไม่พบ USB HDD สำหรับการบันทึก” แสดงขึ้นในระหว่างการลงทะเบียนในขั้นตอนที่ 4 ปฏิบัติตามคำแนะนำในข้อความและตรวจเช็คว่าอุปกรณ์ HDD USB สำหรับบันทึกเชื่อมต่ออยู่กับช่อง USB3 (สีน้ำเงิน) หรือไม่
หากทีวีไม่รับรู้อุปกรณ์ HDD USB สำหรับบันทึกแม้จะตรวจเช็คการเชื่อมต่อแล้ว ท่านต้องลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB อีกครั้งเนื่องจากอุปกรณ์มีการลงทะเบียนเป็นอุปกรณ์สำหรับวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบันทึกไว้แล้ว ([ที่เก็บข้อมูลอุปกรณ์]) ให้ดู “อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถลงทะเบียนได้ (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)” เพื่อลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB อีกครั้งสำหรับการบันทึก
คำแนะนำ
- ท่านยังสามารถลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวีได้โดยการเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การลงทะเบียน HDD]
การยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การยกเลิกการลงทะเบียน HDD] — อุปกรณ์ที่ต้องการยกเลิกการลงทะเบียน
การบันทึกโดยแตะครั้งเดียว (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี]
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- ขณะดู รายการ ที่ต้องการบันทึก กดปุ่ม REC
- ในหน้าจอที่แสดง ตั้งเวลาสิ้นสุดสำหรับการบันทึก การบันทึกจนกระทั่ง รายการ จบ เลือก [ค่าแรกเริ่ม] การตั้งระยะเวลาตามต้องการ (1 นาทีถึง 8 ชั่วโมง) เลือก [กำหนดโดยผู้ใช้]
การหยุดบันทึกด้วยตนเอง
- กดปุ่ม (หยุด)
- เลือก [หยุด] บนหน้าจอที่แสดง
การเปลี่ยนเวลาสิ้นสุดสำหรับการบันทึก
- กดปุ่ม (หยุด)
- ในหน้าจอที่แสดง เลือก [แก้ไข] เพื่อเปลี่ยนเวลาสิ้นสุดสำหรับการบันทึก
หมายเหตุ
- สำหรับบาง รายการ การบันทึกไม่สามารถหยุดได้ด้วยการกดปุ่ม (หยุด) การหยุดบันทึก รายการดังกล่าว กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ หยุดบันทึก]
การบันทึกแบบตั้งเวลา (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี]
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- กดปุ่ม GUIDE
- เลือก รายการ ที่ต้องการในผังรายการ จากนั้นเลือก [บันทึกตัวตั้งเวลา]
- เลือก [ตั้งค่าตัวตั้งเวลาตามรายการ] หรือ [ตั้งค่าตัวตั้งเวลา]
การตั้งเวลาด้วยตนเองโดยการระบุวันที่ เวลา และช่อง
- กดปุ่ม GUIDE
- เลื่อนโฟกัสไปยังรายการซ้ายสุด จากนั้นเลื่อนไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อเปิดเมนู
- เลือก [รายการตั้งเวลา] — [การบันทึกตัวตั้งเวลาแบบปรับเอง]
- ปรับการตั้งค่าเวลา
- เลือก [ตั้งค่าตัวตั้งเวลา]
การตรวจเช็ค เปลี่ยนแปลง หรือลบการตั้งเวลา
การตรวจเช็ค การเปลี่ยนแปลง หรือการลบการตั้งเวลาจะทำใน [รายการตั้งเวลา]
- กดปุ่ม GUIDE
- เลื่อนโฟกัสไปยังรายการซ้ายสุด จากนั้นเลื่อนไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อเปิดเมนู
- เลือก [รายการตั้งเวลา] จากนั้นเปลี่ยนการตั้งค่า
คำแนะนำ
- สามารถสร้างการตั้งเวลาได้สูงสุด 32 รายการ
- หากการบันทึกล้มเหลว สาเหตุจะถูกแสดงใน [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก] กดปุ่ม TITLE LIST จากนั้นเลือก [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก]
- ในผัง รายการ ท่านสามารถเลื่อนโฟกัสไปยัง รายการ ที่ต้องการ และกดปุ่ม REC เพื่อตั้งค่าการบันทึกแบบตั้งเวลาสำหรับ รายการนั้น
หมายเหตุ
- การบันทึกแบบตั้งเวลาจะไม่ทำงานเมื่อมีการถอดสายไฟ AC (สายหลัก)
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ USB HDD สำหรับการบันทึก (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี]
- อุปกรณ์ HDD USB จะต้องใช้สำหรับการบันทึกเท่านั้น ใช้อุปกรณ์ HDD USB แยกต่างหากสำหรับการดูภาพถ่ายและวิดีโอ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
- รองรับอุปกรณ์ HDD USB ที่มีความจุมากกว่า 32 GB เท่านั้น
- ไม่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ HDD USB ผ่านฮับ USB เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับทีวีโดยตรง
- ข้อมูลใดๆ ที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ HDD USB จะถูกลบหากอุปกรณ์ได้รับการฟอร์แมตในระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียน อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้เมื่อทำการลงทะเบียนกับทีวีแล้ว การทำให้อุปกรณ์ HDD USB ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้ ให้ฟอร์แมตอุปกรณ์บนคอมพิวเตอร์ (โปรดทราบว่าข้อมูลใดๆ ในอุปกรณ์ HDD USB จะถูกลบ)
- สามารถลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB ได้สูงสุด 8 เครื่อง
- ทีวีเครื่องนี้เท่านั้นที่สามารถเล่นข้อมูลที่บันทึกไว้ในอุปกรณ์ HDD USB ที่ได้รับการลงทะเบียนกับทีวีเครื่องนี้
- การบันทึกรองรับเฉพาะทีวีดิจิตอลและการออกอากาศวิทยุเท่านั้น ไม่รองรับการบันทึกการออกอากาศข้อมูล
- ไม่สามารถบันทึกสัญญาณที่ถูกรบกวน/มีการเข้ารหัสได้
- การบันทึกไม่สามารถดำเนินการได้ในกรณีต่อไปนี้:
- ทีวีไม่สามารถ รับรู้ อุปกรณ์ HDD USB ที่ลงทะเบียนไว้
- มีการบันทึกมากกว่า 1,000 รายการ บนอุปกรณ์ HDD USB
- อุปกรณ์ HDD USB เต็ม
- การเลือก รายการ โดยอัตโนมัติอาจไม่สามารถทำได้ขณะที่กำลังทำการบันทึก
- การบันทึก รายการ ไม่สามารถทำได้เว้นแต่การบันทึกจะได้รับ อนุญาต
- หากทีวีถูกกระแทกในระหว่างการบันทึก HDD USB เสียงรบกวนอาจเกิดขึ้นในเนื้อหาที่บันทึกไว้
- Sony ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ต่อการบันทึกที่ล้มเหลว หรือความเสียหายหรือความสูญเสียใดๆ ต่อเนื้อหาที่บันทึก อันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวข้องกับความบกพร่องของทีวี, การรบกวนของสัญญาณ หรือปัญหาอื่นๆ
การรับชม/การลบเนื้อหาที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี]
หมายเหตุ
- ฟังก์ชั่นนี้สามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น
การดูเนื้อหาที่บันทึกไว้
- กดปุ่ม TITLE LIST จากนั้นเลือกเนื้อหาที่ต้องการดู
การลบเนื้อหาที่บันทึกไว้
- กดปุ่ม TITLE LIST
- กดปุ่ม ACTION MENU แล้วเลือกการตั้งค่าต่อไปนี้ตามลำดับ
[ลบ] — รายการ ที่จะลบ — [ลบ]
การลบหลาย รายการ ให้เลือก รายการ ทั้งหมดที่คุณต้องการลบก่อนที่จะเลือก [ลบ]
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับความหมายของสัญลักษณ์ในรายการชื่อที่บันทึกไว้ ให้ดู การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่แสดงบนรายการสิ่งที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การทำความเข้าใจสัญลักษณ์ที่แสดงบนรายการสิ่งที่บันทึกไว้ (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
การใช้งานทีวีกับอุปกรณ์อื่นๆ
- อุปกรณ์ USB
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์และ DVD
- กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
- คอมพิวเตอร์, กล้อง และกล้องวิดีโอ
- เครื่องเสียง
- อุปกรณ์บลูทูธ
- Subwoofer ไร้สายของ Sony (อุปกรณ์เสริม) (รุ่นที่รองรับ Subwoofer ไร้สายของ Sony เท่านั้น)
- อุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
- การรับชมภาพถ่ายในแบบ 4K จากอุปกรณ์ที่รองรับ (รุ่น 4K เท่านั้น)
อุปกรณ์ USB
- การเล่นเนื้อหาที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB
- ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB ที่ใช้สำหรับเก็บภาพถ่ายและเพลง
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
การเล่นเนื้อหาที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB
วิธีการบันทึก รายการ ไปยังอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB หรือดู รายการ ที่ได้บันทึกไว้ ดูที่ การบันทึก รายการทีวี
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB
เชื่อมต่ออุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เข้ากับช่อง USB ของทีวีเพื่อเพลิดเพลินไปกับภาพถ่าย, เพลง และไฟล์วิดีโอที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์
- อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB
เพลิดเพลินไปกับภาพถ่าย/เพลง/ภาพยนตร์ที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB
ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับภาพถ่าย/เพลง/ภาพยนตร์ที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB หน้าจอทีวีได้
- หากอุปกรณ์ USB เชื่อมต่อกับทีวีมีสวิตช์เปิดปิด ให้เปิดสวิตช์
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู จากนั้นเลือก [เครื่องเล่นสื่อ]
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS ท่านสามารถกดปุ่ม APPS - เลือกชื่ออุปกรณ์ USB
- เลือกโฟลเดอร์ แล้วเลือกไฟล์เพื่อเล่น
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
หมายเหตุ
- รูปภาพหรือโฟลเดอร์บางรายการอาจใช้เวลาสักครู่ในการแสดง ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพ ขนาดของไฟล์ และจำนวนไฟล์ในโฟลเดอร์
- การแสดงอุปกรณ์ USB อาจใช้เวลาสักพักเนื่องจากทีวีจะต้องเข้าถึงอุปกรณ์ USB ทุกครั้งที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB
- ช่อง USB ทั้งหมดบนทีวีรองรับ USB ความเร็วสูง พอร์ต USB สีน้ำเงินรองรับ SuperSpeed (USB 3.1 Gen 1 หรือ USB 3.0) ไม่รองรับฮับ USB
- ในขณะที่ใช้อุปกรณ์ USB ห้ามปิดทีวีหรืออุปกรณ์ USB ห้ามถอดสาย USB และห้ามนำสื่อบันทึกข้อมูลออกหรือใส่ มิฉะนั้น ข้อมูลที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB อาจเสียหาย
- การเล่นอาจไม่สามารถทำได้แม้ไฟล์จะอยู่ในฟอร์แมตที่สนับสนุนก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไฟล์ดังกล่าว
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลอื่นๆ ให้ดูที่ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB ที่ใช้สำหรับเก็บภาพถ่ายและเพลง
- ช่อง USB บนทีวีสนับสนุนระบบไฟล์ FAT16, FAT32, exFAT และ NTFS
- เมื่อเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล Sony เข้ากับทีวีโดยใช้สาย USB ต้องตั้งค่าการเชื่อมต่อ USB บนกล้องเป็นโหมด “อัตโนมัติ” หรือ “อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่”
- หากกล้องดิจิตอลของท่านไม่ทำงานร่วมกับทีวีของท่าน ให้ลองปฏิบัติดังนี้:
- ตั้งค่าการเชื่อมต่อ USB บนกล้องของท่านเป็น “อุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดใหญ่”
- คัดลอกไฟล์จากกล้องไปที่แฟลชไดร์ฟ USB จากนั้นเชื่อมต่อไดร์ฟเข้ากับทีวี
- ภาพถ่ายบางภาพและภาพยนตร์อาจถูกขยาย ส่งผลให้ภาพมีคุณภาพต่ำ ภาพถ่ายอาจไม่แสดงเต็มจอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและอัตราส่วน
- อาจใช้เวลานานในการแสดงภาพถ่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไฟล์หรือการตั้งค่า
- Sony ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ต่อการบันทึกที่ล้มเหลว หรือความเสียหายหรือความสูญเสียใดๆ ต่อเนื้อหาที่บันทึก อันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวข้องกับความบกพร่องของทีวี, ความบกพร่องของอุปกรณ์ USB หรือปัญหาอื่นๆ
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
- ภาพถ่าย
- เพลง
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
ภาพถ่าย
รูปแบบการใช้ : USB / เครือข่ายที่บ้าน
ฟอร์แมตของไฟล์ | สกุล |
---|---|
JPEG | *.jpg / *.jpe / *.jpeg |
ARW *1 | *.arw |
- *1 ARW ใช้สำหรับเล่นไฟล์เท่านั้น
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- เพลง
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
เพลง
รูปแบบการใช้ : USB / เครือข่ายที่บ้าน
mp4
สกุล: *.mp4 / *.m4a
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
3gpp
สกุล: *.3gp / *.3g2
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
Asf
สกุล: *.wma
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
WMA9 Standard | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
ogg
สกุล: *.ogg
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
Vorbis | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
อื่นๆ
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
LPCM *1 | 32k / 44.1k / 48k |
สกุล: *.mp3
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
MP1L1 / MP1L2 / MP1L3 / MP2L1 / MP2L2 | 32k / 44.1k / 48k |
MP2L3 | 16k / 22.05k / 24k |
MP2.5L3 | 8k / 11.025k / 12k |
สกุล: *.wav
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
WAV *2 | 32k / 44.1k / 48k / 88.2k / 96k / 176.4k / 192k |
สกุล: *.flac
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
FLAC | 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k / 88.2k / 96k / 176.4k / 192k |
สกุล: *.aac
คำอธิบาย | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
- *1 รูปแบบการใช้ของ LPCM คือเครือข่ายที่บ้านเท่านั้น
- *2 รูปแบบการใช้ของ WAV คือ 2ch เท่านั้น
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
วิดีโอ
รูปแบบการใช้ : USB / เครือข่ายที่บ้าน
MPEG1 (*.mpg / *.mpe / *.mpeg)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG1 | MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MPEG2PS (*.mpg / *.mpe / *.mpeg)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG2 MP@HL, MP@H14L, MP@ML | MPEG1L1 / MPEG1L2 / LPCM / AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MPEG2TS
สกุล : *.m2t
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG2 MP@HL, MP@H14L, MP@ML | MPEG1L1 / MPEG1L2 / AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
สกุล : *.m2ts / *.mts
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | MPEG1L1 / MPEG1L2 / AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MP4 (*.mp4): สำหรับรุ่น 2K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@120fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MP4 (*.mp4): สำหรับรุ่น 4K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@120fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L5.2, MP@L5.2, HP@L5.2 *1 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / LPCM | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60p / 1920x1080@120fps |
HEVC / H.265 MP@L5.1, Main10@L5.1 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 | 3840x2160 / QCIF (176x144) | / 1920x1080@120fps | 3840x2160@60p
- *1 สายนี้รวมถึงรูปแบบการใช้ฟอร์แมต XAVC S อัตราบิตที่รองรับสูงสุดสำหรับ XAVC S คือ 100 Mbps
avi (*.avi)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
Xvid | MPEG1L1 / MPEG1L2 / MPEG1L3 / AC3 / E-AC3 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
Motion JPEG | μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16LE) | 1280x720 / QCIF (176x144) | 1280x720@30fps |
Asf (*.asf / *.wmv)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
VC1 AP@L3, MP@HL, SP@ML | WMA9 Standard | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MKV (*.mkv): สำหรับรุ่น 2K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายใน / ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
Xvid | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP8 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP9 Profile 0, Profile 2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MKV (*.mkv): สำหรับรุ่น 4K
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายใน / ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
Xvid | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP8 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP9 Profile 0, Profile 2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / Vorbis | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60fps |
AVC / H.264 BP@L5.2, MP@L5.2, HP@L5.2 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 | 3840x2160 / QCIF (176x144) | / 1920x1080@120fps | 3840x2160@60p
HEVC / H.265 MP@L5.1, Main10@L5.1 | DTS core / AC3 / AAC-LC / E-AC3 / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 | 3840x2160 / QCIF (176x144) | / 1920x1080@120fps | 3840x2160@60p
3gpp (*.3gp / *.3g2)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
RealMedia (*.rm / *.rmvb / *.rv): รุ่นสำหรับฮ่องกงเท่านั้น
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
RealVideo RV8 / RV9 / RV10 | RealMediaAudio cook / aac | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
MOV (*.mov)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
