การฟังเพลงแบบไร้สายด้วยลำโพง 2 เครื่อง (ฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ)
เมื่อต้องการใช้ฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ ต้องมีลำโพง SRS-XB43 2 เครื่อง เมื่อเชื่อมต่อลำโพง 2 เครื่องผ่านการเชื่อมต่อ BLUETOOTH คุณจะสามารถสนุกกับเสียงที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
สำหรับการเล่นเสียงสเตอริโอระหว่างลำโพง ลำโพงหนึ่งเครื่องจะเล่นเสียงที่ช่องสัญญาณขวา (ด้านขวา) ในขณะที่ลำโพงอีกเครื่องจะเล่นเสียงที่ช่องสัญญาณซ้าย (ด้านซ้าย)
สำหรับอุปกรณ์ Apple iOS เครื่องนี้รองรับการใช้งานกับ iOS 10.0 หรือใหม่กว่า การเชื่อมต่อ BLUETOOTH ไม่รองรับในอุปกรณ์ที่ใช้ iOS 9.x หรือเก่ากว่า
หมายเหตุ
-
ก่อนทำการเชื่อมต่อระหว่างลำโพงและอุปกรณ์ BLUETOOTH ให้ลดระดับเสียงของลำโพงและอุปกรณ์ หรือหยุดเล่นเพลงในอุปกรณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงดังจากลำโพงอย่างฉับพลัน
-
ตั้งลำโพง 2 เครื่องห่างกันภายในระยะ 1 เมตร จากนั้นเปิดลำโพงทั้งสองเครื่อง
ไฟแสดงสถานะ
(เปิด/ปิดเครื่อง) สว่างขึ้นไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) กะพริบอย่างช้า ๆหากอุปกรณ์ BLUETOOTH ที่เคยเชื่อมต่ออยู่ในระยะใกล้ ลำโพงอาจเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ จากนั้นไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) อาจสว่างขึ้น ในกรณีนี้ ให้ปิดฟังก์ชัน BLUETOOTH ในอุปกรณ์ BLUETOOTH หรือปิดอุปกรณ์ BLUETOOTH
เมื่อลำโพงไม่มีข้อมูลการจับคู่ เช่น เมื่อคุณใช้ฟังก์ชัน BLUETOOTH เป็นครั้งแรกหลังจากที่ซื้อ ไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) จะกะพริบเป็นสีน้ำเงินแบบสองครั้ง
-
กดปุ่ม ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) ด้านหลังฝาปิดที่อยู่ด้านหลังของลำโพงเครื่องใดเครื่องหนึ่งใน 2 เครื่อง
คุณจะได้ยินเสียงเตือน จากนั้นไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) และไฟแสดงสถานะ ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) จะกะพริบ ภายในประมาณ 6 วินาที ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) จะหยุดกะพริบ และจะติดสว่างค้างไว้พร้อมเสียงเตือน
-
กดปุ่ม ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) ด้านหลังฝาปิดที่อยู่ด้านหลังของลำโพงอีกเครื่อง
ไฟแสดงสถานะ ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) สว่างขึ้น
คุณจะได้ยินเสียงระบบแนะนำการใช้งานด้วยเสียง “Left” (ซ้าย) หรือ “Right” (ขวา) จากลำโพงแต่ละเครื่อง จากนั้นฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอจะเชื่อมต่อลำโพงทั้งสองเครื่อง
เมื่อเชื่อมต่อสำหรับฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ ไฟแสดงสถานะ ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) ของลำโพงสองเครื่องจะติดสว่างค้างไว้ ไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) ของลำโพงเครื่องใดเครื่องหนึ่งจะดับลง
คำแนะนำ
-
เมื่อทำการเชื่อมต่อ BLUETOOTH ระหว่างลำโพง 2 เครื่องทันที ไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) และไฟแสดงสถานะ ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) อาจไม่กะพริบ และไฟแสดงสถานะ ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) อาจสว่างขึ้นแทน -
ตั้งค่าลำโพงเครื่องที่สองภายใน 1 นาที หากคุณไม่ตั้งค่าภายใน 1 นาที การตั้งค่าของลำโพงเครื่องแรกจะถูกยกเลิก
-
-
ใช้งานลำโพงเครื่องที่ไฟแสดงสถานะ(BLUETOOTH) กำลังกะพริบเพื่อสร้างการเชื่อมต่อ BLUETOOTH ด้วยอุปกรณ์ BLUETOOTH
เมื่อเชื่อมต่อ BLUETOOTH แล้ว คุณจะได้ยินเสียงระบบแนะนำการใช้งานด้วยเสียง (BLUETOOTH connected (BLUETOOTH เชื่อมต่อแล้ว)) จากลำโพง และไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) จะเปลี่ยนจากไฟกะพริบเป็นติดสว่าง
-
เริ่มเล่นในอุปกรณ์ BLUETOOTH และปรับระดับเสียงเป็นระดับปานกลาง
-
กดปุ่ม -/+ (ระดับเสียง) ที่ลำโพงเครื่องใดเครื่องหนึ่งเพื่อปรับระดับเสียง
