วิธีดูแลรักษาลำโพง

แม้จะมีการเคลือบผิวกันนํ้าในส่วนที่เป็นผ้าของลำโพงไว้แล้ว แต่ท่านเองก็สามารถใช้งานลำโพงได้อย่างสบายใจและยาวนานขึ้นได้โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลรักษาต่อไปนี้

  • หากพื้นผิวของลำโพงเปื้อนในกรณีต่อไปนี้ ให้ล้างลำโพงด้วยน้ำสะอาด (น้ำก๊อก ฯลฯ) ทันทีเพื่อขจัดคราบสกปรก การปล่อยให้สิ่งสกปรกติดอยู่บนพื้นผิวอาจทำให้ส่วนที่เป็นผ้าหรือส่วนที่เป็นพาสซีฟเรดิเอเตอร์ () เปลี่ยนสีหรือเสื่อมสภาพ หรืออาจทำให้ลำโพงทำงานผิดปกติได้
    ตัวอย่าง
    • เมื่อทราย เกลือ (คลอรีน) หรือสิ่งตกค้างอื่น ๆ เข้าไปในลำโพงหลังจากใช้งานในบริเวณภูเขา ข้างสระว่ายน้ำ ฯลฯ
    • เมื่อลำโพงเปื้อนสารแปลกปลอมต่าง ๆ (ครีมกันแดด, ครีมอาบแดด ฯลฯ)

    ภาพประกอบลำโพงแสดงตำแหน่งพาสซีฟเรดิเอเตอร์

  • หากลำโพงเปียก ให้ใช้ผ้านุ่มที่แห้งเช็ดของเหลวดังกล่าวทันที นอกจากนั้น ให้วางลำโพงทิ้งไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก จนกว่าความชื้นจะหมดไป
  • คุณภาพเสียงอาจเปลี่ยนไปเมื่อน้ำเข้าสู่ส่วนลำโพง ซึ่งนี่ไม่ใช่การทำงานผิดปกติแต่อย่างใด เช็ดความชื้นบนพื้นผิวออก และวางลำโพงไว้บนผ้าแห้งที่นุ่มเพื่อระบายนํ้าที่ขังอยู่ภายในลำโพงออก จากนั้น ให้วางลำโพงทิ้งไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก จนกว่าความชื้นจะหมดไป

หมายเหตุ

  • หากพื้นผิวของลำโพงสกปรก ห้ามใช้ผงซักฟอก, ทินเนอร์, เบนซิน, แอลกอฮอล์ ฯลฯ ในการทำความสะอาดลำโพง เพราะอาจมีผลกระทบต่อคุณสมบัติเคลือบผิวกันนํ้าในส่วนที่เป็นผ้าของลำโพงได้

  • โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในพื้นที่เย็น ควรเช็ดความชื้นออกให้หมดหลังจากใช้งานลำโพง การปล่อยให้ตัวลำโพงมีความชื้นอาจทำให้ลำโพงเย็นจัดและทำงานบกพร่องได้

  • หากมีเม็ดทราย ฯลฯ เข้าไปในส่วนที่เป็นผ้าหรือส่วนอื่นของลำโพง ให้นำออกอย่างระมัดระวัง ห้ามใช้เครื่องดูดฝุ่น ฯลฯ กับลำโพง เพราะอาจทำให้ส่วนที่เป็นลำโพงหรือส่วนอื่นของลำโพงเสียหายได้