AVC / H.264 BP@L3, MP@L4.2, HP@L4.2 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16BE) / PCM (S16LE) | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@60fps |
MPEG4 SP@L6, ASP@L5, ACEP@L4 | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16BE) / PCM (S16LE) | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
Motion JPEG | AAC-LC / HE-AAC v1 / HE-AAC v2 / AC3 / E-AC3 / MPEG1L1 / MPEG1L2 / μ-LAW / PCM (U8) / PCM (S16BE) / PCM (S16LE) | 1280x720 / QCIF (176x144) | 1280x720@30fps |
WebM (*.webm)
ประเภทคำบรรยายใต้ภาพ : ภายนอก
ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Profile@Level) | ตัวแปลงสัญญาณเสียง | ความละเอียดสูงสุด/ต่ำสุด | อัตราเฟรมสูงสุด |
---|---|---|---|
VP8 | Vorbis | 1920x1080 / QCIF (176x144) | 1920x1080@30fps / 1280x720@60fps |
VP9 Profile 0, Profile 2 | Vorbis | 3840x2160 / QCIF (176x144) | 3840x2160@60fps |
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- เพลง
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
ตัวแปลงสัญญาณเสียง | อัตราการสุ่มตัวอย่าง |
---|---|
LPCM | 44.1k / 48k |
MPEG1L1 / MPEG1L2 | 32k / 44.1k / 48k |
MPEG1L3 | 32k / 44.1k / 48k |
AAC-LC | 16k / 22.05k / 24k / 32k / 44.1k / 48k |
HE-AAC v1 / v2 | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
AC3 | 32k / 44.1k / 48k |
E-AC3 | 32k / 44.1k / 48k |
Vorbis | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
WMA9 | 8k / 11.025k / 16k / 22.05k / 32k / 44.1k / 48k |
DTS core | 32k / 44.1k / 48k |
RealAudio (cook): For Hong Kong models only | 8k / 11.025k / 22.05k / 44.1k |
RealAudio (aac): For Hong Kong models only | 24k / 32k / 44.1k / 48k |
μ-LAW | 8k |
PCM (U8) | 8k |
PCM (S16LE) | 11.025k / 16k / 44.1k |
PCM (S16BE) | 11.025k / 16k / 44.1k |
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- เพลง
- วิดีโอ
- คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
คำบรรยายใต้ภาพจากภายนอก
รูปแบบการใช้ : USB
ฟอร์แมตของไฟล์ | สกุล |
---|---|
SubStation Alpha | *.ass / *.ssa |
SubRip | *.srt |
MicroDVD | *.sub / *.txt |
SubViewer | *.sub |
SAMI | *.smi / *.sami |
DVD Subtitle System | *.txt |
ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุนอื่นๆ
- ภาพถ่าย
- เพลง
- วิดีโอ
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง (สำหรับวิดีโอ)
เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์และ DVD
- การเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์หรือ DVD
- การรับชมแผ่นบลูเรย์และ DVD
การเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์หรือ DVD
เชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD เข้ากับทีวี
ใช้วิธีเชื่อมต่อด้านล่างตามเทอร์มินัลที่ใช้อยู่บนทีวีของคุณ
หมายเหตุ
- สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
คำแนะนำ
- นอกจากนี้คุณยังสามารถเชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (cable/satellite box) ได้เช่นเดียวกับเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD
การเชื่อมต่อ HDMI
เพื่อคุณภาพของภาพที่ดีที่สุด เราแนะนำให้เชื่อมต่อเครื่องเล่นของท่านเข้ากับทีวีโดยใช้สาย HDMI หากเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD มีพอร์ต (ช่องต่อ) HDMI ให้เชื่อมต่อโดยใช้สาย HDMI
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
- หากอุปกรณ์มีพอร์ต DVI (ช่องต่อ) ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์กับช่อง HDMI (ที่มี AUDIO IN) ผ่านทางหัวแปลง DVI - HDMI (ไม่ให้มาด้วย) และเชื่อมต่อพอร์ตสัญญาณเสียงออก (ช่องต่อ) ของอุปกรณ์กับช่อง HDMI 3 AUDIO IN / HDMI 1 AUDIO IN
สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ ให้ดู คู่มืออ้างอิง เพื่อตรวจเช็คว่าทีวีของท่านรองรับ HDMI 3 AUDIO IN / HDMI 1 AUDIO INหรือไม่
การเชื่อมต่อวิดีโอคอมโพเนนต์
หากเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ของท่านมีพอร์ตวิดีโอคอมโพเนนต์ (ช่องต่อ) ให้เชื่อมต่อกับทีวีโดยใช้สายวิดีโอคอมโพเนนต์และสายสัญญาณเสียง
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สายวิดีโอคอมโพเนนต์ (ไม่ให้มาด้วย)
- สายสัญญาณเสียง (ไม่ให้มาด้วย)
การเชื่อมต่อแบบคอมโพสิท
หากเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ของท่านมีพอร์ตคอมโพสิท (ช่องต่อ) ให้เชื่อมต่อโดยใช้สายวิดีโอ/เสียงคอมโพสิท
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สายวิดีโอ/เสียงคอมโพสิท (ไม่ให้มาด้วย)
เมื่อใช้สายต่ออนาล็อก
- เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD (เหมือนกับการเชื่อมต่อกล่องกล่องรับสัญญาณ)
- สายต่ออนาล็อก (ที่ให้มา)*
- สาย RCA (ไม่ให้มาด้วย)
* สายต่ออนาล็อก ให้มาในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
การรับชมแผ่นบลูเรย์และ DVD
ท่านสามารถดูเนื้อหาจากแผ่นบลูเรย์/DVD หรือเนื้อหาอื่นที่เครื่องเล่นของท่านรองรับบนทีวีได้
- เปิดเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่
- กดปุ่ม (เลือกอินพุต) ซ้ำๆ เพื่อเลือกเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่
- เริ่มเล่นเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่
คำแนะนำ
- หากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Syncด้วย HDMI ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวี
กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- การเชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) ที่มี IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
การเชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
เชื่อมต่อกล่องรับสัญญาณ (สายเคเบิล/ช่องรับสัญญาณดาวเทียม) เข้ากับทีวี
เชื่อมต่อกับขั้วของทีวี
สำหรับรายละเอียด ให้ดูที่เพจ การเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์หรือ DVD
กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) ที่มี IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
- การเชื่อมต่อ IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
- การตั้งค่า IR Blaster เพื่อควบคุมกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
การเชื่อมต่อ IR Blaster (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ IR Blaster มี [การติดตั้ง IR Blaster] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า]
IR Blaster ทำให้ท่านสามารถใช้งานกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) ซึ่งเชื่อมต่อกับทีวีด้วยรีโมทคอนโทรลของทีวีได้
(รุ่นที่รองรับ IR Blaster อาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ประเทศของท่าน)
- กล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล)
- สาย IR Blaster
- พอร์ต (ช่องต่อ) IR Blaster
หมายเหตุ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า IR Blaster ได้อย่างถูกต้องและตัวถ่ายทอดสัญญาณ IR อยู่ใกล้กับตัวรับสัญญาณ IR ของอุปกรณ์ภายนอก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีวีของท่านรองรับอุปกรณ์ภายนอก
การตั้งค่า IR Blaster เพื่อควบคุมกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การดำเนินการ [การตั้งค่าการควบคุม Set-top box] ใน [การติดตั้ง IR Blaster] ทำให้ท่านสามารถใช้งานกล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิลจากเมนูที่แสดงได้โดยการกดปุ่ม ACTION MENU บนรีโมทคอนโทรล หากรีโมทคอนโทรลมีปุ่ม EXT.BOX MENU ด้วย ท่านสามารถกดปุ่มนี้เพื่อใช้รีโมทคอนโทรลสำหรับการทำงานของกล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิลได้ เช่น การแสดงเมนูของกล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [การติดตั้ง IR Blaster] — [การตั้งค่าการควบคุม Set-top box]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอ
คำแนะนำ
- IR Blaster สามารถใช้งาน AV รีซีฟเวอร์ได้ การตั้งค่า AV รีซีฟเวอร์ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [การติดตั้ง IR Blaster] — [ตั้งค่าการควบคุมตัวรับ AV]
- หาก AV รีซีฟเวอร์เป็นอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ไม่จำเป็นต้องใช้ IR Blaster
หมายเหตุ
- อุปกรณ์ภายนอกบางชิ้นอาจไม่ตอบสนองต่อบางรายการใน “เมนูการดำเนินงาน”
- หากท่านกดปุ่มบนรีโมทคอนโทรลค้างไว้ อาจไม่ทำงาน ลองกดปุ่มซ้ำ ๆ แทน
สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
- การเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาจากอุปกรณ์มือถือของท่านบนทีวีด้วย Google Cast
- การแสดงหน้าจอของสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตบนทีวีโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอ
การเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาจากอุปกรณ์มือถือของท่านบนทีวีด้วย Google Cast
Google Cast ทำให้ท่านสามารถแสดงเนื้อหาจากเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น โปรด ของท่านไปยังทีวีของท่านแบบไร้สายโดยตรงจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของท่านได้
- เชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือ เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เข้ากับเครือข่ายที่บ้านเครือข่ายเดียวกันกับที่ทีวีเชื่อมต่ออยู่
- เปิดแอพพลิเคชั่นที่รองรับ Google Cast บนอุปกรณ์มือถือ
- เลือกไอคอน (แคสต์) ในแอพพลิเคชั่น
หน้าจอของอุปกรณ์มือถือจะแสดงบน TV
หมายเหตุ
- การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจำเป็นสำหรับการใช้งาน Google Cast
การแสดงหน้าจอของสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตบนทีวีโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถแสดงหน้าจอของอุปกรณ์มือถือบนทีวีเพื่อรับชมภาพถ่าย, วิดีโอ หรือเว็บไซต์
คุณสมบัติ “การสะท้อนหน้าจอ” ใช้เทคโนโลยี Miracast ในการแสดงหน้าจอของอุปกรณ์ที่รองรับบนทีวี ไม่จำเป็นต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สายเพื่อใช้ฟังก์ชั่นนี้
- สมาร์ทโฟน
- แท็บเล็ต
- คอมพิวเตอร์
- กดปุ่ม (เลือกอินพุต) แล้วจึงเลือก [การสะท้อนหน้าจอ]
- ใช้งานอุปกรณ์ที่รองรับการสะท้อนหน้าจอเพื่อเชื่อมต่อกับทีวี
เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์กับทีวีแล้ว หน้าจอที่แสดงบนอุปกรณ์จะแสดงบนทีวีเช่นกัน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานอุปกรณ์ของคุณ
หมายเหตุ
- ในขณะที่หน้าจอพร้อมใช้งานสำหรับฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอปรากฏขึ้น การเชื่อมต่อแบบไร้สายระหว่างทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สายจะถูกตัดการเชื่อมต่อ ดังนั้นการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตจะหยุดลง
คอมพิวเตอร์, กล้อง และกล้องวิดีโอ
- การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
- การเชื่อมต่อกล้องหรือกล้องวิดีโอและการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
- ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
ใช้สาย HDMI เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของท่านเข้ากับทีวี
- คอมพิวเตอร์
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
การตรวจเช็คข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอ
- ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์
การรับชมเนื้อหาที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์
หลังจากเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือกสัญญาณเข้าที่คอมพิวเตอร์เชื่อมต่ออยู่
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
หมายเหตุ
- เพื่อคุณภาพของภาพที่ดีที่สุด เราแนะนำให้ท่านตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้ส่งสัญญาณวิดีโอตามการตั้งค่าที่ระบุใน “ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์”
- ภาพอาจไม่ชัดเจนหรือมีลักษณะเป็นรอยเปื้อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของการเชื่อมต่อ ในกรณีนี้ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าคอมพิวเตอร์และเลือกสัญญาณเข้าอื่นจากรายการ “ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์”
การเชื่อมต่อกล้องหรือกล้องวิดีโอและการดูเนื้อหาที่จัดเก็บไว้
การเชื่อมต่อกล้อง/กล้องวิดีโอ
เชื่อมต่อกล้องดิจิตอลหรือกล้องวิดีโอ Sony โดยใช้สาย HDMI ใช้สายที่มีปลั๊กต่อ HDMI ขนาดเล็ก (ช่องต่อ) สำหรับปลายด้านที่ต่อกับกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ และปลั๊กต่อ (ช่องต่อ) HDMI มาตรฐานสำหรับปลายด้านที่ต่อกับทีวี
- กล้องดิจิตอล
- กล้องวิดีโอ
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
การรับชมเนื้อหาที่เก็บอยู่ในกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ
- หลังจากเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ ให้เปิดเครื่อง
- กดปุ่ม (เลือกอินพุต) ซ้ำๆ เพื่อเลือกกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่
- เริ่มเล่นกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
คำแนะนำ
- หากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์รองรับ BRAVIA Sync อุปกรณ์บางตัวอาจไม่รองรับกับ BRAVIA Sync แม้ว่าจะมีพอร์ต HDMI (ช่องต่อ) ก็ตาม
ข้อมูลจำเพาะของสัญญาณวิดีโอคอมพิวเตอร์
(ความละเอียด, ความถี่แนวนอน/ความถี่แนวตั้ง)
- 640 x 480, 31.5 kHz/60 Hz
- 800 x 600, 37.9 kHz/60 Hz
- 1024 x 768, 48.4 kHz/60 Hz
- 1152 x 864, 67.5 kHz/75 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1280 x 1024, 64.0 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1600 x 900, 56.0 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1680 x 1050, 65.3 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)
- 1920 x 1080, 67.5 kHz/60 Hz (รุ่น Full HD 2K หรือรุ่น 4K เท่านั้น)*
* สัญญาณเวลา 1080p ที่ส่งไปยังช่องสัญญาณเข้า HDMI จะได้รับการประมวลผลเสมือนเป็นสัญญาณเวลาวิดีโอไม่ใช่สัญญาณเวลาคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีผลต่อการตั้งค่า [จอภาพ] ใน [การแสดงผลและการปรับเสียง] การรับชมเนื้อหาในคอมพิวเตอร์ ให้ตั้งค่า [โหมดจอภาพ] เป็น [เต็มจอ] และ [บริเวณแสดงภาพ] เป็น [เต็มพิกเซล] (รุ่น 2K) หรือ [+1] (รุ่น 4K) ([บริเวณแสดงภาพ] สามารถกำหนดค่าได้เมื่อปิดใช้งาน [บริเวณแสดงภาพอัตโนมัติ] เท่านั้น)
สัญญาณวิดีโอเข้าอื่นๆ
รูปแบบวิดีโอต่อไปนี้สามารถแสดงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลจำเพาะของคอมพิวเตอร์ของท่าน
- 480p, 480i
- 576p*1, 576i*1
- 720/24p
- 720p/30Hz, 720p/50Hz*1, 720p/60Hz
- 1080i/50Hz*1, 1080i/60Hz
- 1080/24p
- 1080p/30Hz, 1080p/50Hz*1, 1080p/60Hz
- 3840 x 2160p/24Hz, 3840 x 2160p/25Hz*1, 3840 x 2160p/30Hz (รุ่น 4K เท่านั้น)
- 3840 x 2160p/50Hz*1*3, 3840 x 2160p/60Hz*3 (รุ่น 4K เท่านั้น)
- 4096 x 2160p/24Hz*2 (รุ่น 4K เท่านั้น)
- 4096 x 2160p/50Hz*1*2*3, 4096 x 2160p/60Hz*2*3 (รุ่น 4K เท่านั้น)
*1 ไม่รองรับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน
*2 เมื่ออินพุต 4096 x 2160p และตั้งค่า [โหมดจอภาพ] เป็น [ปกติ] ความละเอียดภาพจะแสดงเป็น 3840 x 2160p
การแสดงขนาด 4096 x 2160p ให้ตั้งค่า [โหมดจอภาพ] เป็น [เต็มจอ 1] หรือ [เต็มจอ 2]
*3 รองรับด้วย HDMI 2/3 เท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น
หมายเหตุ
- สัญญาณออกขนาด 1920 x 1080/60 Hz อาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ของท่าน สัญญาณออกแท้จริงอาจจะต่างออกไป แม้ว่าจะเลือกสัญญาณออกขนาด 1920 x 1080/60 Hz ไว้แล้ว ในกรณีนี้ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ จากนั้นตั้งค่าคอมพิวเตอร์ของท่านให้ใช้สัญญาณวิดีโออื่น
เครื่องเสียง
- การส่งสัญญาณเสียงจากเครื่องเสียง
- การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
- การปรับเครื่องเสียง
การส่งสัญญาณเสียงจากเครื่องเสียง
ท่านสามารถเชื่อมต่อเครื่องเสียง เช่น AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์เข้ากับ TV ได้ เลือกวิธีเชื่อมต่อด้านล่างตามข้อมูลจำเพาะของเครื่องเสียงที่ท่านต้องการเชื่อมต่อ
- การเชื่อมต่อด้วยสาย HDMI (สำหรับรายละเอียด โปรดอ่านให้ละเอียดเกี่ยวกับ “การเชื่อมต่อโดยใช้สาย HDMI” ด้านล่าง)
- การเชื่อมต่อด้วยสายดิจิตอลออพติคอล
- การเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณเสียง
สำหรับวิธีการเชื่อมต่อ ให้ดูที่เพจ การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
หมายเหตุ
- ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อโดยใช้สาย HDMI
อุปกรณ์นี้รองรับ Audio Return Channel (ARC) คุณสามารถใช้สาย HDMI เพื่อส่งสัญญาณเสียงออกจากระบบเสียงที่รองรับ ARC
สำหรับวิธีการเชื่อมต่อ ให้ดูที่เพจ การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
