 | - USB
- เชื่อมต่อเข้ากับกล้องดิจิตอล/กล้องวิดีโอ/ที่จัดเก็บสื่อ USB
หมายเหตุ- การเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ USB ขนาดใหญ่อาจรบกวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ข้างๆ กัน ในกรณีนี้ ให้เชื่อมต่อกับอินพุต USB อื่นแทน
|
 | - REMOTE RS-232C
- ขั้วต่อนี้ใช้สำหรับให้บริการเท่านั้น
|
 | - VIDEO IN
- เชื่อมต่อกับ VCR/อุปกรณ์วิดีโอเกม/เครื่องเล่น DVD/กล้องวิดีโอ
สำหรับการเชื่อมต่อแบบคอมโพสิท ให้ใช้ สายต่ออนาล็อก (ไม่ได้ให้มาด้วย)
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปทรงของสายต่ออนาล็อกที่ การเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นบลูเรย์หรือ DVD
|
 |  (หูฟัง)- การเชื่อมต่อเข้ากับช่องต่อหูฟังเพื่อฟังเสียงจากทีวี รองรับช่องต่อขนาดเล็กแบบสเตอริโอ 3 ขาเท่านั้น
หมายเหตุ- ท่านไม่สามารถส่งเสียงจากทั้งหูฟังและลำโพงทีวีได้ในเวลาเดียวกัน
|
 | - IR Blaster
- ใช้รีโมทคอนโทรลของ Sony เพื่อควบคุมกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ของคุณ เชื่อมต่อสาย IR Blaster เข้ากับพอร์ต IR Blaster ที่ทีวีของคุณ
|
 | - HDMI IN
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HDMI อินเทอร์เฟซ HDMI สามารถโอนสัญญาณภาพและเสียงระบบดิจิตอลผ่านสายเชื่อมต่อสายเดียว เพื่อให้เพลิดเพลินไปกับเนื้อหาแบบ 4K คุณภาพสูง ให้เชื่อมต่อ Premium High Speed HDMI™ Cable(s) และตั้งค่า [รูปแบบสัญญาณ HDMI] เป็น [รูปแบบที่ปรับปรุง]
|
 | - HDMI IN (8K, 4K 120 Hz)
- หากคุณใช้อุปกรณ์ HDMI ที่รองรับสัญญาณ 8K หรือ 4K 100/120 Hz ให้ต่อ Ultra High Speed HDMI™ Cable, แล้วตั้งค่า [รูปแบบสัญญาณ HDMI] ของพอร์ตเป็น [รูปแบบที่ปรับปรุง (8K)]
[รูปแบบที่ปรับปรุง (8K)] ใช้ได้เฉพาะสำหรับ HDMI IN ports of models that support 8K
หมายเหตุ- การรองรับสัญญาณ 4K 100 Hz จะขึ้นอยู่กับประเทศ/ภูมิภาคของคุณ
|
  | - HDMI IN (eARC/ARC) หรือ HDMI IN (ARC)
- เชื่อมต่อเครื่องเสียงที่รองรับ eARC (Enhanced Audio Return Channel) หรือ ARC (Audio Return Channel) โดยเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ที่กำกับเป็น “eARC/ARC” หรือ “ARC” จากทีวี นี่เป็นคุณสมบัติที่ส่งเสียงไปยังระบบเสียงที่รองรับ eARC/ARC ผ่านสาย HDMI หากระบบเสียงไม่รองรับ eARC/ARC ท่านจะต้องเชื่อมต่อกับ DIGITAL AUDIO OUT (OPTICAL)
|
 | - DVI
- การเชื่อมต่อหัวแปลง DVI - HDMI/อุปกรณ์ HDMI
หากอุปกรณ์มีช่องต่อ DVI ให้เชื่อมต่อเข้ากับช่อง HDMI IN ที่รองรับ DVI ผ่านหัวแปลง DVI - HDMI (ไม่ให้มาด้วย) และเชื่อมต่อช่องสัญญาณเสียงออกของอุปกรณ์กับช่อง HDMI AUDIO IN