การปรับระดับเสียงของลำโพงหนึ่งเครื่องจะส่งผลที่ลำโพงอีกเครื่องเช่นกัน
เมื่อต้องการสลับช่องสัญญาณเสียงขวา (ด้านขวา) และช่องสัญญาณเสียงซ้าย (ด้านซ้าย)
ที่ลำโพงเครื่องใดเครื่องหนึ่ง ให้กดปุ่ม ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) ด้านหลังฝาปิดที่อยู่ด้านหลังของลำโพง
คุณจะได้ยินเสียงระบบแนะนำการใช้งานด้วยเสียง จากนั้นช่องสัญญาณเสียงขวาและซ้ายจะสลับกัน
คำแนะนำ
-
เมื่อใช้ “Sony | Music Center” คุณจะสามารถสร้างการเชื่อมต่อสำหรับฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ หรือสิ้นสุดฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอได้ หากต้องการอนุญาตรายการนี้ ให้อัพเดทซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้แล้วในลำโพงแต่ละเครื่องและทุกเครื่องเป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อเชื่อมต่อสำหรับฟังก์ชันนี้
(สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการอัพเดท โปรดดูการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้แล้ว)
-
เมื่อโทรออกหรือรับสาย ให้สั่งงานลำโพงเครื่องที่ไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) สว่างขึ้นเท่านั้น -
หากอุปกรณ์ BLUETOOTH เครื่องอื่น เช่น เมาส์ BLUETOOTH หรือคีย์บอร์ด BLUETOOTH เชื่อมต่ออุปกรณ์ BLUETOOTH ที่กำลังเชื่อมต่อกับลำโพง อาจมีเสียงผิดเพี้ยนหรือเสียงรบกวนออกจากการส่งสัญญาณเสียงของลำโพง ในกรณีนี้ ให้ยุติการเชื่อมต่อ BLUETOOTH ระหว่างอุปกรณ์ BLUETOOTH และอุปกรณ์ BLUETOOTH อื่น
-
เมื่อใช้ฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ โคเดกจะสลับเป็น SBC โดยอัตโนมัติ
-
หากลำโพงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ BLUETOOTH อยู่ก่อนแล้ว เมื่อนำอุปกรณ์อื่นที่รองรับการใช้งาน NFC มาสัมผัสกับลำโพง จะทำให้การเชื่อมต่อ BLUETOOTH กับอุปกรณ์เครื่องก่อนหน้าถูกตัด และจะเชื่อมต่อ BLUETOOTH กับอุปกรณ์เครื่องใหม่
-
การปิดลำโพงไม่ได้เป็นการสิ้นสุดฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ เมื่อเปิดลำโพงอีกครั้ง ลำโพงจะพยายามสร้างการเชื่อมต่อสำหรับฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ ในการใช้ฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ ให้เปิดลำโพงอีกเครื่องภายใน 1 นาที
ขณะที่เปิดฟังก์ชันพร้อมใช้งาน BLUETOOTH ในลำโพงทั้ง 2 เครื่อง การเปิดลำโพงเครื่องใดเครื่องหนึ่งจะเป็นการเปิดลำโพงอีกเครื่องโดยอัตโนมัติเช่นกัน และจะสร้างการเชื่อมต่อสำหรับฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอระหว่างลำโพง 2 เครื่อง
หมายเหตุ
-
หลังจากที่คุณรีสตาร์ทหรือกำหนดค่าเริ่มต้นให้ลำโพงเครื่องใดเครื่องหนึ่งในขณะเปิดใช้งานฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ โปรดแน่ใจว่าได้กดปุ่ม ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) ที่ลำโพงอีกเครื่อง เพื่อสิ้นสุดฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ หากคุณใช้งานลำโพงต่อโดยไม่ได้สิ้นสุดฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอ คุณจะพบปัญหา เช่น ไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อ BLUETOOTH หรือเสียงขัดข้อง
-
เมื่อคุณสร้างการเชื่อมต่อ BLUETOOTH ด้วย One-touch (NFC) ให้สัมผัสลำโพงเครื่องที่ไฟแสดงสถานะ
(BLUETOOTH) กะพริบ อุปกรณ์ไม่สามารถสร้างการเชื่อมต่อ BLUETOOTH กับลำโพงเมื่อไฟแสดงสถานะ(BLUETOOTH) ดับ -
เมื่อลำโพงอยู่ในโหมด AUDIO IN คุณไม่สามารถใช้ฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอได้
หากอุปกรณ์เล่นเสียงแบบพกพา ฯลฯ ต่อกับช่องเสียบ AUDIO IN ของลำโพง ลำโพงจะเปลี่ยนเป็นโหมด AUDIO IN โดยอัตโนมัติ และฟังก์ชันจับคู่สเตอริโอจะยุติการทำงาน
-
โปรดแน่ใจว่าได้ปิดฝาปิดแน่นสนิทแล้วหลังจากใช้ปุ่ม ST PAIR (จับคู่สเตอริโอ) ฝาปิดเป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญมากสำหรับการรักษาประสิทธิภาพการกันน้ำและการกันฝุ่น