หมายเหตุ
- ตำแหน่งของขั้วต่อ HDMI ที่รองรับ ARC แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น โปรดดูคู่มืออ้างอิงที่มีให้มา
การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
ดูภาพประกอบด้านล่างเพื่อเชื่อมต่อเครื่องเสียง เช่น AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
หมายเหตุ
- สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
การเชื่อมต่อ HDMI (รองรับ ARC)
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสาย HDMI
เชื่อมต่อกับขั้วต่ออินพุต HDMI ของ TV ที่มีข้อความ “ARC”- AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
- สาย HDMI (ไม่ให้มาด้วย)*
* เราขอแนะนำ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่ได้รับอนุญาต ที่มีโลโก้ HDMI
- การปรับเครื่องเสียง
การเชื่อมต่อสายดิจิตอลออพติคอล
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสายดิจิตอลออพติคอล
เชื่อมต่อเข้ากับช่องอินพุตดิจิตอลออพติคอลของเครื่องเสียง- AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
- สายสัญญาณเสียงออพติคอล (ไม่ให้มาด้วย)
- การปรับเครื่องเสียง
การเชื่อมต่อสายสัญญาณเสียง
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสายเคเบิลสำหรับแปลงสัญญาณสเตอริโอออกเป็น RCA อนาล็อก
เชื่อมต่อเข้ากับช่องอินพุตเสียงของเครื่องเสียง- AV รีซีฟเวอร์หรือซาวด์บาร์
- สายสัญญาณเสียง (ไม่ให้มาด้วย)
- การปรับเครื่องเสียง
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
การปรับเครื่องเสียง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
หลังจากเชื่อมต่อเครื่องเสียงเข้ากับ TV ให้ปรับเอาต์พุตเสียงของ TV จากเครื่องเสียง
การปรับเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อด้วยสายเคเบิล HDMI หรือสายดิจิตอลออพติคอล
- หลังจากเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเครื่องเสียงของท่าน ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ลำโพง] — [เครื่องเสียง]
- เปิดเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อไว้ จากนั้นปรับเสียง
หากท่านเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ด้วย HDMI ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้รีโมทคอนโทรลของ TV
หมายเหตุ
- ท่านจำเป็นต้องปรับการตั้งค่า [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] ให้เหมาะสมกับเครื่องเสียงของท่าน กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล]
- หากเครื่องเสียงไม่รองรับ Dolby Digital หรือ DTS ให้ตั้งค่า [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] เป็น [PCM]
คำแนะนำ
- หากเชื่อมต่อเครื่องเสียงที่กำหนดด้วยสาย HDMI ท่านสามารถปรับเวลาแสดงภาพและเสียงได้
- การปรับการตั้งค่าซิงโครไนซ์ AV
- เว็บไซต์ช่วยเหลือ
การปรับระบบเสียงที่เชื่อมต่อไว้กับสายสัญญาณเสียง
- หลังจากเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเครื่องเสียงของท่าน ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [หูฟัง/เสียงออก] — [เสียงออก (คงที่)]
- เปิดเครื่องเสียงที่เชื่อมต่อไว้ จากนั้นปรับเสียง
หมายเหตุ
- หากเครื่องเสียงไม่รองรับ Dolby Digital หรือ DTS ให้ตั้งค่า [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] เป็น [PCM]
คำแนะนำ
- เมื่อใช้เครื่องเสียงภายนอก ท่านสามารถควบคุมเสียงทีวีได้โดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวี หากตั้งค่า [หูฟัง/เสียงออก] เป็น [เสียงออก (เปลี่ยนแปลง)] กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [หูฟัง/เสียงออก] — [เสียงออก (เปลี่ยนแปลง)]
- เมื่อเชื่อมต่อ subwoofer กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [หูฟัง/เสียงออก] — [Subwoofer]
อุปกรณ์บลูทูธ
- การเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธ
- การปรับการตั้งค่าซิงโครไนซ์ AV
- โปรไฟล์บลูทูธที่รองรับ
การเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การจับคู่ทีวีกับอุปกรณ์บลูทูธ
สำหรับรุ่นที่รองรับบลูทูธ A2DP ที่สามารถใช้อุปกรณ์เสียงบลูทูธ เช่น หูฟังหรือลำโพง ได้เท่านั้น
รุ่นที่รองรับบลูทูธ A2DP ที่รองรับอุปกรณ์เสียงบลูทูธได้มี [A/V sync] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก]
- เปิดอุปกรณ์บลูทูธและตั้งค่าในโหมดการจับคู่
การตั้งค่าอุปกรณ์บลูทูธของท่านในโหมดการจับคู่ ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์นั้น - กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [รีโมตและอุปกรณ์เสริม] — [การตั้งค่า Bluetooth] — [เพิ่มอุปกรณ์] หรือตั้งค่าทีวีในโหมดการจับคู่
รายการของอุปกรณ์บลูทูธที่สามารถใช้งานได้จะแสดงขึ้น - เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการจากรายการ จากนั้นปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอ
หากท่านได้รับการแจ้งให้ป้อนรหัสผ่าน ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์นั้น
หลังจากการจับคู่เสร็จสมบูรณ์ อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับทีวี
การเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธที่จับคู่แล้ว
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [รีโมตและอุปกรณ์เสริม] — [การตั้งค่า Bluetooth]
- เลือกอุปกรณ์ที่จับคู่ไว้แล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออยู่จากรายการ
- เลือก [เชื่อมต่อ]
การปรับการตั้งค่าซิงโครไนซ์ AV
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
หากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสียงบลูทูธ อาจมีการหน่วงระหว่างภาพกับเสียงเนื่องจากคุณลักษณะของบลูทูธ ท่านสามารถปรับการหน่วงระหว่างภาพกับเสียงได้ด้วยการตั้งค่า A/V sync (สำหรับรุ่นที่รองรับบลูทูธ A2DP ที่สามารถใช้อุปกรณ์เสียงบลูทูธได้เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับบลูทูธ A2DP ที่รองรับอุปกรณ์เสียงบลูทูธได้มี [A/V sync] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก]
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [A/V sync] — ตัวเลือกที่ต้องการ
คำแนะนำ
- ท่านยังสามารถปรับเวลาแสดงภาพและเสียงได้หากเชื่อมต่อเครื่องเสียงที่กำหนดด้วยสาย HDMI สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับรุ่นที่รองรับ ให้ดูเว็บไซต์ช่วยเหลือ
- เว็บไซต์ช่วยเหลือ
หมายเหตุ
- ภาพและเสียงอาจไม่ตรงกันแม้จะตั้งค่า [A/V sync] เป็น [เปิด] หรือ [อัตโนมัติ] ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสียงบลูทูธที่เชื่อมต่อ
- การป้องกันไม่ให้ทีวีแสดงหน้าจอสีดำในทันทีหลังจากเปิดทีวีเมื่อเชื่อมต่อกับซาวด์บาร์แบบไร้สาย (บลูทูธ) ให้ตั้งค่า [A/V sync] เป็น [เปิด]
- หากตั้งค่า [โหมดภาพ] เป็นหนึ่งในตัวเลือกด้านล่างนี้ การกำหนดเวลาแสดงภาพและเสียงจะไม่ถูกปรับแม้จะตั้งค่า [A/V sync] เป็น [อัตโนมัติ]
- [เกมส์]
- [กราฟฟิก]
- [ภาพถ่าย‑ภาพคมเข้ม]
- [ภาพถ่าย‑ภาพปกติ]
- [ภาพถ่าย‑เลือกปรับ]
- อาจรู้สึกว่าการตอบสนองของทีวีขณะเล่นวิดีโอเกมช้าลงเนื่องจากการตั้งค่า [A/V sync] จะเพิ่มการหน่วงเวลาการแสดงภาพ สำหรับเกมที่อาศัยเวลาในการตอบสนอง ท่านไม่ควรใช้อุปกรณ์บลูทูธ แต่ควรใช้ลำโพงทีวีหรือซาวด์บาร์ที่มีการเชื่อมต่อแบบใช้สาย (สาย HDMI /สายดิจิตอลออพติคอล) แทน
โปรไฟล์บลูทูธที่รองรับ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ทีวีรองรับโปรไฟล์ต่อไปนี้:
- HID (โปรไฟล์อินเตอร์เฟสอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้)
- HOGP (โปรไฟล์ HID ผ่าน GATT)
- A2DP (โปรไฟล์การกระจายเสียงขั้นสูง)*
- AVRCP (โปรไฟล์การควบคุมการเล่นเพลง/วิดีโอ)*
- 3DSP (โปรไฟล์ซิงโครไนซ์ 3D)*
- SPP (โปรไฟล์พอร์ตอนุกรม)
* สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
A2DP และ AVRCP รุ่นที่รองรับจะมี [A/V sync] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก]
Subwoofer ไร้สายของ Sony (อุปกรณ์เสริม) (รุ่นที่รองรับ Subwoofer ไร้สายของ Sony เท่านั้น)
- การเชื่อมต่อ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
- การปรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
การเชื่อมต่อ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
ท่านสามารถใช้อุปกรณ์เสริม Subwoofer ไร้สาย SWF-BR100 เพื่อขยายเสียงทุ้มของทีวีได้
คุณสมบัตินี้จะสามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
ทีวีที่รองรับ Subwoofer ไร้สายจะแสดง “SWF-BR100” ในส่วนข้อมูลจำเพาะของ คู่มืออ้างอิง
- ทรานซิฟเวอร์ไร้สาย
- Subwoofer ไร้สาย SWF-BR100
- สายสัญญาณเสียง
- ต่อสายสัญญาณเสียง (ที่ให้มา) เข้ากับ ทรานซิฟเวอร์ไร้สาย
- เชื่อมต่อปลายสายสัญญาณเสียงอีกด้านเข้ากับพอร์ต (ช่องต่อ) AUDIO OUT / (หูฟัง)ของทีวี
- เชื่อมต่อทรานซิฟเวอร์ไร้สายกับช่อง USB ของทีวี
[หูฟัง/เสียงออก] ถูกตั้งค่าเป็น [Subwoofer] โดยอัตโนมัติ - จัดตำแหน่ง Subwoofer ไร้สาย และเชื่อมต่อเข้ากับสายไฟ AC
เราแนะนำให้วาง Subwoofer ไร้สายไว้ใกล้กับทีวีมากที่สุด
คำแนะนำ
- เมื่อถอดทรานซิฟเวอร์ไร้สายออก [หูฟัง/เสียงออก] จะกลับสู่ค่าเดิมโดยอัตโนมัติ
- สำหรับรายละเอียดของวิธีการปรับตั้ง Subwoofer ไร้สาย ให้ดูคู่มือการใช้งานที่ให้มาด้วยกับ Subwoofer ไร้สาย
การปรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับ Subwoofer ไร้สาย (อุปกรณ์เสริม)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่รองรับ Subwoofer ไร้สายของ Sony มี [พลังงาน Subwoofer ไร้สาย] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก]
การตั้งค่าเสียงของ Subwoofer ไร้สายได้รับการตั้งค่าตามค่าที่แนะนำสำหรับทีวีของท่าน ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าให้เหมาะสมกับความต้องการของท่าน
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [Subwoofer ไร้สาย]
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [ระดับ Subwoofer ไร้สาย]
- ปรับระดับเสียงของ Subwoofer ไร้สาย
- [ความถี่ตัด (50‑200Hz)]
- ปรับความถี่ตัดของ Subwoofer ไร้สาย ความถี่ทั้งหมดที่ต่ำกว่าความถี่ตัดจะส่งสัญญาณไปยัง Subwoofer ไร้สาย
- [เฟส]
- ตั้งค่าขั้วของเฟส เลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับความต้องการของท่าน
- [การซิงค์ Subwoofer ไร้สาย]
- ปรับช่วงเวลาหน่วงของเสียง Subwoofer ไร้สาย หากเสียงที่กำเนิดจาก Subwoofer ไร้สายล่าช้าเกินไป ให้ใช้ [+]; หากเสียงมาเร็วเกินไป ให้ใช้ [-]
- [รีเซ็ตการตั้งค่า Subwoofer ไร้สาย]
- ยกเลิกการตั้งค่า Subwoofer ไร้สาย กลับเป็นค่าเริ่มต้น
การตั้งค่าวิธีควบคุมการเปิด/ปิด Subwoofer ไร้สาย
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [พลังงาน Subwoofer ไร้สาย]
อุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
- ภาพรวมของ BRAVIA Sync
- การใช้งานคุณสมบัติต่างๆ สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
- การปรับการตั้งค่า BRAVIA Sync
ภาพรวมของ BRAVIA Sync
หากอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync(เช่น เครื่องเล่นแผ่น BD AV รีซีฟเวอร์) เชื่อมต่ออยู่ด้วยสาย HDMI ท่านสามารถใช้งานอุปกรณ์ด้วยรีโมทคอนโทรลของ TV ได้
การใช้งานคุณสมบัติต่างๆ สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync
[รายการซิงโครไนซ์] ใช้เพื่อใช้งานอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Syncจากทีวีเป็นหลัก
กดปุ่ม ACTION MENU และเลือก [รายการซิงโครไนซ์]
เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD
- เปิดเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD โดยอัตโนมัติและเปลี่ยนสัญญาณเข้าไปยังเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD เมื่อท่านเลือกจากโฮมเมนูหรือรายการซิงโครไนซ์
- เปิดทีวีโดยอัตโนมัติและเปลี่ยนสัญญาณเข้าไปยังเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่ เมื่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD เริ่มทำงาน
- ปิดเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติ เมื่อท่านปิดทีวี
- ควบคุมการทำงานของเมนู (ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) / (ซ้าย) / (ขวา)), การเล่น (เช่น ปุ่ม (เล่น)) และการเลือกช่องของเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่ผ่านรีโมทคอนโทรลของทีวี
AV รีซีฟเวอร์
- เปิด AV รีซีฟเวอร์ที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติ และเปลี่ยนสัญญาณเสียงออกจากลำโพง TV ไปยังชุดเครื่องเสียงเมื่อท่านเปิด TV ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้เฉพาะในกรณีที่ท่านเคยใช้ AV รีซีฟเวอร์รับสัญญาณเสียงจาก TV เท่านั้น
- เมื่อเปิด AV รีซีฟเวอร์ในขณะที่ TV เปิดอยู่ สัญญาณเสียงจะถูกส่งไปยัง AV รีซีฟเวอร์โดยอัตโนมัติ
- ปิด AV รีซีฟเวอร์ที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติเมื่อท่านปิด TV
- ปรับระดับเสียง (ปุ่ม (ระดับเสียง) +/–) และปิดเสียง (ปุ่ม (ปิดเสียง)) ของ AV รีซีฟเวอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ผ่านรีโมทคอนโทรลของทีวี
กล้องถ่ายวิดีโอ
- เปิดทีวีและเปลี่ยนสัญญาณเข้าไปยังกล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดกล้อง
- ปิดกล้องถ่ายวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่โดยอัตโนมัติเมื่อท่านปิดทีวี
- ควบคุมการทำงานของเมนู (ปุ่ม (ขึ้น) / (ลง) / (ซ้าย) / (ขวา)), การเล่น (เช่น ปุ่ม (เล่น)) ของกล้องวิดีโอที่เชื่อมต่ออยู่ผ่านรีโมทคอนโทรลของทีวี
หมายเหตุ
- “การควบคุม BRAVIA Sync” (BRAVIA Sync) สามารถใช้งานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync ที่เชื่อมต่ออยู่ซึ่งมีโลโก้ BRAVIA Sync
การปรับการตั้งค่า BRAVIA Sync
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- เปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- การเปิดใช้งาน [การควบคุม BRAVIA Sync] ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [การตั้งค่า BRAVIA Sync] — [การควบคุม BRAVIA Sync]
- เปิดใช้งาน BRAVIA Sync บนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ Sony BRAVIA Sync บางรุ่นและเปิดเครื่องพร้อมกับเปิดใช้งาน [การควบคุม BRAVIA Sync] BRAVIA Sync จะทำงานบนอุปกรณ์ดังกล่าวโดยอัตโนมัติ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้ปรากฏขึ้นที่ด้านล่าง (ตัวเลือกจะแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศของท่าน)
- [ปิดอุปกรณ์อัตโนมัติ]
- หากปิดใช้งาน อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่จะไม่ปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดทีวี
- [เปิดทีวีอัตโนมัติ]
- หากปิดใช้งาน ทีวีจะไม่เปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- [รายการอุปกรณ์ BRAVIA Sync]
- แสดงรายการอุปกรณ์ BRAVIA Sync
- [ปุ่มควบคุมเครื่องมือ]
- ช่วยให้ท่านตั้งค่าปุ่มเพื่อควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ HDMI
การใช้งาน รายการซิงโครไนซ์
- กดปุ่ม ACTION MENU เลือก รายการซิงโครไนซ์ แล้วเลือกรายการที่ต้องการใน รายการซิงโครไนซ์
คำแนะนำ
- ในกรณีต่อไปนี้ จะมีข้อความแสดงขึ้นบนหน้าจอทีวีเมื่อคุณเลือก รายการซิงโครไนซ์
- ไม่ได้เชื่อมต่ออุปกรณ์ HDMI
- ปิดใช้งาน [การควบคุม BRAVIA Sync]
การรับชมภาพถ่ายในแบบ 4K จากอุปกรณ์ที่รองรับ (รุ่น 4K เท่านั้น)
- การรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K (รุ่น 4K เท่านั้น)
- การตั้งค่าสำหรับการรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงขึ้น (รุ่น 4K เท่านั้น)
การรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K (รุ่น 4K เท่านั้น)
ท่านสามารถเชื่อมต่อกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอที่รองรับสัญญาณออก HDMI 4K กับ HDMI IN ของทีวีเพื่อแสดงภาพความละเอียดสูงที่เก็บอยู่ในกล้อง นอกจากนี้ท่านยังสามารถแสดงภาพความละเอียดสูงที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB ที่เชื่อมต่อหรือเครือข่ายที่บ้านของท่านได้ ภาพที่มีขนาด 4K หรือมีความละเอียดภาพสูงกว่าสามารถแสดงได้ที่ความละเอียดภาพ 4K (3840×2160)
ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ
- กล้องดิจิตอล
- กล้องวิดีโอ
- อุปกรณ์ USB
- อุปกรณ์เครือข่าย
การรับชมภาพที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ USB หรืออุปกรณ์เครือข่ายที่ความละเอียดภาพ 4K
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ USB หรืออุปกรณ์เครือข่ายเข้ากับทีวี
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู จากนั้นเลือก [เครื่องเล่นสื่อ]
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS ท่านสามารถกดปุ่ม APPS - เลือกชื่ออุปกรณ์ USB หรือชื่ออุปกรณ์เครือข่่าย
- เลือกโฟลเดอร์ จากนั้นเลือกไฟล์เพื่อเล่น
การรับชมภาพที่เก็บอยู่ในกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ
- เชื่อมต่อกล้องดิจิตอลหรือกล้องวิดีโอที่รองรับสัญญาณออก HDMI กับพอร์ต (ช่องต่อ) HDMI IN ของทีวีโดยใช้สาย HDMI