|
 | - HDMI AUDIO IN
- การเชื่อมต่อหัวแปลง DVI - HDMI/อุปกรณ์ HDMI
หากอุปกรณ์มีช่องเสียบ DVI ให้เชื่อมต่อกับช่องสัญญาณขาเข้า HDMI IN ที่รองรับ DVI ผ่านทางอินเตอร์เฟซหัวแปลง DVI - HDMI (ไม่ได้จัดมาให้) แล้วทำการต่อช่องสัญญาณเสียงขาออกของอุปกรณ์เข้าที่ HDMI AUDIO IN
|
 | - DIGITAL AUDIO OUT (OPTICAL)
- เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องเสียงด้วยช่องอินพุตเสียงออปติคอล
เมื่อการเชื่อมต่อระบบเสียงไม่สามารถใช้ได้กับ ARC/eARC โดยใช้สาย HDMI ท่านต้องเชื่อมสายสัญญาณเสียงออปติคอลเข้ากับ DIGITAL AUDIO OUT (OPTICAL) เพื่อให้ส่งออกเสียงดิจิตอลได้
|
 |  (ช่องสาย/เสาอากาศ)- การเชื่อมต่อกับสาย/เสาอากาศ/กล่องรับสัญญาณภายนอก
หมายเหตุ- เมื่อเชื่อมต่อสายกับช่องสาย/เสาอากาศ ให้ใช้นิ้วขันเท่านั้นเนื่องจากการเชื่อมต่อที่แน่นเกินไปอาจทำให้ทีวีเสียหายได้
|
 | - LAN
- เชื่อมต่อกับเราเตอร์
เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตโดยใช้สาย LAN
|
 | - COMPONENT IN
- การเชื่อมต่อกับ VCR/อุปกรณ์วิดีโอเกม/เครื่องเล่น DVD/กล้องวิดีโอ/กล่องรับสัญญาณภายนอก*1
ใช้ช่องต่อคอมโพเนนต์เป็นช่องต่อวิดีโอ หากอุปกรณ์ของท่านมีเฉพาะช่องต่อส่งสัญญาณวิดีโอ
เมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โมโน ให้เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ทสัญญาณเสียง L (MONO) (ช่องต่อ)
*1 สำหรับอุปกรณ์ภายนอกที่มีเฉพาะ SCART AV OUT ให้ใช้หัวแปลง SCART-RCA
|
| - COMPONENT IN
- การเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องเล่น DVD ด้วยช่องต่อสัญญาณออกคอมโพเนนต์
เชื่อมต่อกับพอร์ทคอมโพเนนต์ หากอุปกรณ์ของท่านมีช่องต่อสัญญาณออกของวิดีโอคอมโพเนนต์
|
 | - CENTER SPEAKER IN
- การใช้ลำโพงทีวีเป็นลำโพงกลาง ให้เชื่อมต่อสายส่งสัญญาณของ AV รีซีฟเวอร์ของท่านเข้ากับ CENTER SPEAKER IN ของทีวี
ใช้งานลำโพงทีวีเป็นลำโพงตัวกลางโดยกดปุ่ม HOME ที่รีโมทคอนโทรลและตั้งค่า [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก] — [ลำโพง] — [เครื่องเสียง]หมายเหตุ- ก่อนต่อสาย ให้ถอดสายไฟ AC (สายหลัก) ของทั้งทีวีและ AV รีซีฟเวอร์ออกก่อน
- หากคุณไม่ได้ใช้ขั้ว CENTER SPEAKER IN ให้เปลี่ยนค่าต่อไปนี้เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนจากลำโพง
กดปุ่ม HOME ที่รีโมทคอนโทรล แล้วปิดใช้งาน [โหมดลำโพงกลางของทีวี] ใน [การตั้งค่า] — [การแสดงผลและการปรับเสียง] — [สัญญาณเสียงออก]
|