- กดปุ่ม (เลือกอินพุต) ซ้ำๆ เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ตั้งค่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่เป็นสัญญาณออกแบบ 4K
- เริ่มเล่นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
การรับชมภาพที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงกว่า
ท่านสามารถตั้งค่า รูปแบบสัญญาณ HDMI เป็น รูปแบบที่ปรับปรุง เพื่อรับชมภาพที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงกว่า
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ รูปแบบที่ปรับปรุง หรือการเปลี่ยนการตั้งค่า ให้ดูที่หน้า การตั้งค่าสำหรับการรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงขึ้น (รุ่น 4K เท่านั้น)
หมายเหตุ
- ไม่สามารถแสดงภาพ 3D ได้
- หากท่านเปลี่ยนภาพด้วยการกดปุ่ม (ซ้าย) / (ขวา) อาจใช้เวลาสักครู่ในการแสดงภาพ
การตั้งค่าสำหรับการรับชมภาพถ่ายที่ความละเอียดภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูงขึ้น (รุ่น 4K เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
เมื่อท่านจะแสดงภาพที่เป็นรูปแบบ 4K คุณภาพสูงด้วยสัญญาณเข้า HDMI ให้ตั้งค่า [รูปแบบสัญญาณ HDMI] ใน [ช่องต่อเข้า]
รูปแบบสัญญาณ HDMI
การเปลี่ยนการตั้งค่ารูปแบบสัญญาณ HDMI กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [รูปแบบสัญญาณ HDMI]
- รูปแบบมาตรฐาน
- รูปแบบ HDMI มาตรฐาน*1 สำหรับใช้งานทั่วไป
- รูปแบบที่ปรับปรุง (HDMI IN 2/3 เท่านั้น)
- รูปแบบ HDMI คุณภาพสูง*1*2 ตั้งค่าเมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับเท่านั้น
*1 รวม HDR (รุ่น HDR เท่านั้น) รุ่น HDR มี [โหมด HDR] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [ตัวเลือกวิดีโอ]
*2 4K 60p 4:2:0 10 บิต, 4:4:4, 4:2:2 ฯลฯ
หมายเหตุ
- เมื่อใช้งาน รูปแบบที่ปรับปรุง ภาพและเสียงอาจถูกส่งออกมาไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้ ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับ HDMI IN ที่อยู่ใน [รูปแบบมาตรฐาน] หรือเปลี่ยนรูปแบบสัญญาณ HDMI ของ HDMI IN เป็น [รูปแบบมาตรฐาน]
- ตั้งค่าเป็น รูปแบบที่ปรับปรุง เมื่อใช้งานอุปกรณ์ที่รองรับเท่านั้น
- เมื่อท่านรับชมภาพ 4K ที่มีคุณภาพสูง ต้องใช้ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่รองรับความเร็ว 18 Gbps สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่รองรับความเร็ว 18 Gbps ให้ดูข้อมูลจำเพาะของสายนั้นๆ
- ในบางรุ่น รูปแบบสัญญาณ HDMI ของ HDMI IN 2 และ 3 จะเปลี่ยนพร้อมกัน
การเชื่อมต่อกับเครือข่าย
- การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้สาย LAN
- การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
- คุณสมบัติของเครือข่ายที่บ้าน
การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้สาย LAN
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้สาย LAN
การเชื่อมต่อ LAN แบบใช้สายจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายที่บ้านได้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหรือเครือข่ายที่บ้านผ่านเร้าท์เตอร์
คำแนะนำ
- หากท่านใช้โมเด็มที่มีฟังก์ชั่นเร้าท์เตอร์ ท่านไม่จำเป็นต้องเตรียมเร้าท์เตอร์แยกต่างหาก สอบถามผู้ให้บริการของท่านสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลจำเพาะของโมเด็มของท่าน
- สาย LAN
- คอมพิวเตอร์
- เร้าท์เตอร์
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- การตั้งค่าเร้าท์เตอร์ LAN ของท่าน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของเร้าท์เตอร์ LAN ของท่าน หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย)
หมายเหตุ
- การตั้งค่าที่้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือเร้าท์เตอร์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่คู่มือการใช้งานที่ได้มาจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือที่ให้มากับเร้าท์เตอร์ ท่านยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย)
การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
- การใช้ Wi-Fi ในการเชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
- การใช้ Wi-Fi Direct ในการเชื่อมต่อทีวี (ไม่ต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สาย)
การใช้ Wi-Fi ในการเชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
อุปกรณ์ LAN ไร้สายในเครื่องช่วยให้ท่านสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงผ่านเครือข่ายได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณใดๆ
- คอมพิวเตอร์
- เร้าท์เตอร์ไร้สาย
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- ตั้งค่าเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่าน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่าน หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย) - กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต]
- เลือกเครือข่ายที่ท่านต้องการเชื่อมต่อแล้วตั้งรหัสผ่าน
หากทีวีของคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย โปรดดูที่เพจ ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
หากต้องการปิด LAN ไร้สายในเครื่อง
- การปิดใช้งาน [Wi-Fi] ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [Wi-Fi]
คำแนะนำ
- การเล่นวิดีโอสตรีมอย่างราบรื่น:
- เปลี่ยนการตั้งค่าเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่านเป็นมาตรฐานระบบเครือข่ายความเร็วสูง เช่น 802.11n หากสามารถทำได้
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนการตั้งค่า ให้ดูคู่มือการใช้งานของเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่าน หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย) - หากขั้นตอนด้านบนไม่สามารถใช้แก้ไขปัญหาได้ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าของเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่านเป็น 5GHz ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอสตรีม
- แถบคลื่นความถี่ 5GHz อาจไม่สามารถใช้งานได้ ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน หากไม่มีการรองรับแถบคลื่นความถี่ 5GHz จะสามารถเชื่อมต่อทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สายได้โดยใช้แถบคลื่นความถี่ 2.4GHz เท่านั้น
- เปลี่ยนการตั้งค่าเร้าท์เตอร์ไร้สายของท่านเป็นมาตรฐานระบบเครือข่ายความเร็วสูง เช่น 802.11n หากสามารถทำได้
หมายเหตุ
- การตั้งค่าที่้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือเร้าท์เตอร์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่คู่มือการใช้งานที่ได้มาจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือที่ให้มากับเร้าท์เตอร์ ท่านยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่าเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย)
- หากท่านเลือกตัวเลือก [แสดงรหัสผ่าน] ในหน้าจอป้อนรหัสผ่าน รหัสผ่านที่แสดงอยู่นั้นอาจถูกผู้อื่นเห็นได้
การใช้ Wi-Fi Direct ในการเชื่อมต่อทีวี (ไม่ต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สาย)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์กับทีวีแบบไร้สายโดยไม่ต้องใช้เร้าท์เตอร์ไร้สาย จากนั้นสตรีมวิดีโอ ภาพถ่าย และเพลงที่จัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์ของท่านไปยังทีวีโดยตรงได้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [Wi‑Fi Direct] — [การตั้งค่า Wi‑Fi Direct]
- เลือกชื่อทีวีที่ปรากฏบนหน้าจอทีวีด้วยอุปกรณ์ Wi-Fi Direct
หากอุปกรณ์ไม่รองรับ Wi-Fi Direct ให้เลือก [แสดงเครือข่าย (SSID)/รหัสผ่าน] - ใช้งานอุปกรณ์ Wi-Fi Direct/Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่อกับทีวี
- ส่งเนื้อหาจากอุปกรณ์ Wi-Fi Direct/Wi-Fi ไปยังทีวี
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์
หากการเชื่อมต่อไม่สำเร็จ
เมื่อหน้าจอพร้อมใช้งานสำหรับการตั้งค่า Wi-Fi Direct ปรากฏขึ้น ให้เลือก [แสดงเครือข่าย (SSID)/รหัสผ่าน] และปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อทำการตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น
ปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด 10 เครื่อง การเชื่อมต่ออุปกรณ์เพิ่มในขณะที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่แล้ว 10 ตัว ให้ถอดอุปกรณ์ตัวที่ไม่จำเป็นออก จากนั้นจึงเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น
การเปลี่ยนชื่อทีวีที่แสดงบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [เกี่ยวกับ] — [ชื่ออุปกรณ์]
การแสดงรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่/ยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [Wi‑Fi Direct] — [แสดง/ลบรายการเครื่องมือ]
การยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์ ให้เลือกอุปกรณ์จากรายชื่อที่ต้องการลบ จากนั้นกดปุ่ม (Enter) จากนั้นเลือก [ใช่] บนหน้าจอยืนยัน
การยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์ทั้งหมด ให้เลือก [ลบทั้งหมด] จากรายชื่อ จากนั้น [ใช่] ในหน้าจอยืนยัน
คุณสมบัติของเครือข่ายที่บ้าน
- การปรับการตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน
- การเล่นเนื้อหาจากคอมพิวเตอร์
- การเล่นเนื้อหาจากเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูล
การปรับการตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถปรับการตั้งค่าเครือข่ายที่บ้านต่อไปนี้ได้
การตรวจสอบการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [ตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน] — [การวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์] — ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อดำเนินการวิเคราะห์
การใช้ฟังก์ชั่น renderer
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [ตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน] — [Renderer] — ตัวเลือกที่ต้องการ
- [ฟังก์ชั่น Renderer]
- เปิดใช้งานฟังก์ชั่น renderer
- ท่านสามารถเล่นไฟล์ภาพถ่าย/เพลง/วิดีโอที่อยู่ในอุปกรณ์ควบคุม (เช่น กล้องดิจิตอล) บนหน้าจอทีวีได้โดยการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวโดยตรง
- [การควบคุมเข้าถึง Renderer]
- เลือก [สิทธิ์การเข้าถึงอัตโนมัติ] เพื่อเข้าใช้ทีวีโดยอัตโนมัติเมื่ออุปกรณ์ควบคุมเข้าใช้ทีวีครั้งแรก
- เลือก [การตั้งค่าแบบเลือกปรับ] เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าการอนุญาตเข้าใช้ของอุปกรณ์ควบคุมแต่ละชิ้น
การใช้อุปกรณ์รีโมท
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [การตั้งค่าอุปกรณ์รีโมท] — ตัวเลือกที่ต้องการ
- [ควบคุมจากระยะไกล]
- สั่งการทำงานของทีวีจากอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนไว้
- [ยกเลิกลงทะเบียนอุปกรณ์รีโมท]
- ยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์เพื่อปิดใช้การสั่งการทำงานของทีวีจากอุปกรณ์ดังกล่าว
การเล่นเนื้อหาจากคอมพิวเตอร์
ท่านสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหา (ไฟล์รูปภาพ/เพลง/วิดีโอ) ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์เครือข่ายที่อยู่ในห้องอื่น ถ้าท่านเชื่อมต่อ TV เข้ากับเครือข่ายภายในบ้านผ่านทางเราเตอร์
- คอมพิวเตอร์ (เซิร์ฟเวอร์)
- เร้าท์เตอร์
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- เชื่อมต่อทีวีกับเครือข่ายที่บ้านของท่าน
- กดปุ่ม HOME แล้วเลือก (ไอคอน แอป) จากโฮมเมนู จากนั้นเลือก [เครื่องเล่นสื่อ]
หากรีโมทคอนโทรลที่ให้มานั้นมีปุ่ม APPS ท่านสามารถกดปุ่ม APPS - เลือกชื่ออุปกรณ์เครือข่ายอุปกรณ์เครือข่าย
- เลือกโฟลเดอร์ จากนั้นเลือกไฟล์เพื่อเล่น
การตรวจสอบฟอร์แมตของไฟล์ที่สนับสนุน
- ไฟล์และฟอร์แมตที่สนับสนุน
หมายเหตุ
- การเล่นอาจไม่สามารถทำได้แม้ไฟล์จะอยู่ในฟอร์แมตที่สนับสนุนก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไฟล์ดังกล่าว
การเล่นเนื้อหาจากเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูล
ท่านสามารถเล่นไฟล์ภาพถ่าย/เพลง/วิดีโอที่อยู่ในอุปกรณ์ควบคุม (เช่น กล้องดิจิตอล) บนหน้าจอ TV ได้โดยการใช้งานตัวควบคุมดังกล่าวโดยตรง ถ้าท่านเชื่อมต่อTV เข้ากับเครือข่ายภายในบ้านผ่านทางเราเตอร์ อุปกรณ์ควบคุมดังกล่าวควรสนับสนุนการ renderer
- กล้องดิจิตอล (อุปกรณ์ควบคุม)
- เร้าท์เตอร์
- โมเด็ม
- อินเตอร์เน็ต
- เชื่อมต่อทีวีกับเครือข่ายที่บ้านของท่าน
- ใช้งานอุปกรณ์ควบคุมเพื่อเริ่มเล่นเนื้อหาบนหน้าจอทีวี
การตั้งค่า
- การกำหนดค่าทีวี
- การตั้งเวลา
การกำหนดค่าทีวี
เนื้อหาที่แสดงใน จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรุ่น/ท้องที่/ประเทศ
- [การรับชมทีวี] กำหนดค่าการตั้งค่า เช่น [ช่อง]
- [การแสดงผลและการปรับเสียง] กำหนดค่าการตั้งค่า เช่น [ภาพ] และ [การปรับเสียง]
- [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต]
- [บัญชีและการลงชื่อเข้าใช้]
- [แอป]
- [ค่ากำหนดอุปกรณ์] กำหนดค่าการตั้งค่า เช่น [แป้นพิมพ์], [หน้าจอหลัก] และ [การเข้าถึง]
- [รีโมตและอุปกรณ์เสริม] กำหนดค่าการตั้งค่า เช่น [รีโมทคอนโทรล] และ [การตั้งค่า Bluetooth]
- [การตั้งค่าจอภาพขั้นสูง] (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
[การรับชมทีวี]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [ช่อง]
- ปรับการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการรับรายการออกอากาศ
- การปรับจูนช่องสัญญาณดิจิตอล
- การรับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอล
- การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
- การแยกประเภทช่องหรือแก้ไขรายชื่อ รายการ
- [การควบคุมโดยผู้ปกครอง]
- ปรับการตั้งค่าควบคุมระดับสิทธิการเล่นสำหรับการออกอากาศและรายการอื่นๆ
- [ช่องต่อเข้า]
- ปรับการตั้งค่าช่องต่อเข้าและ BRAVIA Sync
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับ BRAVIA Sync โปรดดูที่ อุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync - [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก]
- ปรับการตั้งค่าของอุปกรณ์ HDD USB สำหรับการบันทึก (ตัวเลือกนี้อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ท้องที่/ประเทศ)
[การแสดงผลและการปรับเสียง]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [ภาพ]
- กำหนดค่าการตั้งค่าการแสดงผลที่ปรับคุณภาพของภาพ เช่น ความสว่างหน้าจอ
- [จอภาพ]
- ปรับขนาดและตำแหน่งหน้าจอ
- [การปรับเสียง]
- กำหนดค่าการตั้งค่าที่ปรับเสียง
- [สัญญาณเสียงออก]
- กำหนดค่าการตั้งค่าการเลือกที่เกี่ยวกับลำโพง
[เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต]
กำหนดการตั้งค่าต่างๆ เช่น LAN ไร้สาย, LAN แบบใช้สาย และเครือข่ายที่บ้าน
[บัญชีและการลงชื่อเข้าใช้]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [บัญชีและการลงชื่อเข้าใช้] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [Google]
- ซิงค์บัญชี Google ที่ลงทะเบียนไว้หรือลบบัญชีออก
- [เพิ่มบัญชี]
- เพิ่มบัญชี Google คุณสามารถเพิ่มบัญชี Google หลายบัญชีและใช้สลับกันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่น
[แอป]
ช่วยให้ท่านสามารถกำหนดค่าหรือลบแอป
[ค่ากำหนดอุปกรณ์]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [เกี่ยวกับ]
- แสดงข้อมูลเกี่ยวกับทีวี
- [วันที่และเวลา]
- ปรับเวลาปัจจุบัน
- [ภาษา / Language]
- เลือกภาษาเมนู ภาษาของเมนูที่เลือกถูกจะกำหนดภาษาการจดจำเสียง
- [แป้นพิมพ์]
- ปรับการตั้งค่าของแป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- [เสียง]
- กำหนดการตั้งค่า [เสียงระบบ]
- [ที่เก็บข้อมูล]
- เปลี่ยนการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูล
- [หน้าจอหลัก]
- ปรับตั้งช่องที่แสดงใน [หน้าจอหลัก] และจัดเรียงแอป
- [Google]
- กำหนดการตั้งค่าการค้นหา
- [โปรแกรมรักษาหน้าจอ]
- ปรับการตั้งค่าของภาพพักหน้าจอ
- [ตำแหน่ง]
- ปรับการตั้งค่าตำแหน่งเพื่อรับตำแหน่งของผู้ใช้
- [ความปลอดภัยและข้อจำกัด]
- ข้อจำกัดต่างๆ ในการกำหนดค่า เช่น การป้องกันมิให้เด็กใช้แอปที่เฉพาะเจาจง
- [การเข้าถึง]
- ปรับการตั้งค่าของฟังก์ชั่นการเข้าถึงและบริการสำหรับช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ใช้ใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
- [รีเซ็ต]
- เปลี่ยนทีวีกลับเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
- [ไฟ LED ส่องสว่าง]
- กำหนดการตั้งค่า [ไฟ LED ส่องสว่าง] (ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้กับรุ่นของท่าน)
- [พลังงาน]
- เปลี่ยนการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน
- [การตั้งค่าเริ่มแรก]
- ตั้งค่าคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น เครือข่ายและช่องสัญญาณ สำหรับการใช้งานครั้งแรก
- [การตั้งค่าโหมดร้านค้า]
- ปรับหน้าจอสำหรับการใช้แสดงหน้าร้านด้วยการตั้งค่า [โหมดตัวอย่าง] ฯลฯ
[รีโมตและอุปกรณ์เสริม]
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [รีโมตและอุปกรณ์เสริม] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [การตั้งค่า Bluetooth]
- ตั้งค่าสำหรับการลงทะเบียน/ยกเลิกการลงทะเบียนอุปกรณ์บลูทูธ
- [รีโมทคอนโทรล]
- ตั้งค่าสำหรับการจับคู่รีโมทสั่งงานด้วยเสียง
[การตั้งค่าจอภาพขั้นสูง] (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ตัวเลือกเหล่านี้สามารถใช้งานได้ในรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED และใช้เพื่อป้องกันอาการภาพค้างบนหน้าจอ
หากภาพเดิมปรากฏซ้ำๆ หรือปรากฏเป็นเวลานาน แสดงว่าอาจเกิดอาการภาพค้างบนหน้าจอ
ทีวีมี 2 ฟังก์ชั่น ได้แก่ [เลื่อนพิกเซล] และ [รีเฟรชจอภาพ] ที่ออกแบบมาเพื่อลดอาการภาพค้างบนหน้าจอ
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [การตั้งค่าจอภาพขั้นสูง] — ตัวเลือกที่ต้องการ
ตัวเลือกที่สามารถใช้งานได้
- [เลื่อนพิกเซล]
- เลื่อนภาพที่แสดงเป็นระยะสม่ำเสมอเพื่อป้องกันอาการภาพค้างบนหน้าจอ ในสถานการณ์ปกติ ให้ใช้ทีวีโดยเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ไว้
- [รีเฟรชจอภาพ]
- ทำการรีเฟรชจอภาพด้วยตนเองเฉพาะเมื่ออาการภาพค้างบนหน้าจอสังเกตเห็นได้ชัดเท่านั้น
หมายเหตุ
- ทำการรีเฟรชจอภาพเฉพาะเมื่ออาการภาพค้างบนหน้าจอสังเกตเห็นได้ชัดเท่านั้น โดยควรทำเพียงปีละครั้ง หลีกเลี่ยงการทำมากกว่าปีละครั้ง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานของจอแสดงผลได้
- การรีเฟรชจอภาพใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงจะเสร็จสมบูรณ์ อาจมีเส้นสีขาวปรากฏขึ้นบนหน้าจอในระหว่างการรีเฟรชจอภาพ ซึ่งไม่ใช่การทำงานผิดปกติของทีวี
- ปรับอุณหภูมิเมื่ออยู่ระหว่าง 10°C ถึง 40°C หากอุณหภูมิห้องอยู่นอกช่วงนี้รีเฟรชของแผงอาจไม่สมบูรณ์
การตั้งเวลา
การตั้งเวลาเปิด
การตั้งเวลาเปิดจะเปิดทีวีโดยอัตโนมัติตามเวลาที่ระบุ เช่น เมื่อ รายการ ที่ท่านต้องการชมมาถึง นอกจากนี้ท่านยังสามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุกได้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก (ไอคอน ตั้งเวลา) — [ตั้งเวลาเปิด] — ตัวเลือกที่ต้องการ
การตั้งเวลาปิด
การตั้งเวลาปิดจะปิดทีวีโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก (ไอคอน ตั้งเวลา) — [ตั้งเวลาปิด] — ตัวเลือกที่ต้องการ
หมายเหตุ
- เมื่อท่านปิดทีวีและเปิดใหม่อีกครั้ง [ตั้งเวลาปิด] จะถูกตั้งค่าใหม่เป็น [ปิด]
การแก้ไขปัญหา
- เริ่มที่นี่ ประสบปัญหา? เริ่มที่นี่
- ภาพ (คุณภาพ)/หน้าจอ
- แป้นพิมพ์
- การรับการออกอากาศ
- เสียง
- เครือข่าย (อินเตอร์เน็ต/บ้าน)/แอพพลิเคชั่น
- รีโมทคอนโทรล/อุปกรณ์เสริม
- พลังงาน
- อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- การบันทึก USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- LED
เริ่มที่นี่
- การวินิจฉัยด้วยตนเอง
- การปรับปรุงซอฟต์แวร์
- หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
- คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
การวินิจฉัยด้วยตนเอง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการวินิจฉัยด้วยตนเอง
ให้ตรวจสอบว่า TV ทำงานตามปกติหรือไม่
- กดปุ่ม HELP จากนั้นเลือก [การวิเคราะห์ตัวเอง] หรือ [การวิเคราะห์ปัญหา] — [การวิเคราะห์ตัวเอง]
[การวิเคราะห์ตัวเอง] จะเริ่มทำงาน
คำแนะนำ
นอกจากนี้ท่านยังสามารถตรวจสอบอาการต่อไปนี้ได้ใน หรือ [การวิเคราะห์ปัญหา]
- [ปัญหาการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต]
- [ปัญหาอุปกรณ์ภายนอก]
- [ปัญหาด้านภาพ/เสียง]
หากปัญหายังคงมีอยู่ ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- รีเซ็ต TV (เริ่มระบบใหม่) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่ หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
- ตรวจสอบและลองใช้ การปรับปรุงซอฟต์แวร์
- เว็บไซต์ช่วยเหลือ
การปรับปรุงซอฟต์แวร์
Sony จะมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์เป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มประโยชน์ในการใช้งานและมอบประสบการณ์ทีวีล่าสุดให้แก่ผู้ใช้ วิธีการที่ง่ายที่สุดในการรับการปรับปรุงซอฟต์แวร์คือผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับทีวี
การเปิดดาวน์โหลดซอฟต์แวร์อัตโนมัติ
การเปิดใช้งาน [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ],ให้กดปุ่ม HELP จากนั้นเลือก [อัพเดทซอฟท์แวร์ระบบ] — [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ]
คำแนะนำ
- การปรับปรุงซอฟต์แวร์ด้วยตนเอง ให้เลือก [อัพเดทซอฟท์แวร์]
- หากท่านไม่ต้องการปรับปรุงซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติ ให้ปิดใช้งาน [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ]
หมายเหตุ
- เมื่อ [โหลดซอฟท์แวร์อัตโนมัติ] ปิดใช้งาน ทีวีจะไม่สามารถรับการแจ้งเตือนได้แม้ว่าจะมีการอัพเดตซอฟต์แวร์ก็ตาม
การปรับปรุงซอฟต์แวร์ผ่านอุปกรณ์้เก็บข้อมูล USB
หากท่านไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ท่านสามารถปรับปรุงซอฟต์แวร์ได้โดยใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ใช้คอมพิวเตอร์ของท่านในการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ล่าสุดจากเว็บไซต์ช่วยเหลือ Sony ลงบนอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB เสียบอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ที่ช่อง USB บนทีวี และการปรับปรุงซอฟต์แวร์จะเริ่มโดยอัตโนมัติ
หากท่านจะปรับปรุงซอฟต์แวร์ของทีวีโดยใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB ท่านควรอ่านข้อควรระวังสำหรับการปรับปรุงด้วยอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB บนเว็บไซต์
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ช่วยเหลือ โปรดดูที่หน้า เว็บไซต์ช่วยเหลือ
หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
หากท่านมีปัญหา เช่น ภาพไม่แสดงบนหน้าจอหรือรีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน ให้รีเซ็ต TV โดยปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ หากปัญหายังคงอยู่ ให้ลองขั้นตอนการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานด้านล่างนี้
หากต่ออุปกรณ์ USB ภายนอกเข้ากับ TV ให้ถอดอุปกรณ์ USB ออกจาก TV ก่อนการรีเซ็ต
การรีเซ็ตค่าการใช้พลังงาน
- เริ่มการทำงานของ TV ใหม่ด้วยรีโมทคอนโทรล
กดปุ่มเปิด/ปิดบนรีโมทคอนโทรลค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จนกว่าข้อความ “ปิดเครื่อง” จะปรากฏขึ้น
ทีวีจะปิดและจากนั้นจะเปิดใหม่อีกครั้งโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งนาที - ถอดปลั๊กสายไฟ AC ออก (สายหลัก)
หากยังคงมีปัญหาอยู่หลังจากขั้นตอนที่ 1 ให้ถอดปลั๊กสายไฟของทีวี (สายหลัก) ออกจากเต้าเสียบไฟฟ้า จากนั้นกดปุ่มเปิด/ปิดทีวีแล้วรอประมาณ 2 นาที และเสียบสายไฟ (สายหลัก) กลับเข้าไปในเต้าเสียบไฟฟ้า
คำแนะนำ
การตั้งค่าส่วนบุคคลและข้อมูลของท่านจะไม่สูญหายหลังจากรีสตาร์ท TV
รีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น
หากปัญหายังคงมีอยู่หลังจากที่รีเซ็ตแล้ว ให้ลองรีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น
หมายเหตุ
การรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานจะลบข้อมูลและการตั้งค่าของ TV ทั้งหมด (เช่น Wi-Fi และข้อมูลการตั้งค่าเครือข่ายแบบมีสาย, Google บัญชีและข้อมูลการเข้าสู่ระบบอื่นๆ Google Play และแอปอื่นๆ ที่ติดตั้ง)
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [รีเซ็ต] — [รีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น]
- เลือก [ลบทุกอย่าง]
หากตั้งรหัส PIN ไว้ในทีวี ระบบจะแจ้งให้ท่านป้อนข้อมูลเมื่อเลือก [ลบทุกอย่าง]
หลังจากกระบวนการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีวีจะเปิดใช้วิซาร์ดการตั้งค่าเริ่มต้น คุณต้องยอมรับข้อตกลในการให้บริการของ Google และนโยบายส่วนบุคคลชอง Google
คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหา ท่านสามารถดู “คำถามที่ถูกถามบ่อย” ในเว็บไซต์ช่วยเหลือของเราด้านล่าง
- http://www.sony.net/androidtv-faq/
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหา ท่านสามารถดู คำถามที่ถูกถามบ่อย ในเว็บไซต์ช่วยเหลือของเรา
ภาพ (คุณภาพ)/หน้าจอ
- ไม่มี สี/ภาพมืด/สี เพี้ยน/ภาพสว่างเกินไป
- ภาพบิดเบี้ยว/หน้าจอกะพริบ
- ขนาดของภาพ/รูปแบบหน้าจอ/โหมดจอกว้างโดยอัตโนมัติ
- จอภาพเปลี่ยนเป็นวิดีโอที่ท่านไม่รู้จัก อย่างกะทันหัน ขณะรับชมทีวี
- มีการแจ้งเตือน/ตัวแสดงที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจอ
- ภาพ HDR ความละเอียดสูงจะไม่แสดงขึ้น
- ภาพ 3D ไม่ปรากฏขึ้น เอฟเฟคท์ 3D อ่อน (รุ่น 3D เท่านั้น)
- แถบสีดำจะปรากฏขึ้นที่ขอบทั้งสองด้านของจอภาพเมื่อรับชมภาพแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ท่านไม่สามารถปิดการแสดงผลแบบ 3D ในขณะที่กำลังรับชมเนื้อหา 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ข้อความ [ตรวจจับสัญญาณ 3D] แสดงขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบสัญญาณ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ข้อความเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นขออนุญาตในการเข้าใช้ฟังก์ชั่นทีวีปรากฏขึ้น
- หน้าจอมืดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- ข้อความ [การรีเฟรชจอภาพไม่เสร็จสิ้น] แสดงขึ้น (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- ท่านกังวลเกี่ยวกับอาการภาพค้างบนหน้าจอ (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- เส้นสีขาวปรากฏขึ้นบนหน้าจอ (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- การรีเฟรชจอภาพไม่สมบูรณ์ (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
ไม่มี สี/ภาพมืด/สี เพี้ยน/ภาพสว่างเกินไป
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ปรับโทนสี ความสว่าง คุณภาพของภาพบนทีวีได้จาก [ภาพ]
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ภาพ] เพื่อทำการปรับค่า
- หากท่านต้องการรีเซ็ตการตั้งค่า [ภาพ] ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นจึงเลือก [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [ยกเลิก]
- หากท่านตั้งค่า [ประหยัดพลังงาน] เป็น [น้อย] หรือ [มาก] ระดับสีดำจะเพิ่มขึ้น กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [พลังงาน] — [ประหยัดพลังงาน] เป็น [ปิด] เพื่อเพิ่มความสว่างของหน้าจอ
หมายเหตุ
- คุณภาพของภาพจะขึ้นอยู่กับสัญญาณภาพและรายการ
- คุณภาพของภาพอาจดีขึ้นหากท่านเปลี่ยนใน [ภาพ] ภายใต้ [การตั้งค่า]
กดปุ่ม ACTION MENU เลือก [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] และปรับ [สว่าง] หรือ [ความเปรียบต่าง]
ภาพบิดเบี้ยว/หน้าจอกะพริบ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบการเชื่อมต่อและตำแหน่งของ สายอากาศ (เสาอากาศ) และอุปกรณ์ภายนอก
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อ สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณ
- จัด สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
- เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริม ควรเว้นระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ดังกล่าวกับทีวี
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สายโคแอกเชียล 75 โอห์ม คุณภาพสูงเชื่อมต่อกับ สายอากาศ (เสาอากาศ)
ตรวจสอบการตั้งค่า [เคลื่อนไหว]
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] — [Motionflow] — [ปิด] (สำหรับรุ่นที่รองรับ [Motionflow] เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ [Motionflow] มี [Motionflow] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] - เปลี่ยนการตั้งค่าปัจจุบันของ [โหมดฟิล์ม] เป็น [ปิด]
กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] — [โหมดฟิล์ม] - ตรวจสอบการตั้งค่า [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]- ตั้งค่า [LNA] เป็น [ปิด] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพ ([LNA] อาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์/ภูมิภาค/ประเทศของคุณ)
- ใช้งาน [AFT] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพแบบ อนาล็อก
(อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] ได้ หรือตัวเลือกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศ/สถานการณ์)
ขนาดของภาพ/รูปแบบหน้าจอ/โหมดจอกว้างโดยอัตโนมัติ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถปรับขนาดของภาพได้จาก [จอภาพ]
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [จอภาพ]
- เมื่อเปลี่ยนช่องสถานีหรือสัญญาณวิดีโอเข้า หากเปิดใช้งาน [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ] ใน [จอภาพ] การตั้งค่าปัจจุบันของ [โหมดจอภาพ] จะเปลี่ยนตามสัญญาณเข้าโดยอัตโนมัติ หากต้องการคงการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ให้ปิดใช้งาน [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ]
- ท่านสามารถปรับขนาดของภาพได้จาก [โหมดจอภาพ] ด้วยตนเอง
ตัวอย่างการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] (เมื่อภาพเดิมมีอัตราส่วน 4:3)
- [ปกติ]
แสดงภาพเดิมตามที่เป็น แถบด้านข้างซึ่งเติมเต็มช่องว่างภาพ 4:3 จะแสดงอยู่ที่ด้านซ้ายและขวาของหน้าจอ - [ขยาย]
แสดงภาพ 16:9 ซึ่งแปลงเป็นแบบกล่องจดหมาย 4:3 ด้วยอัตราส่วนที่ถูกต้อง - [ขยายภาพ]
ขยายภาพ รักษาภาพเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
[โหมดจอภาพ] (เมื่อภาพเดิมมีอัตราส่วน 16:9)
ระบบอาจแสดงภาพตามที่ต้องการ แม้ว่าจะมีอัตราส่วน 16:9 เปลี่ยนการตั้งค่าเพื่อสลับไปยังการแสดงผลที่ต้องการ
- [ปกติ]
แสดงภาพ 4:3 ซึ่งขยายตามแนวนอนเป็น 16:9 ด้วยอัตราส่วนที่ถูกต้อง - [ขยาย]
แสดงภาพ 16:9 ซึ่งแปลงเป็นแบบกล่องจดหมาย 4:3 ด้วยอัตราส่วนที่ถูกต้อง - [ขยายภาพ]
ขยายภาพ รักษาภาพเดิมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หมายเหตุ
- [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ] ใน [จอภาพ] เป็น [ขยายภาพ] หรือ [ขยาย] ซึ่งจะมีผลจนกว่าท่านจะเปลี่ยนช่อง/สัญญาณเข้า หรือเปลี่ยนการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง
- [เลือกจอกว้างอัตโนมัติ] ใน [จอภาพ] จะไม่ทำการยืดภาพเมื่อมีการเปลี่ยนเนื้อหาที่ออกอากาศ เนื่องจากข้อมูลในเนื้อหาดังกล่าวถูกควบคุมโดยผู้ให้บริการออกอากาศของช่องดังกล่าว ท่านสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ตามที่ต้องการได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะมีผลจนกว่าท่านจะเปลี่ยนช่อง/สัญญาณเข้า หรือเปลี่ยนการตั้งค่า [โหมดจอภาพ] ด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง
- ขนาดของภาพจะขึ้นอยู่กับสัญญาณภาพ
- ภาพบนจอจะมีขนาดเล็กลงในช่วงภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งมีสาเหตุมาจากวิธีการออกอากาศที่ผู้ให้บริการใช้ เมื่อช่องที่ออกอากาศแบบ HD เปลี่ยนสัญญาณออกอากาศเป็นแบบ SD (ภาพยนตร์โฆษณา) ภาพอาจมีขนาดเล็กลงและมีกรอบสีดำล้อมรอบ
- รายการ บางรายการ ถ่ายทำโดยใช้อัตราส่วนภาพที่มีขนาดใหญ่กว่า 16:9 (ซึ่งเป็นอัตราส่วนภาพปกติสำหรับภาพยนตร์) ทีวีของท่านจะเล่น ภาพ โดยมีแถบสีดำปรากฏให้เห็นอยู่ทางด้านบนและด้านล่างของหน้าจอ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดูที่เอกสารซึ่งให้มาพร้อมกับแผ่น BD/DVD ของท่าน (หรือติดต่อผู้ให้บริการออกอากาศ รายการ ดังกล่าว)
- โดยทั่วไปแล้วรายการ ที่ออกอากาศในฟอร์แมต HD (720p และ 1080i) ซึ่งมีอัตราส่วนภาพ 4:3 จะมีแถบสีดำปรากฏขึ้นทางด้านซ้ายและด้านขวาของหน้าจอ ซึ่งผู้ดำเนินการออกอากาศเป็นผู้เพิ่มเข้าไปเอง
คำแนะนำ
สายบางประเภทและกล่องรับสัญญาณดาวเทียมสามารถควบคุมขนาดของภาพได้ หากท่านใช้กล่องรับสัญญาณ ให้อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณนั้นๆ
จอภาพเปลี่ยนเป็นวิดีโอที่ท่านไม่รู้จัก อย่างกะทันหัน ขณะรับชมทีวี
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีนี้ ทีวีอาจอยู่ในโหมดตัวอย่าง ลองออกจากโหมดตัวอย่าง
- กดปุ่ม HOME บนรีโมทคอนโทรล จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [การตั้งค่าโหมดร้านค้า] ปิดใช้งาน [โหมดตัวอย่าง] และ [โหมดรีเซ็ตภาพ]
มีการแจ้งเตือน/ตัวแสดงที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจอ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีนี้ ทีวีอาจอยู่ในโหมดตัวอย่าง ลองออกจากโหมดตัวอย่าง
- กดปุ่ม HOME บนรีโมทคอนโทรล จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [การตั้งค่าโหมดร้านค้า] ปิดใช้งาน [โหมดตัวอย่าง] และ [โหมดรีเซ็ตภาพ]
ภาพ HDR ความละเอียดสูงจะไม่แสดงขึ้น
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
จำเป็นต้องใช้เพื่อดูภาพ HDR ความละเอียดสูง เช่น 4K (50p/60p)*
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ 4K (50p/60p)* ไปยัง HDMI IN 2/3
- ใช้ Premium High Speed HDMI Cable(s) ที่รองรับ 18 Gbps
- ตั้งค่า [รูปแบบสัญญาณ HDMI] เป็น [รูปแบบที่ปรับปรุง] โดยเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [รูปแบบสัญญาณ HDMI] — [รูปแบบที่ปรับปรุง]
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อมีการตั้งค่าหรือเฟิร์มแวร์ล่าสุดหรือไม่
* สามารถใช้งานได้ในบางรุ่น/ภูมิภาค/ประเทศ
ภาพ 3D ไม่ปรากฏขึ้น เอฟเฟคท์ 3D อ่อน (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง]
- หากแสดงภาพสองภาพแบบซ้าย-ขวา ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [3D] — [การแสดง 3D] — [3D (ซ้าย‑ขวา)]
หากแสดงภาพสองภาพแบบบน-ล่าง ให้กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [3D] — [การแสดง 3D] — [3D (บน-ล่าง)] - หากหน้าจอ [การแสดง 3D] ปรากฏขึ้น และภาพ 3D ไม่ปรากฏขึ้น ให้ปิดอุปกรณ์ที่เล่นเนื้อหา 3D ดังกล่าว แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง
- การมองเห็นเอฟเฟคท์ 3D ของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไป
สำหรับรุ่น 4K
- ไม่สามารถแสดงสัญญาณแบบ 3D ของ 4K ได้
- สำหรับรุ่นแว่นตาสามมิติแบบพาสซีฟ รับชมให้ตรงหน้าจอทีวี เอฟเฟคท์ 3D อาจแสดงออกมาไม่ชัดเจนนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่รับชม ปรับมุมในการรับชมให้ตรงกับหน้าจอ
สำหรับรุ่นแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างทีวีและ แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ใน แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดการทำงานของ แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟแล้ว
- จำเป็นต้องทำการลงทะเบียน แว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ ของท่านกับทีวีก่อนใช้งาน การใช้งานแว่นตานี้กับทีวีเครื่องอื่น จำเป็นต้องทำการลงทะเบียนใหม่ ปิดแว่นตาก่อนทำการลงทะเบียนใหม่
- อุปกรณ์ไร้สายหรือเตาไมโครเวฟอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสารระหว่าง แว่นตาสามมิติ และทีวีเนื่องจากทีวีใช้แบนด์ 2.4GHz ในกรณีนี้ ให้ลองลงทะเบียนอีกครั้ง
- หากเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่รองรับ 3D (เช่น ชุด โฮม เธียเตอร์) ระหว่างทีวีกับอุปกรณ์ที่รองรับ 3D ทีวีจะไม่แสดงภาพ 3D เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ 3D เข้ากับทีวีโดยตรงผ่าน สาย HIGH SPEED HDMI ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งมีโลโก้ HDMI
แถบสีดำจะปรากฏขึ้นที่ขอบทั้งสองด้านของจอภาพเมื่อรับชมภาพแบบ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง]
- แถบสีดำจะปรากฏขึ้นที่ขอบทั้งสองด้านของจอภาพเนื่องจากการประมวลผลสัญญาณ 3D เมื่อทำการปรับความลึกของภาพ 3D ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [การตั้งค่า 3D] — [ปรับความลึก 3D]
ท่านไม่สามารถปิดการแสดงผลแบบ 3D ในขณะที่กำลังรับชมเนื้อหา 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง]
- สำหรับเนื้อหา 3D ที่แสดงด้วยสัญญาณ 3D จะไม่สามารถปิดการแสดงผลแบบ 3D บนทีวีของท่านได้ ปิดการตั้งค่า 3D ของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ (เช่น เครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์)
ข้อความ [ตรวจจับสัญญาณ 3D] แสดงขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบสัญญาณ 3D (รุ่น 3D เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่น 3D มี [การตั้งค่า 3D] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง]
- ยกเลิกการตั้งค่า [การแจ้งสัญญาณ 3D] กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [การตั้งค่า 3D] — [การแจ้งสัญญาณ 3D] — [ปิด]
ข้อความเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นขออนุญาตในการเข้าใช้ฟังก์ชั่นทีวีปรากฏขึ้น
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- เลือกว่าจะอนุญาตการเข้าใช้แอพพลิเคชั่นไปยังฟังก์ชั่นที่แสดงหรือไม่
- ท่านสามารถตรวจสอบรายการของการอนุญาตแอพพลิเคชั่นที่จัดหมวดหมู่ด้วยฟังก์ชั่นทีวี และเปลี่ยนการตั้งค่าการอนุญาตสำหรับแต่ละแอพพลิเคชั่น กดปุ่ม HOME เลือก [การตั้งค่า] — [แอป] — [สิทธิ์ของแอป] — ฟังก์ชั่นทีวีที่ต้องการ
หน้าจอมืดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- หากทั้งภาพหรือบางส่วนของภาพยังคงหยุดนิ่ง หน้าจอจะค่อยๆ มืดขึ้นเพื่อลดอาการภาพค้างบนหน้าจอ ซึ่งเป็นคุณสมบัติในการปกป้องจอแสดงผล ไม่ใช่การทำงานผิดปกติแต่อย่างใด
ข้อความ [การรีเฟรชจอภาพไม่เสร็จสิ้น] แสดงขึ้น (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
การรีเฟรชจอภาพจะทำงานโดยอัตโนมัติหลังจากใช้งานทีวีเป็นเวลานานเพื่อลดอาการภาพค้างบนหน้าจอ หากเปิดทีวี, ถอดสายไฟ AC (สายหลัก) หรืออุณหภูมิโดยรอบไม่ได้อยู่ในช่วงระหว่าง 10°C ถึง 40°C ในระหว่างการรีเฟรชจอภาพ การดำเนินการจะไม่สำเร็จและข้อความนี้จะปรากฏขึ้น
- หากการรีเฟรชจอภาพเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ ขั้นตอนจะเริ่มใหม่อีกครั้งเมื่อปิดทีวีด้วยรีโมทคอนโทรล
- หากเริ่มต้นการรีเฟรชจอภาพด้วยตนเอง ท่านต้องเลือกอีกครั้ง
ท่านกังวลเกี่ยวกับอาการภาพค้างบนหน้าจอ (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
หากภาพเดิมปรากฏซ้ำๆ หรือปรากฏเป็นเวลานาน แสดงว่าอาจเกิดอาการภาพค้างบนหน้าจอ
เพื่อลดอาการภาพค้างบนหน้าจอ เราแนะนำให้ท่านปิดทีวีตามปกติโดยการกดปุ่มเปิดปิดบนรีโมทคอนโทรลหรือทีวี
หมายเหตุ
- ทำการรีเฟรชจอภาพด้วยตนเองเฉพาะเมื่ออาการภาพค้างบนหน้าจอสังเกตเห็นได้ชัดเท่านั้น โดยควรทำเพียงปีละครั้ง หลีกเลี่ยงการทำมากกว่าปีละครั้ง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานของจอแสดงผลได้
- ภาพที่มีนาฬิกาและ สีสัน สดใสทำให้เกิดอาการภาพค้างบนหน้าจอได้ง่าย หลีกเลี่ยงการแสดงภาพลักษณะนี้เป็นเวลานาน มิฉะนั้นอาจเกิดอาการภาพค้างบนหน้าจอได้
เส้นสีขาวปรากฏขึ้นบนหน้าจอ (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- การรีเฟรชจอภาพจะทำงานโดยอัตโนมัติหลังจากใช้งานทีวีเป็นเวลานานเพื่อลดอาการภาพค้างบนหน้าจอ การรีเฟรชจอภาพจะเริ่มต้นหลังจากปิดทีวีและใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงจะเสร็จสมบูรณ์ อาจมีเส้นสีขาวปรากฏขึ้นบนหน้าจอในระหว่างการรีเฟรชจอภาพ ซึ่งไม่ใช่การทำงานผิดปกติของทีวี
การรีเฟรชจอภาพไม่สมบูรณ์ (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- หากอุณหภูมิห้องอยู่นอกช่วงค่า 10°C และ 40°C ในระหว่างการรีเฟรชจอภาพ การดำเนินการจะไม่สำเร็จและข้อความจะแสดงขึ้น หากข้อความแสดงขึ้น ให้ตรวจสอบอุณหภูมิของห้อง
แป้นพิมพ์
ท่านไม่สามารถใช้งานหน้าจอปัจจุบันหลังจากที่แป้นพิมพ์บนหน้าจอปรากฏขึ้น
- การกลับสู่การทำงานของหน้าจอหลังแป้นพิมพ์บนหน้าจอ ให้กดปุ่ม BACK บนรีโมทคอนโทรล
การรับการออกอากาศ
- ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้เป็นลำดับแรกเพื่อแก้ไขปัญหาการรับสัญญาณทีวีของท่าน
- เสียงรบกวนหรือข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏขึ้นและท่านไม่สามารถรับชมการออกอากาศได้
- เกิดภาพซ้อนหรือภาพเลือนลาง
- มีเพียงแต่สัญญาณรบกวนที่มีลักษณะเป็นจุดขาวหรือภาพสีดำเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
- มีภาพหรือเสียงรบกวนเมื่อรับชม ช่องทีวี แบบอนาล็อก
- บางช่องเป็นช่องเปล่า
- การรับสัญญาณไม่ดีหรือคุณภาพของภาพจากการออกอากาศแบบดิจิตอลไม่ดี
- ท่านไม่สามารถรับชมช่องดิจิตอล
- ช่องสัญญาณอนาล็อก ได้รับ การปรับจูนไม่ครบ
- ช่องสัญญาณดิจิตอลบางช่องหายไป
ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้เป็นลำดับแรกเพื่อแก้ไขปัญหาการรับสัญญาณทีวีของท่าน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) เชื่อมต่อกับทีวีอย่างแน่นหนา
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) ไม่หลวมหรือหลุดออก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายหรือขั้วต่อสายของ สายอากาศ (เสาอากาศ) ไม่เสียหาย
- หากต้องการรับชมเนื้อหาแบบสตรีมมิ่ง โปรดเชื่อมต่อทีวีกับอินเตอร์เน็ต
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
เสียงรบกวนหรือข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏขึ้นและท่านไม่สามารถรับชมการออกอากาศได้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) เชื่อมต่อช่องที่ถูกต้อง (ที่ทีวี/อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่/ผนัง)
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายสัญญาณไม่เก่า และภายในของขั้วต่อไม่ลัดวงจร
เกิดภาพซ้อนหรือภาพเลือนลาง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อของสายสัญญาณหรือ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- ตรวจสอบตำแหน่งและทิศทางของ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว] — [Motionflow] — [ปิด]
(สำหรับรุ่นที่รองรับ [Motionflow] เท่านั้น)
รุ่นที่รองรับ [Motionflow] มี [Motionflow] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [ภาพ] — [การตั้งค่าขั้นสูง] — [เคลื่อนไหว]
มีเพียงแต่สัญญาณรบกวนที่มีลักษณะเป็นจุดขาวหรือภาพสีดำเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
- ตรวจสอบว่าได้ทำการปรับจูนอัตโนมัติหรือไม่
- ตรวจสอบว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) ขาดหรือหักหรือไม่
- ตรวจสอบว่า สายอากาศ (เสาอากาศ) เสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ (3-5 ปี สำหรับการใช้งานปกติ, 1-2 ปี สำหรับการใช้งานใกล้ทะเล)
มีภาพหรือเสียงรบกวนเมื่อรับชม ช่องทีวี แบบอนาล็อก
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบการตั้งค่า [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง]
- ใช้งาน [AFT] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพและเสียง (ชื่อตัวเลือกอาจแตกต่างกันไปตามท้องที่/ประเทศ)
- ตั้งค่า [ตัวกรองเสียง] เป็น [ปิด], [น้อย] หรือ [มาก] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณเสียงแบบ อนาล็อก
- ตั้งค่า [LNA] เป็น [ปิด] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณภาพ ([LNA] อาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์/ภูมิภาค/ประเทศของคุณ)
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สายโคแอกเชียล 75 โอห์ม คุณภาพสูงเชื่อมต่อกับ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- ขยับ สายอากาศ (เสาอากาศ) ให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
บางช่องเป็นช่องเปล่า
- ช่องดังกล่าวเป็นช่องที่ต้องจ่ายค่าบริการ/ให้บริการเฉพาะสมาชิกเท่านั้น โปรดสมัครเป็นสมาชิกและเสียค่าธรรมเนียมในการรับชม
- ช่องดังกล่าวใช้สำหรับข้อมูลเท่านั้น (ไม่มีภาพและเสียง)
- โปรดติดต่อสถานีออกอากาศเพื่อสอบถามรายละเอียดในการถ่ายทอดสัญญาณ
การรับสัญญาณไม่ดีหรือคุณภาพของภาพจากการออกอากาศแบบดิจิตอลไม่ดี
- ปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ทิศทาง และมุมของสายอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (เสาอากาศ) เพื่อ เพิ่ม ระดับ สัญญาณสายอากาศ (เสาอากาศ) ให้สูงที่สุด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทิศทางของ สายอากาศ (เสาอากาศ) จะไม่เปลี่ยนโดยไม่ตั้งใจ (เช่น โดยแรงลม)
- หากท่านกำลังใช้เครื่องขยายสัญญาณทีวี ให้ปรับตัวรับสัญญาณ
- หากมีอุปกรณ์ (เช่น เครื่องกระจายสัญญาณทีวี) เชื่อมต่อระหว่าง สายอากาศ (เสาอากาศ) กับทีวี อาจส่งผลต่อการรับสัญญาณทีวี เชื่อมต่อ สายอากาศ (เสาอากาศ) และทีวีโดยตรงเพื่อตรวจสอบว่าการรับสัญญาณดีขึ้นหรือไม่
ท่านไม่สามารถรับชมช่องดิจิตอล
- โปรดสอบถามจากผู้ให้บริการติดตั้งในพื้นที่ว่ามีการให้บริการถ่ายทอดสัญญาณแบบดิจิตอลในพื้นที่ของท่านหรือไม่
- เปลี่ยนไปใช้ สายอากาศ (เสาอากาศ)ที่มีคุณสมบัติในการรับสัญญาณที่ดีกว่านี้
ช่องสัญญาณอนาล็อก ได้รับ การปรับจูนไม่ครบ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- พยายามปรับจูนช่องด้วยตนเอง โดยการปรับตั้งการตั้งค่า กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] (อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] และตัวเลือกได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิภาค/ประเทศ/สถานการณ์ของคุณ)
ช่องสัญญาณดิจิตอลบางช่องหายไป
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
การเปลี่ยนช่วงการปรับจูน (ใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ)
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [ดิจิตอลจูนนิ่ง] — [ช่วงการปรับช่องอัตโนมัติ]
- [ปกติ]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ภายในท้องที่/ประเทศของท่าน
- [เต็ม]
- ค้นหาช่องที่สามารถรับชมได้ไม่ว่าจะเป็นท้องที่/ประเทศใด
การปรับปรุงบริการดิจิตอล
ท่านสามารถดำเนินการ [การปรับอัตโนมัติ] หลังจากย้ายไปยังที่พักอาศัยใหม่ เปลี่ยนผู้ให้บริการ หรือเพื่อค้นหาช่องที่เพิ่งเปิดใหม่ได้
การปรับตั้งการปรับปรุงบริการอัตโนมัติ
เราแนะนำให้ท่านตั้งค่า [อัพเดทการบริการอัตโนมัติ] เป็น [เปิด] เพื่อให้สามารถเพิ่มบริการดิจิตอลใหม่ๆ โดยอัตโนมัติเมื่อสามารถใช้งานได้
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [ตั้งค่าดิจิตอล] — [การตั้งค่าเทคนิค] — [อัพเดทการบริการอัตโนมัติ] — [เปิด]
หากปิดใช้งาน ท่านจะได้รับการแจ้งเมื่อมีบริการดิจิตอลใหม่ๆ ด้วยข้อความบนหน้าจอ และบริการเหล่านี้จะไม่เพิ่มเข้ามาโดยอัตโนมัติ
คำแนะนำ
- ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ หากไม่สามารถใช้งานได้ ให้ใช้งาน [การปรับอัตโนมัติ] เพื่อเพิ่มบริการใหม่ๆ
เสียง
- ไม่มีเสียงแต่ภาพคมชัด
- เสียงรบกวน
- ไม่มีเสียงหรือเสียงเบาเมื่อใช้กับ ชุด โฮมเธียเตอร์
- เสียงเพี้ยน
- ท่านต้องการส่งเสียงออกจากทั้งหูฟัง/อุปกรณ์เสียงบลูทูธ/ระบบเสียง และลำโพงทีวี
- ไม่สามารถปรับระดับเสียงของหูฟัง/อุปกรณ์เสียงบลูทูธได้
- ท่านกังวลเกี่ยวกับการหน่วงระหว่างภาพกับเสียง
ไม่มีเสียงแต่ภาพคมชัด
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบที่ปุ่มปรับระดับเสียง
- กดปุ่ม (ปิดเสียง) หรือปุ่ม (ระดับเสียง) + เพื่อยกเลิกการปิดเสียง
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ลำโพง] — [ลำโพงทีวี]
- ถอดหูฟังออก
เสียงรบกวน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้สายโคแอกเชียล 75 โอห์ม คุณภาพสูงเชื่อมต่อกับ สายอากาศ (เสาอากาศ)
- ขยับ สายอากาศ (เสาอากาศ) ให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
- เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนทีวี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้ สายอากาศ (เสาอากาศ) ที่ไม่ชำรุดเสียหาย
ไม่มีเสียงหรือเสียงเบาเมื่อใช้กับ ชุด โฮมเธียเตอร์
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [ลำโพง] — [เครื่องเสียง]
- ตั้งค่า [หูฟัง/เสียงออก] เป็น [เสียงออก (คงที่)] ในการตั้งค่า [สัญญาณเสียงออก]
- หากเครื่องเสียงไม่รองรับ Dolby Digital หรือ DTS ให้ตั้งค่า [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] เป็น [PCM]
- หากท่านเลือกช่องสัญญาณอนาล็อก (RF) และระบบแสดงภาพไม่ถูกต้อง ท่านจะต้องเปลี่ยนระบบออกอากาศของทีวี กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่อง] — [ตั้งค่าช่อง] — [การตั้งค่าอนาล็อก] — [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] — [ระบบทีวี] (อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] ได้ หรือชื่อตัวเลือกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศ/สถานการณ์)
- ในบางรุ่น หากตั้งค่า [ลำโพง] เป็น [ลำโพงทีวี] และตั้งค่า [การเพิ่มคุณภาพความละเอียดสูง (DSEE HX)] เป็น [อัตโนมัติ] จะไม่มีเสียงออกจาก DIGITAL AUDIO OUT (OPTICAL)
- ตรวจสอบว่าการตั้งค่า [ระดับช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] ของทีวีอยู่ในระดับสูงสุด
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก:
[การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [ระดับช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] - เมื่อใช้งานช่องสัญญาณเข้า HDMI พร้อมกับ Super Audio CD หรือ DVD-Audio DIGITAL AUDIO OUT (OPTICAL) อาจไม่มีสัญญาณเสียงส่งออกมา
เสียงเพี้ยน
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อ สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณ
- จัด สายอากาศ (เสาอากาศ)/สายสัญญาณให้ห่างจากสายสัญญาณเชื่อมต่ออื่นๆ
- วางทีวีไว้ในตำแหน่งที่ห่างจากแหล่งปล่อยสัญญาณไฟฟ้ารบกวน เช่น รถยนต์, เครื่องเป่าผม, อุปกรณ์ Wi-Fi, โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ออพติคอล
- เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริม ควรเว้นระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ดังกล่าวกับทีวี
- ใช้งาน [AFT] ใน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณเสียงแบบ อนาล็อก
(อาจไม่สามารถใช้งาน [การตั้งค่าช่องล่วงหน้าแบบปรับเอง] ได้ หรือตัวเลือกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศ/สถานการณ์) - ตั้งค่า [ตัวกรองเสียง] เป็น [น้อย] หรือ [มาก] เพื่อปรับปรุงการรับสัญญาณเสียงแบบ อนาล็อก ([ตัวกรองเสียง] อาจไม่สามารถใช้งานได้ในบางท้องที่/ประเทศ)
ท่านต้องการส่งเสียงออกจากทั้งหูฟัง/อุปกรณ์เสียงบลูทูธ/ระบบเสียง และลำโพงทีวี
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
หากต้องการส่งเสียงออกจากทั้งหูฟัง/อุปกรณ์เสียงบลูทูธและลำโพงทีวี
สามารถส่งออกเสียงจากหูฟังหรืออุปกรณ์เสียงบลูทูธและลำโพงทีวีได้โดยการตั้งค่าต่อไปนี้ ทว่าวิธีการตั้งค่าจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าทีวีดังกล่าวเป็นรุ่นที่รองรับ A2DP หรือไม่
รุ่นที่รองรับ A2DP ที่สามารถใช้อุปกรณ์เสียงบลูทูธได้จะมีคำสั่ง [A/V sync] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก]
หากทีวีไม่ใช่รุ่นที่รองรับ A2DP
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [เฮดโฟนเชื่อมต่อลำโพง] — [ปิด] เพื่อส่งออกเสียงจากทั้งอุปกรณ์ที่ต่อเข้ากับสายแจ๊คหูฟังและลำโพงทีวี
อุปกรณ์เสียงบลูทูธ เช่น หูฟังบลูทูธ ไม่สามารถใช้ได้
หากทีวีเป็นรุ่นที่รองรับ A2DP
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [เสียงไปยังทั้งลำโพงทีวีและอุปกรณ์อื่นๆ] เพื่อเปิดใช้งานและส่งออกเสียงจากทั้งอุปกรณ์ที่ต่อเข้ากับสายแจ๊คหูฟังหรือหูฟังบลูทูธและลำโพงทีวี
เพื่อส่งเสียงจากทั้งระบบเสียงที่เชื่อมต่อผ่าน ARC และลำโพงทีวี
เสียงสามารถออกจากทั้งระบบเสียงที่เชื่อมต่อกับทีวีและลำโพงทีวีได้ในเวลาเดียวกันโดยปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- เชื่อมต่อ TV และเครื่องเสียงด้วยสายดิจิตอลออพติคอล
- ตั้งค่า [ช่องต่อออกของสัญญาณเสียงดิจิตอล] กับ [PCM]
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อสายเคเบิลแบบดิจิตอลโปรดดูที่หน้า การเชื่อมต่อเครื่องเสียง
ไม่สามารถปรับระดับเสียงของหูฟัง/อุปกรณ์เสียงบลูทูธได้
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- หากท่านไม่สามารถปรับระดับเสียงของหูฟังหรืออุปกรณ์เสียงบลูทูธด้วยปุ่ม (ระดับเสียง) +/- ได้ ให้กดปุ่ม ACTION MENU และเลือก [ระดับเสียงหูฟัง]/[ระดับ Bluetooth]
รุ่นที่รองรับบลูทูธ A2DP ที่สามารถใช้อุปกรณ์เสียงบลูทูธได้มี [A/V sync] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก]
ท่านกังวลเกี่ยวกับการหน่วงระหว่างภาพกับเสียง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
หากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสียงบลูทูธ
ภาพกับเสียงจะไม่ตรงกันเนื่องจากเกิดการหน่วงเสียงซึ่งเป็นคุณลักษณะของบลูทูธ ท่านสามารถปรับเวลาแสดงภาพและเสียงได้ด้วยการตั้งค่า A/V sync
- การเปิดใช้งาน [A/V sync] ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [A/V sync]
หากเชื่อมต่อเครื่องเสียงที่กำหนดด้วยสาย HDMI
ท่านสามารถปรับเวลาแสดงภาพและเสียงได้ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับรุ่นที่รองรับ ให้ดูเว็บไซต์ช่วยเหลือ
- เว็บไซต์ช่วยเหลือ
เครือข่าย (อินเตอร์เน็ต/บ้าน)/แอพพลิเคชั่น
- ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
- คุณภาพของภาพและ/หรือเสียงจากแอปสตรีมมิ่งไม่ค่อยดี
- ทีวีของท่านไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
- คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ แต่ไม่ใช่แอปและบริการบางอย่าง
ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต/เครือข่าย
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
หากไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สายหรือมีการยกเลิกการเชื่อมต่อ โปรดลองทำดังนี้
- กดปุ่ม HOME และตรวจสอบให้แน่ในว่ามีการเปิดใช้งานการตั้งค่าดังต่อไปนี้
[การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [Wi-Fi] - ตรวจสอบตำแหน่งติดตั้งของทีวีและเร้าท์เตอร์ไร้สาย สภาพสัญญาณอาจได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้:
- มีอุปกรณ์ไร้สายอื่น, เตาไมโครเวฟ, หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ฯลฯ วางอยู่ใกล้เคียง
- มีพื้นหรือผนังขวางระหว่างเร้าท์เตอร์ไร้สายกับทีวี
- ปิดเร้าท์เตอร์ไร้สายแล้วลองใหม่อีกครั้ง
- หากระบบไม่แสดงชื่อเครือข่าย (SSID) ของเร้าท์เตอร์ไร้สายที่ท่านต้องการเชื่อมต่อ โปรดเลือก [[ใส่ค่าเอง]] เพื่อป้อนชื่อเครือข่าย (SSID)
หากปัญหายังคงอยู่หลังจากทำตามขันตอนข้างต้น หรือท่านไม่สามารถเชื่อมต่อได้แม้กับเครือข่ายแบบมีสาย โปรดตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อเครือข่าย
การตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อเครือข่าย
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [สถานะเครือข่าย] — [ตรวจสอบการเชื่อมต่อ]
ตรวจสอบการเชื่อมต่อกับเครือข่ายของท่าน และ/หรือ ข้อมูลการเชื่อมต่อในคู่มือการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้ทำการตั้งค่ากับเครือข่าย (ผู้ดูแลระบบเครือข่าย)
คำแนะนำ
- วิธีแก้ไขปัญหาจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบสถานะเครือข่าย สำหรับวิธีแก้ไขแต่ละปัญหา โปรดดูที่ “คำถามที่ถูกถามบ่อย” บนเว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
หมายเหตุ
- ถ้าเชื่อมต่อสาย LAN เข้ากับเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานอยู่และทีวีได้รับไอพีแอดเดรสแล้ว ให้ท่านตรวจสอบการเชื่อมต่อและการปรับตั้งค่าของเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูลของท่าน
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [สถานะเครือข่าย]
คุณภาพของภาพและ/หรือเสียงจากแอปสตรีมมิ่งไม่ค่อยดี
- คุณภาพขึ้นอยู่กับวิดีโอต้นฉบับจากผู้ให้บริการเนื้อหาวิดีโอและแบนด์วิธการเชื่อมต่อของท่าน
- หากต้องการรับชมวิดีโอสตรีมบนอินเตอร์เน็ต จะต้องใช้เครือข่ายที่มีความเร็วและเสถียร โดยทั่วไป ความเร็วที่จำเป็นต้องใช้มีดังต่อไปนี้:
- การสตรีมมิ่งอินเทอร์เน็ตวิดีโอแบบ Standard Definition (SD): 2.5 Mbps
- การสตรีมมิ่งอินเทอร์เน็ตวิดีโอแบบ High Definition (HD): 10 Mbps
- การสตรีมมิ่งอินเทอร์เน็ตวิดีโอแบบ Ultra HD (4K): 25 Mbps
- คุณภาพของการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับระยะห่างหรือสิ่งกีดขวาง (เช่น ผนัง) ระหว่างทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สาย สัญญาณรบกวนในสภาพแวดล้อม และคุณภาพของเร้าท์เตอร์ไร้สาย ในกรณีนี้ ให้ใช้การเชื่อมต่อแบบใช้สายสำหรับอินเตอร์เน็ต หรือใช้แถบคลื่นความถี่ 5GHz
- แถบคลื่นความถี่ 5GHz อาจไม่สามารถใช้งานได้ ขึ้นอยู่กับท้องที่/ประเทศของท่าน หากไม่มีการรองรับแถบคลื่นความถี่ 5GHz จะสามารถเชื่อมต่อทีวีกับเร้าท์เตอร์ไร้สายได้โดยใช้แถบคลื่นความถี่ 2.4GHz เท่านั้น
- ขณะใช้เครือข่ายไร้สาย โปรดวางอุปกรณ์ไร้สายไว้ใกล้กันหรือหลีกเลี่ยงการกีดขวาง
- วางอุปกรณ์ต่างๆ ที่ปล่อยสัญญาณรบกวนแบบ RF (เช่น ไม่โครเวฟ) ให้ออกห่างจากีวีและเร้าท์เตอร์ไร้สาย หรือปิดอุปกรณ์ดังกล่าว
- ระบบจะไม่ส่งสัญญาณเสียงออกสำหรับวิดีโอที่ไม่มีเสียง
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
ทีวีของท่านไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อแบบไร้สายหรือสาย LAN ที่ต่อเข้ากับเซิร์ฟเวอร์และทีวีของท่าน
- ตรวจสอบว่าการปรับตั้งค่าเครือข่ายที่ทีวีของท่านถูกต้องหรือไม่
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย/สาย LAN ของท่าน หรือเซิร์ฟเวอร์ของท่าน สัญญาณการเชื่อมต่อระหว่างทีวีและเซิร์ฟเวอร์อาจหลุด
- ใช้งาน [การวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์] เพื่อตรวจสอบว่าเซิร์ฟเวอร์สื่อข้อมูลของท่านสามารถสื่อสารกับทีวีได้อย่างถูกต้องหรือไม่ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต] — [ตั้งค่าเครือข่ายที่บ้าน] — [การวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์]
คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ แต่ไม่ใช่แอปและบริการบางอย่าง
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- การตั้งค่าวันที่และเวลาของทีวีเครื่องนี้อาจไม่ถูกต้อง คุณอาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอปและบริการเหล่านี้ได้หากขึ้นอยู่กับแอปและบริการบางอย่างหากเวลาไม่ถูกต้อง
หากเวลาไม่ถูกต้อง ให้กดปุ่ม HOME แล้วเลือก [การตั้งค่า] — เพื่อเปิดใช้ [ใช้เวลาของเครือข่าย] ใน [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [วันที่และเวลา] — [วันที่และเวลาอัตโนมัติ] - ตรวจสอบว่าสาย LAN หรือสายไฟ AC (สายหลัก) ของเร้าท์เตอร์/โมเด็ม* ได้เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง
* เร้าท์เตอร์/โมเด็มของท่านต้องได้รับการตั้งค่าเพื่อเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเสียก่อน ติดต่อผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของท่านสำหรับการตั้งค่าเร้าท์เตอร์/โมเด็ม - ให้ลองใช้แอพพลิเคชั่นในครั้งถัดไป เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการเนื้อหาแอพพลิเคชั่นอาจยังไม่เปิดบริการ
คำแนะนำ
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Sony
เว็บไซต์ช่วยเหลือ
รีโมทคอนโทรล/อุปกรณ์เสริม
- รีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน
- ท่านไม่สามารถเปิดแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ (รุ่น 3D เท่านั้น)
- ไฟ LED บนแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟกะพริบ (รุ่น 3D เท่านั้น)
รีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ให้ตรวจสอบว่าทีวีทำงานตามปกติหรือไม่
- กดปุ่มเปิด/ปิดบนทีวีเพื่อตรวจดูว่าปัญหาดังกล่าวเป็นที่รีโมทคอนโทรลหรือไม่ สำหรับตำแหน่งของปุ่มเปิด/ปิด โปรดดูที่ คู่มืออ้างอิง ที่ให้มาพร้อมกับทีวี
- หากทีวีไม่ทำงาน ให้ลองทำการรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง
หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
ให้ตรวจสอบว่ารีโมทคอนโทรลทำงานได้ตามปกติหรือไม่
- หันรีโมทคอนโทรลไปที่เซ็นเซอร์รีโมทคอนโทรลบริเวณด้านหน้าของทีวี
- ตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งกีดขวางอยู่ที่บริเวณเซ็นเซอร์รีโมท
- แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์อาจรบกวนการทำงานของรีโมทคอนโทรล ทดลองปิดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทิศทางของแบตเตอรี่ตรงกับสัญลักษณ์บวก (+) และลบ (-) ในช่องบรรจุแบตเตอรี่
- แบตเตอรี่อาจมีพลังงานต่ำ ถอดฝาครอบรีโมทคอนโทรลออกและเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
- แบบเลื่อน
- แบบกด-ปล่อย
- แบบเลื่อน
หมายเหตุ
- มีรีโมทคอนโทรลบลูทูธซึ่งจับคู่กับทีวีมาให้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของคุณ ระหว่างการจัดส่ง จะไม่สามารถใช้รีโมทคอนโทรลที่จับคู่ซึ่งให้มาด้วยควบคุมทีวีเครื่องอื่นได้ ในการตรวจสอบการทำงานของรีโมทคอนโทรล ให้ใช้งานร่วมกับทีวีที่ให้มาคู่กับรีโมทคอนโทรลดังกล่าว
การรีเซ็ตรีโมทคอนโทรล
หากรีโมทคอนโทรลทำงานไม่ถูกต้องเนื่องจากหน้าสัมผัสของแบตเตอรี่ไม่ดีหรือมีไฟฟ้าสถิตย์ อาจสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยทำการรีเซ็ตรีโมทคอนโทรล
- ถอดแบตเตอรี่ออกจากรีโมทคอนโทรล
- กดปุ่มเปิด/ปิดของรีโมทคอนโทรลประมาณสามวินาที
- ใส่แบตเตอรี่ใหม่ลงในรีโมทคอนโทรล
หากปัญหายังคงอยู่ โปรดดูที่หน้า หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง) และ คำถามที่ถูกถามบ่อยสำหรับการแก้ไขปัญหา
หมายเหตุ
- เมื่อท่านถอดปลั๊กและเสียบปลั๊กทีวีอีกครั้ง ท่านอาจไม่สามารถเปิดทีวีได้ชั่วขณะแม้ว่าท่านจะกดปุ่มเปิดปิดบนรีโมทคอนโทรลหรือทีวี เนื่องจากการ เริ่มต้น ระบบจำเป็นต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง รอเป็นเวลา 10 ถึง 20 วินาที จากนั้นให้ทดลองอีกครั้ง
- เมื่อท่านไม่สามารถค้นหาโดยใช้เสียงของท่าน ให้เปิดใช้งาน ปุ่ม (ไมโครโฟน) โดยการกดปุ่ม HOME และเลือก [การตั้งค่า] — [รีโมตและอุปกรณ์เสริม] — [รีโมทคอนโทรล]
ท่านไม่สามารถเปิดแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟ (รุ่น 3D เท่านั้น)
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ (ใช้ร่วมกับ TDG-BT400A/BT500A เท่านั้น)
- กดปุ่มปลดล็อกโดยใช้ปลายปากกา เป็นต้น แล้วดึงถาดใส่แบตเตอรี่ออก
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ หลังจากนั้น อย่าลืมใส่ถาดใส่แบตเตอรี่จนกระทั่งล็อกเข้าที่อีกครั้ง
- CR2025 ด้าน (-)
- กดปุ่มปลดล็อกโดยใช้ปลายปากกา เป็นต้น แล้วดึงถาดใส่แบตเตอรี่ออก
ไฟ LED บนแว่นตาสามมิติแบบแอคทีฟกะพริบ (รุ่น 3D เท่านั้น)
- สว่างขึ้น 3 วินาที: แสดงให้ทราบเมื่อเปิดแว่นตา
- กะพริบทุก 2 วินาที: แสดงว่าเปิดแว่นตาแล้ว
- กะพริบ 3 ครั้ง: แสดงว่าได้ปิดแว่นตาแล้ว
- กะพริบเป็นสีเขียวและสีเหลืองสลับกัน: แสดงว่าแว่นตาได้เริ่มการลงทะเบียน
- กะพริบ 3 ครั้งทุก 2 วินาที: แสดงว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมด เปลี่ยนแบตเตอรี่
พลังงาน
- ทีวีปิดเองโดยอัตโนมัติ
- ทีวีเปิดเองโดยอัตโนมัติ
- หลังจากเปิดทีวี ทีวีปิดในทันที (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
- ไม่สามารถเปิด TV ได้
ทีวีปิดเองโดยอัตโนมัติ
- หน้าจออาจถูกปิดเนื่องจากการตั้งค่า [ตั้งเวลาปิด]
- ตรวจสอบการตั้งค่า [ระยะเวลา] ของ [ตั้งเวลาเปิด]
- ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้งาน [ระบบปิดทีวีขณะไม่ใช้งาน] ใน [พลังงาน] หรือไม่
- หน้าจออาจถูกปิดเนื่องจากการตั้งค่า [โปรแกรมรักษาหน้าจอ]
ทีวีเปิดเองโดยอัตโนมัติ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้งาน [ตั้งเวลาเปิด] หรือไม่
- ปิดการตั้งค่า [เปิดทีวีอัตโนมัติ] ใน [การตั้งค่า BRAVIA Sync]
หลังจากเปิดทีวี ทีวีปิดในทันที (เฉพาะรุ่นที่ติดตั้งจอแสดงผล OLED)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีนี้ ทีวีอาจอยู่ในโหมดรีเซ็ตภาพ เมื่อเปิดใช้งานโหมดรีเซ็ตภาพแล้ว ทีวีจะปิดประมาณ 10 นาทีหลังจากที่เปิด จากนั้นจะเปิดอีกครั้งเพื่อลดอาการภาพค้างบนหน้าจอ ซึ่งไม่ใช่การทำงานผิดปกติของทีวี
เปิดทีวีอีกครั้งโดยใช้รีโมทคอนโทรลและปิดใช้งานโหมดรีเซ็ตภาพ
- กดปุ่ม HOME บนรีโมทคอนโทรล จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [การตั้งค่าโหมดร้านค้า] ปิดใช้งาน [โหมดรีเซ็ตภาพ]
ไม่สามารถเปิด TV ได้
ทำตามขั้นตอนตามลำดับด้านล่างจนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้
1. ตรวจสอบว่าเปิด TV ด้วยรีโมทคอนโทรลได้หรือไม่
ชี้รีโมทคอนโทรลไปที่เซนเซอร์ที่ด้านหน้าของ TV และกดปุ่มเปิด/ปิดบนรีโมทคอนโทรล
ตรวจสอบว่า TV เปิดหรือไฟ LED ส่องสว่างขึ้นหรือไม่
หากไฟ LED ส่องสว่างขึ้นแต่ TV ไม่เปิด ให้ลองรีเซ็ต TV (เปิดใหม่อีกครั้ง)
- หากจำเป็นต้องตั้งค่าทีวีใหม่ทั้งหมด (เปิดใหม่อีกครั้ง)
2. ตรวจสอบว่าเปิด TV ด้วยปุ่มเปิด/ปิดบน TV ได้หรือไม่
กดปุ่มเปิด/ปิดบน TV และตรวจสอบว่า TV เปิดอยู่หรือไม่ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องอยู่ที่ด้านข้างหรือด้านหลังของ TV
สำหรับรายละเอียด ให้ดูที่ คู่มืออ้างอิง ของ TV
หาก TV เปิดเครื่องตามขั้นตอนนี้ อาจเกิดปัญหากับรีโมทคอนโทรล โปรดดูที่หัวข้อต่อไปนี้
- รีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน
3. ถอดปลั๊กสายไฟ AC ออก (สายหลัก)
ถอดปลั๊กสายไฟทีวี (สายหลัก) ออกจากเต้าเสียบไฟฟ้า จากนั้นกดปุ่มเปิด/ปิดทีวีแล้วรอประมาณ 2 นาที และเสียบสายไฟ (สายหลัก) กลับเข้าไปในเต้าเสียบไฟฟ้า
คำแนะนำ
- เมื่อท่านถอดปลั๊กและเสียบปลั๊ก TV อีกครั้ง ท่านอาจไม่สามารถเปิด TV ได้ชั่วขณะแม้ว่าท่านจะกดปุ่มเปิด/ปิดบนรีโมทคอนโทรลหรือ TV เนื่องจากการ เริ่มต้น ระบบจำเป็นต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง รอเป็นเวลา 10 ถึง 20 วินาที จากนั้นให้ทดลองอีกครั้ง
อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ไม่มีภาพจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ท่านไม่สามารถเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ได้ในโฮมเมนู
- บาง รายการ ของแหล่งสัญญาณดิจิตอลมีการสูญเสียรายละเอียด
- ใช้เวลาสักครู่ในการแสดงภาพถ่ายหรือโฟลเดอร์
- ท่านไม่สามารถค้นหาอุปกรณ์ BRAVIA Sync HDMI ที่เชื่อมต่ออยู่
- ปุ่ม EXT.BOX MENU บนรีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน คุณสมบัตินี้สามารถใช้งานได้สำหรับทีวีที่ซึ่งรีโมทคอนโทรลที่ให้มามีปุ่ม EXT.BOX MENU
- ท่านไม่สามารถปิดกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) โดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวีผ่านฟังก์ชั่น IR Blaster
- ท่านไม่สามารถควบคุม AV รีซีฟเวอร์เครื่องที่สอง
- อุปกรณ์ภายนอก (เช่น กล่องรับสัญญาณ หรือตัวรับสัญญาณ AV ) ไม่สามารถควบคุมผ่าน IR Blaster ได้ (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
- ไฟล์สื่อข้อมูลบางประเภทในอุปกรณ์ USB หรือเซิร์ฟเวอร์จะไม่แสดงขึ้นมา
- ตัดการทำงาน หรืออุปกรณ์ไม่ทำงาน
- อุปกรณ์ชนิดใดที่สามารถเชื่อมต่อโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอได้?
- ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Miracast หรืออุปกรณ์ที่รองรับการสะท้อนหน้าจอ
- เสียงหรือวิดีโอถูกตัดเป็นบางครั้ง
- เนื้อหาที่ต้องชำระค่าบริการบางรายการไม่สามารถเล่นได้
ไม่มีภาพจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- เปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อสายสัญญาณระหว่างอุปกรณ์ดังกล่าวกับทีวี
- กดปุ่ม (เลือกอินพุต) เพื่อแสดงรายการสัญญาณเข้า จากนั้นเลือกสัญญาณเข้าที่ต้องการ
- เสียบอุปกรณ์ USB ให้ถูกต้อง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ USB ดังกล่าวได้รับการฟอร์แมตอย่างถูกต้องแล้ว
- ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ USB ได้ทุกตัว นอกจากนี้ วิธีการใช้งานจะแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของอุปกรณ์ USB หรือไฟล์วิดีโอที่กำลังเล่นอยู่
- หากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่เชื่อมต่อกับ HDMI IN 2 หรือ 3 ให้เชื่อมต่อกับ HDMI IN 1 หรือ 4
- เปลี่ยนรูปแบบสัญญาณ HDMI ของสัญญาณเข้า HDMI ที่ไม่แสดงภาพเป็นรูปแบบมาตรฐาน กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [รูปแบบสัญญาณ HDMI]
ท่านไม่สามารถเลือกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ได้ในโฮมเมนู
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อสายสัญญาณ
บาง รายการ ของแหล่งสัญญาณดิจิตอลมีการสูญเสียรายละเอียด
- ภาพที่มีรายละเอียดน้อยกว่าปกติหรือสิ่งผิดปกติ (บล็อกขนาดเล็ก, จุด หรือเม็ดพิกเซล) อาจแสดงบนหน้าจอ ทั้งนี้เกิดจากการบีบอัดสัญญาณภาพแบบดิจิตอลของเนื้อหาต้นทาง ซึ่งใช้กับการออกอากาศสัญญาณภาพแบบดิจิตอลและในแผ่น DVD ความชัดเจนของสิ่งผิดปกติที่มองเห็นได้จะขึ้นอยู่กับความคมชัดและความละเอียดของหน้าจอทีวี
ใช้เวลาสักครู่ในการแสดงภาพถ่ายหรือโฟลเดอร์
- ทีวีอาจใช้เวลาครู่หนึ่งในการแสดงภาพถ่ายบางภาพหรือโฟลเดอร์บางโฟลเดอร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพ, ขนาดไฟล์ และจำนวนของไฟล์ในโฟลเดอร์
- ทุกครั้งที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ USB กับทีวี อาจใช้เวลาประมาณสองนาทีในการแสดงภาพ
ท่านไม่สามารถค้นหาอุปกรณ์ BRAVIA Sync HDMI ที่เชื่อมต่ออยู่
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าว่าอุปกรณ์ของท่านรองรับ BRAVIA Sync
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า [การควบคุมสำหรับ HDMI] ของอุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Syncและตั้งค่า [การตั้งค่า BRAVIA Sync] — [การควบคุม BRAVIA Sync] ของทีวี
ปุ่ม EXT.BOX MENU บนรีโมทคอนโทรลไม่ทำงาน
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัตินี้สามารถใช้งานได้สำหรับทีวีที่ซึ่งรีโมทคอนโทรลที่ให้มามีปุ่ม EXT.BOX MENU
รุ่นที่รองรับ IR Blaster มี [การติดตั้ง IR Blaster] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า]
- การใช้ปุ่ม EXT.BOX MENU ให้เชื่อมต่อและตั้งค่า IR Blaster (สำหรับรุ่นที่ให้ IR Blaster มาด้วย) เชื่อมต่อ IR Blaster กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [การติดตั้ง IR Blaster] (รุ่นที่รองรับ IR Blaster อาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น/ประเทศของท่าน)
- หากเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่รองรับ BRAVIA Sync และแสดงโดยใช้ช่องสัญญาณเข้า HDMI เครื่องบางรุ่นจะสามารถแสดงเมนูโดยใช้ปุ่ม EXT.BOX MENU ได้ แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้ทุกตัว
ท่านไม่สามารถปิดกล่องรับสัญญาณ (กล่องรับสัญญาณดาวเทียม/เคเบิล) โดยใช้รีโมทคอนโทรลของทีวีผ่านฟังก์ชั่น IR Blaster
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่รองรับ IR Blaster มี [การติดตั้ง IR Blaster] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า]
- กดปุ่ม ACTION MENU จากนั้นเลือก [พลังงาน (ชุดกล่องสัญญาณ)] ใน [เมนู]
ท่านไม่สามารถควบคุม AV รีซีฟเวอร์เครื่องที่สอง
- สามารถใช้ได้แต่ AV รีซีฟเวอร์ที่รองรับ BRAVIA Sync ได้เพียงหนึ่งเครื่องเท่านั้น
อุปกรณ์ภายนอก (เช่น กล่องรับสัญญาณ หรือตัวรับสัญญาณ AV ) ไม่สามารถควบคุมผ่าน IR Blaster ได้ (รุ่นที่รองรับ IR Blaster เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่รองรับ IR Blaster มี [การติดตั้ง IR Blaster] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า]
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่า IR Blaster ได้อย่างถูกต้องและตัวถ่ายทอดสัญญาณ IR อยู่ใกล้กับตัวรับสัญญาณ IR ของอุปกรณ์ภายนอก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีวีของท่านรองรับอุปกรณ์ภายนอก
- หากท่านกดปุ่มบนรีโมทคอนโทรลค้างไว้ อาจไม่ทำงาน ลองกดปุ่มซ้ำ ๆ แทน
- อุปกรณ์ภายนอกบางชิ้นอาจไม่ตอบสนองต่อปุ่มบางปุ่มบน “เมนูการดำเนินงาน”
- IR Blaster อาจตั้งค่าไม่ถูกต้อง การตั้งค่า IR Blaster ให้กดปุ่ม HOME จากนั้นจึงเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [ช่องต่อเข้า] — [การติดตั้ง IR Blaster]
ไฟล์สื่อข้อมูลบางประเภทในอุปกรณ์ USB หรือเซิร์ฟเวอร์จะไม่แสดงขึ้นมา
- ไฟล์ที่เครื่องไม่รองรับจะไม่แสดงขึ้นมา
- ไฟล์/โฟลเดอร์ทั้งหมดอาจไม่แสดงขึ้นมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของระบบ
ตัดการทำงาน หรืออุปกรณ์ไม่ทำงาน
- ตรวจดูว่าอุปกรณ์เปิดอยู่หรือไม่
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ของอุปกรณ์
- ลงทะเบียนอุปกรณ์ซ้ำอีกครั้ง
- อุปกรณ์บลูทูธใช้แถบคลื่นความถี่ 2.4GHz ดังนั้น ความเร็วการสื่อสารอาจลดลงหรือถูกตัดเป็นบางครั้ง เนื่องมาจากการรบกวนของ LAN ไร้สาย
หากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (เช่น ไมโครเวฟหรืออุปกรณ์มือถือ) วางอยู่ในบริเวณใกล้เคียง อาจทำให้สัญญาณรบกวนจากคลื่นวิทยุเพิ่มมากขึ้น - ทีวีหรืออุปกรณ์บนชั้นวางโลหะอาจไม่ทำงานเนื่องจากสัญญาณรบกวนจากการสื่อสารแบบไร้สาย
- สำหรับระยะห่างในการสื่อสารระหว่างทีวีและอุปกรณ์อื่นที่สามารถใช้ได้ ให้ดูคู่มือการใช้งานของอุปกรณ์นั้น
- เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธหลายตัวเข้ากับทีวี คุณภาพการสื่อสารบลูทูธอาจลดลง
อุปกรณ์ชนิดใดที่สามารถเชื่อมต่อโดยใช้ฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอได้?
- อุปกรณ์ที่ใช้งาน Wi‑Fi เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่รองรับ Miracast สามารถนำมาใช้เพื่อเพลิดเพลินไปกับการสะท้อนหน้าจอบน BRAVIA TV ของคุณได้ ดูที่คู่มือการใช้งานของอุปกรณ์ Wi‑Fi ของคุณ เพื่อดูว่ารองรับ Miracast หรือไม่ BRAVIA TV สามารถใช้งานร่วมกับ Miracast ได้ แต่ไม่รับรองความสำเร็จในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั้งหมด
ทีวีไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Miracast หรืออุปกรณ์ที่รองรับการสะท้อนหน้าจอ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- หากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Miracast (เช่น แล็ปท็อป) ล้มเหลว ให้กดปุ่ม (เลือกอินพุต) จากนั้นเลือก [การสะท้อนหน้าจอ] เพื่อแสดงหน้าจอพร้อมใช้งานสำหรับฟังก์ชั่นการสะท้อนหน้าจอและลองเชื่อมต่ออีกครั้ง
- หากท่านกำลังใช้งาน การสะท้อนหน้าจอ กับอุปกรณ์ตัวอื่น ให้ปิดใช้งาน การสะท้อนหน้าจอ ก่อนและลองอีกครั้ง
เสียงหรือวิดีโอถูกตัดเป็นบางครั้ง
- อุปกรณ์ที่มีการปล่อยคลื่นวิทยุ เช่น อุปกรณ์ LAN ไร้สายอื่นๆ หรือเตาไมโครเวฟ อาจรบกวนการทำงานของฟังก์ชั่น การสะท้อนหน้าจอ ที่ใช้ LAN ไร้สาย ติดตั้งทีวีหรืออุปกรณ์ Sony ที่สนับสนุนการทำงานร่วมกับฟังก์ชั่น การสะท้อนหน้าจอ (เช่น Xperia บางรุ่น) ให้ห่างจากอุปกรณ์ดังกล่าวหรือปิดอุปกรณ์ หากทำได้
- ความเร็วในการสื่อสารอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามระยะห่าง หรือสิ่งกีดขวางระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ, การกำหนดค่าอุปกรณ์, สภาวะของคลื่นวิทยุ, ความแออัดของเส้นทางการสื่อสารข้อมูล หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้งาน การสื่อสารอาจถูกตัดขาดในบางครั้งเนื่องมาจากสภาวะของคลื่นวิทยุ
เนื้อหาที่ต้องชำระค่าบริการบางรายการไม่สามารถเล่นได้
- อุปกรณ์ที่เป็นแหล่งสัญญาณต้องได้มาตรฐาน HDCP (การปกป้องเนื้อหาแบบดิจิตอลแบนด์วิธสูง) 2.0/2.1/2.2
บางเนื้อหาที่ต้องชำระค่าบริการอาจไม่แสดงขึ้นผ่านอุปกรณ์ที่เป็นแหล่งสัญญาณที่ไม่ได้มาตรฐาน HDCP 2.0/2.1/2.2
การบันทึก USB HDD (รุ่นที่บันทึก USB HDD เท่านั้น)
- ท่านไม่สามารถใช้อุปกรณ์ HDD USB (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
- อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถลงทะเบียนได้ (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การบันทึกไม่สามารถทำได้/การบันทึกล้มเหลว (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
- เนื้อหาที่บันทึกไว้หายไป (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
- อุปกรณ์ HDD USB ทำงานแม้ว่าจะไม่ได้เปิด (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
ท่านไม่สามารถใช้อุปกรณ์ HDD USB (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี]
- ตรวจเช็คว่าอุปกรณ์ HDD USB:
- เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง
ตรวจเช็คว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อกับช่อง USB3 สีน้ำเงินที่ระบุเป็น “HDD REC” แล้ว
- เปิดอยู่
- ลงทะเบียนกับทีวีแล้ว
การลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวี กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การลงทะเบียน HDD]
- เชื่อมต่ออย่างถูกต้อง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ HDD USB ผ่านฮับ USB
- ใช้งาน [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD] เพื่อตรวจเช็คว่าข้อมูลจำเพาะของ HDD USB ตรงตามข้อกำหนดหรือไม่
กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD]
อุปกรณ์ HDD USB ไม่สามารถลงทะเบียนได้ (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจเช็คว่าอุปกรณ์ HDD USB เชื่อมต่อกับช่อง USB3 (สีน้ำเงิน) ที่ระบุเป็น “HDD REC” อยู่หรือไม่
- หากอุปกรณ์ HDD USB เชื่อมต่อกับช่อง USB3 สีน้ำเงินอย่างถูกต้อง ให้ลงทะเบียนอุปกรณ์เพื่อการบันทึกอีกครั้ง เนื่องจากอุปกรณ์มีการลงทะเบียนเป็นอุปกรณ์สำหรับวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบันทึก (เช่น การเก็บข้อมูล) ไว้แล้ว
หมายเหตุ
- หากมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่กับช่อง USB1 และ USB2 ให้ถอดอุปกรณ์เหล่านี้ออกชั่วคราวในขณะที่ลงทะเบียน USB HDD
- กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [ที่เก็บข้อมูล]
- จาก [ที่เก็บข้อมูลอุปกรณ์] เลือกอุปกรณ์ HDD USB ที่ท่านต้องการลงทะเบียนสำหรับการบันทึก
- เลือก [ลงทะเบียนสำหรับการบันทึก]
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อลงทะเบียนอุปกรณ์ HDD USB กับทีวี
- ใช้ [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD] เพื่อตรวจเช็คว่าข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์ HDD USB ตรงตามข้อกำหนดหรือไม่
การใช้งาน [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD] กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี] — [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] — [การตรวจสอบประสิทธิภาพ HDD]
การบันทึกไม่สามารถทำได้/การบันทึกล้มเหลว (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
รุ่นที่มีการบันทึก HDD USB มี [การตั้งค่าอุปกรณ์บันทึก] ใน [การตั้งค่า] — [การรับชมทีวี]
- หากการบันทึกล้มเหลว สาเหตุจะถูกแสดงใน [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก] กดปุ่ม TITLE LIST จากนั้นเลือก [รายการข้อผิดพลาดการบันทึก]
- ตรวจเช็คพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้ใน HDD หากเหลือพื้นที่น้อยมาก ให้ลบเนื้อหาที่ไม่จำเป็นออก
- รายการ ต่อไปนี้ ไม่สามารถบันทึกได้
- รายการ ที่มีการป้องกันการคัดลอก
- รายการ อนาล็อก
- รายการ จากช่องต่อเข้า (รวมถึง รายการ จากกล่องรับสัญญาณที่เชื่อมต่ออยู่)
- เนื้อหาสตรีม
- การบันทึกแบบตั้งเวลาอาจไม่สามารถทำได้หากเวลาการออกอากาศของ รายการ มีการเปลี่ยนแปลง
เนื้อหาที่บันทึกไว้หายไป (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
- การบันทึกจะไม่สามารถทำได้หากสายไฟ AC (สายหลัก) หรือสายสัญญาณเชื่อมต่อถูกถอดขณะบันทึก ห้ามถอดสายใดๆ ขณะทำการบันทึกเนื้อหา มิฉะนั้น เนื้อหาที่กำลังบันทึกหรือเนื้อหาที่บันทึกไว้ทั้งหมดอาจสูญหายได้
อุปกรณ์ HDD USB ทำงานแม้ว่าจะไม่ได้เปิด (รุ่นที่มีการบันทึก USB HDD เท่านั้น)
- HDD USB ที่เชื่อมต่ออยู่อาจหมุนหรือไฟ LED ของอุปกรณ์อาจสว่างขึ้นขณะทีวีได้รับข้อมูล EPG ระหว่างที่อยู่ในโหมดพร้อมใช้งาน
LED
- ไฟ LED ส่องสว่างสว่างขึ้นในบางครั้ง
- ท่านต้องการปิดใช้งานไฟ LED ส่องสว่างเพื่อไม่ให้ไฟสว่างขึ้นหรือกะพริบ
ไฟ LED ส่องสว่างสว่างขึ้นในบางครั้ง
ไฟ LED ส่องสว่างจะสว่างขึ้นในเวลาต่างๆ เช่น ในระหว่างการอัพเดทซอฟต์แวร์ หรือการบันทึกทีวี
ให้ดู วิธีที่ทำให้ไฟ illumination LED สว่างขึ้น สำหรับรายละเอียด
ท่านต้องการปิดใช้งานไฟ LED ส่องสว่างเพื่อไม่ให้ไฟสว่างขึ้นหรือกะพริบ
เลือก ภายในข้อความเพื่อไปยังหน้าจอการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถปิดได้ กดปุ่ม HOME จากนั้นเลือก [การตั้งค่า] — [ค่ากำหนดอุปกรณ์] — [ไฟ LED ส่องสว่าง] — [ปิด]
หมายเหตุ
- เราแนะนำให้ท่านไม่เปลี่ยนการตั้งค่านี้ในสถานการณ์ปกติ เนื่องจากท่านจะไม่สามารถบอกได้ว่าทีวีกำลัง บันทึก, เปิดหรือปิด หรือตั้งเวลาไว้หรือไม่
ดัชนี
รายการ ทีวี
|
|
รูปภาพ/จอแสดงผล
|
|
เสียง/เสียงพูด
|
รีโมทคอนโทรล
|
|
การเชื่อมต่อ
|
|
อุปกรณ์ภายนอก
|
|
แอพพลิเคชั่น
|
|
การเล่นไฟล์
|
|
อื่นๆ
|
|